กรุงไทยขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากสูงสุด 0.825% ต่อปี ตรึงดอกเบี้ยเงินกู้รายย่อย

Personal Finance

Banking & Bond

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

กรุงไทยขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากสูงสุด 0.825% ต่อปี ตรึงดอกเบี้ยเงินกู้รายย่อย

Date Time: 3 ต.ค. 2565 14:53 น.

Video

บัญชีม้า เกลื่อนเมือง คนไทยอยู่อย่างไร ใครต้องรับผิดชอบ ? | Money Issue

Summary

  • ธนาคารกรุงไทย ขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากสูงสุด 0.825% ต่อปี พร้อมตรึงดอกเบี้ยเงินกู้รายย่อย ขึ้นเฉพาะอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ MLR และ MOR 0.25% ต่อปี มีผล 4 ต.ค. 65

ธนาคารกรุงไทย ขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากสูงสุด 0.825% ต่อปี พร้อมตรึงดอกเบี้ยเงินกู้รายย่อย ขึ้นเฉพาะอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ MLR และ MOR 0.25% ต่อปี มีผล 4 ต.ค. 65

เมื่อวันที่ 3 ต.ค. 65 นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย หรือ KTB กล่าวว่า จากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. ครั้งที่ 2 ของปี 2565 อีก 0.25% ต่อปี ถือเป็นเครื่องมือหนึ่งของธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. เพื่อดูแลเงินเฟ้อให้กลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายและรักษาเสถียรภาพด้านราคาและเศรษฐกิจในระยะยาว

ทั้งนี้ ธนาคารกรุงไทย ตระหนักถึงผลกระทบต่อลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง จึงใช้แนวทางการปรับอัตราดอกเบี้ยแบบค่อยเป็นค่อยไปสอดคล้องกับนโยบายของธปท. และพร้อมดูแลช่วยเหลือลูกค้าให้ปรับตัวได้อย่างราบรื่น

ธนาคารประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำระหว่าง 0.15% - 0.825% ต่อปี สำหรับเงินฝากประจำ 24 เดือน และ 36 เดือน เพิ่มขึ้นสูงสุด 0.825% ต่อปี เป็น 1.20% ต่อปี เพื่อดูแลผู้ฝากเงินให้มีรายได้เพิ่มขึ้น และส่งเสริมการออมในระยะยาว เพื่อเสริมสร้างเงินออมที่มีความมั่นคง ในภาวะที่เศรษฐกิจยังเผชิญความท้าทายรอบด้าน

พร้อมคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้รายย่อย หรือ MRR โดยปรับขึ้นเฉพาะอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี หรือ MLR 0.25% ต่อปี เป็น 5.50% ต่อปี และอัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทวงเงินเบิกเกินบัญชี หรือ MOR 0.25% ต่อปี เป็น 6.07% ต่อปี มีผลตั้งแต่วันที่ 4 ต.ค. 65 เป็นต้นไป ซึ่งหลังการปรับขึ้นครั้งนี้ อัตราดอกเบี้ย MLR และ MOR ของธนาคารยังอยู่ในระดับต่ำที่สุดเมื่อเทียบกับกลุ่มธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่

"ธนาคารได้พิจารณาอย่างรอบคอบ โดยตรึงอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อสำหรับรายย่อย เนื่องจากคำนึงถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับลูกค้า โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางที่รายได้ยังไม่กลับมาปกติ ลูกค้ารายย่อย และผู้ประกอบการรายเล็ก ให้สามารถฟื้นตัวได้ในสถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบัน"


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการไทยรัฐออนไลน์