คณะกรรมการจัดระเบียบฯ ลงมติไม่ขยายอายุรถตู้ ส่งผลรถตู้ 1,800 คันต้องหยุดวิ่งทันที เหตุไม่ปลอดภัย หากเอาออกมาวิ่งให้บริการจะผิดกฎหมาย คาดคนขับ 2,000 คนต้องตกงานทันที...
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่กลุ่มรถตู้ร่วมให้บริการ ขสมก. ซึ่งวิ่งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ยื่นข้อเรียกร้อง ขอขยายอายุรถตู้จาก 10 ปี เป็น 15 ปี จนถึงปี 2565 เพื่อรอดูผลกระทบจากโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้านั้น ในเรื่องนี้ ทางคณะกรรมการจัดระเบียบรถตู้ กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ ที่มีพันเอกสมบัติ ธัญญะวัน รองผบ.พล.ม.2 รอ. เป็นประธาน ได้เชิญกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) และกลุ่มรถตู้เข้าหารือถึงข้อเรียกร้องเข้ามาหารือร่วมกันเมื่อวานนี้ (13 ก.ย.)
ที่ประชุมคณะกรรมการจัดระเบียบรถตู้ฯ ยืนยันข้อสรุปเดิมว่า รถตู้ที่วิ่งให้บริการประชาชนต้องมีอายุไม่เกิน 10 ปี นับตั้งแต่วันจดทะเบียนและจะไม่มีการยืดอายุรถตามข้อเรียกร้อง เพราะเหตุผลด้านความปลอดภัย โดยรัฐบาลอาจพิจารณาต่ออายุให้ ถ้ากลุ่มรถตู้สามารถหาบริษัทหรือสถาบันที่น่าเชื่อถือ เช่น ผู้ผลิตรถตู้ ช่วยรับรองความปลอดภัยของตัวรถ
“มติดังกล่าวส่งผลให้รถตู้ 1,800 คัน จากทั้งหมดราว 6,000 คัน ที่มีอายุครบ 10 ปี ในวันที่ 30 กันยายนนี้ ต้องหยุดให้บริการทันที เพราะถ้านำรถหมดอายุออกให้บริการจะผิดกฎหมาย มีโทษปรับตั้งแต่ 50,000-200,000 บาท”
อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการจัดระเบียบรถตู้ฯ ระบุว่าจะให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการ ด้วยการจัดเส้นทางใหม่ที่ไม่ทับซ้อนกับเส้นทางรถไฟฟ้า แต่กลุ่มรถตู้เห็นว่าเป็นไปได้ยาก เพราะที่ผ่านมารัฐบาลก็พยายามจัดระเบียบเส้นทางรถเมล์ แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ
สำหรับข้อเรียกร้องของกลุ่มรถตู้ ที่ขอให้การเปลี่ยนรถตู้เป็นรถโดยสารขนาดเล็กไม่เกิน 20 ที่นั่ง (มินิบัส) ขึ้นอยู่กับความสมัครใจของผู้ประกอบการนั้น ที่ประชุมระบุว่า จะรับเรื่องดังกล่าวไว้พิจารณา แต่ยังไม่ได้เปลี่ยนแปลงมติที่ให้รถตู้ทั้งหมดต้องเปลี่ยนเป็นไมโครบัสภายในเดือน ก.ย. 2562 นอกจากนี้ ที่ประชุมระบุว่า จะตั้งคณะกรรมการศึกษาค่าโดยสารรถตู้ด้วย หลังจากกลุ่มรถตู้อ้างว่ามีต้นทุนเพิ่มขึ้นและขอปรับขึ้นค่าโดยสารเฉลี่ย 5 บาท/เที่ยว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้กลุ่มรถตู้ประเมินว่า ถ้ารัฐบาลไม่ขยายอายุรถตู้ จะส่งผลให้ปี 2561 มีรถตู้ออกจากระบบ 1,800 คันและปี 2562 ทยอยหมดอายุอีก 1,519 คัน สำหรับรถตู้ที่ต้องหยุดให้บริการ 1,800 คันในปีนี้ จะส่งผลกระทบให้คนขับรถมากกว่า 2,000 คันต้องตกงาน และผู้ประกอบการรถตู้ครึ่งหนึ่งคงเปลี่ยนไปทำอาชีพอื่นแทน เพราะยังประเมินผลกระทบจากโครงการรถไฟฟ้าไม่ได้ จึงไม่กล้าลงทุนซื้อรถใหม่.