นายวิทัย รัตนากร เลขาธิการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยว่า ปัจจุบัน กบข.ได้ปรับสัดส่วนการลงทุนในหุ้นไทยเหลือ 7% จากต้นปี 2561 อยู่ที่ 9% เนื่องจากดัชนีหุ้นไทยปรับตัวขึ้นมาตลอดในช่วง 9 ปี แต่ช่วงที่ผ่านมาหุ้นไทยปรับตัวลดลงมากกว่า 200 จุด จากระดับสูงสุดที่ 1,840 จุด เมื่อต้นเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา แต่หากสถานการณ์สงครามการค้าคลี่คลายก็เป็นโอกาสที่จะเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในตลาดหุ้นไทยให้กลับไปอยู่ที่ระดับเดิม นอกจากนี้ กบข. ยังลงทุนในหุ้นประเทศที่พัฒนาแล้วประมาณ 8% และลงทุนในหุ้นประเทศเกิดใหม่ประมาณ 4% แต่หากรวมการลงทุนในกองทุนส่วนบุคคล (Private Fund) จะมีสัดส่วนทั้งสิ้น 25%
นอกจากนี้ กบข.ยังได้ลดอายุพันธบัตรที่ถือครองลง จากเดิมเฉลี่ย อายุ 2.8 ปี เป็น 1.8 ปี เนื่องจากดอกเบี้ยอยู่ในช่วงขาขึ้น ส่งผลให้ต้องปรับพอร์ตการลงทุนให้มีความเหมาะสมกับภาวะตลาด โดยปัจจุบันได้เพิ่มการถือครองพันธบัตรระยะสั้นเป็น 23% จากเดิม 16% และลดการถือครองพันธบัตรระยะยาวเหลือ 22% จากเดิม 26% แต่ยังคงสัดส่วนการถือครองพันธบัตรอยู่ที่ 61% โดยปัจจุบัน กบข.มีสินทรัพย์สุทธิของกองทุนอยู่ที่ 860,000 ล้านบาท โดยปีนี้จะเพิ่มสินทรัพย์ประมาณ 40,000-50,000 ล้านบาท และสร้างอัตราผลตอบแทนให้อยู่ในระดับ 2-3%
“การลงทุนปีนี้ค่อนข้างยาก เพราะตลาดผันผวน โดยต้องยอมรับว่าผลตอบแทนจากการลงทุนปีนี้จะลดลงเหลือเพียง 2-3% จากปีก่อนที่ทำได้ 6.4% แต่ตอนนี้จะมองแค่ผลตอบแทนไม่ได้แล้ว”.