คนไทยทะลักรับญี่ปุ่นเปิดประเทศ ททท.แก้เกมดึงญี่ปุ่นเที่ยวไทย

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

คนไทยทะลักรับญี่ปุ่นเปิดประเทศ ททท.แก้เกมดึงญี่ปุ่นเที่ยวไทย

Date Time: 3 ต.ค. 2565 06:44 น.

Summary

  • บรรยากาศหลังการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 คลี่คลาย แต่ละประเทศต้องเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจให้ฟื้นกลับมาเร็วที่สุด การแข่งขันทางการตลาดที่ดูสนุกสนานเพื่อดึงเงินกลับสู่ธุรกิจและดึงเม็ดเงินเข้าประเทศ

Latest

ปรับเกณฑ์ LTR Visa ชนิดพิเศษ ดึงต่างชาติ “คนรวย - คนเก่ง” เข้าไทย หวังเป็น ศูนย์กลาง Talent

บรรยากาศหลังการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 คลี่คลาย แต่ละประเทศต้องเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจให้ฟื้นกลับมาเร็วที่สุด การแข่งขันทางการตลาดที่ดูสนุกสนานเพื่อดึงเงินกลับสู่ธุรกิจและดึงเม็ดเงินเข้าประเทศ คือการแข่งขันดึงนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกกลับเข้าสู่ประเทศตัวเอง

ที่สุดแสนจะฮือฮา!สำหรับคนไทยที่อยากเดินทางออกท่องเที่ยวต่างประเทศคือ คำประกาศของ นายฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ระหว่างเดินทางไปนครนิวยอร์ก เพื่อร่วมประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ เมื่อวันที่ 23 ก.ย.2565 ว่า ญี่ปุ่นจะเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวโดยไม่ต้องขอวีซ่า และให้เข้าไปเที่ยวได้เองไม่ต้องผ่านบริษัททัวร์

รวมทั้งยกเลิกข้อจำกัดการเดินทางเข้าประเทศวันละ 50,000 คน เริ่มต้น วันที่ 11 ต.ค. 2565 เป็นต้นไป

ทันใดนั้น ในวันรุ่งขึ้น เฟซบุ๊ก การท่องเที่ยวญี่ปุ่น-Visit Japan โพสต์ข้อมูลทันที ว่า Okaerinasai! (โอกาเอะรินาไซ) ซึ่งแปลว่า ยินดีต้อนรับกลับสู่ประเทศญี่ปุ่น!

“ขอบคุณทุกคนที่ฝันถึงทริปไปญี่ปุ่นตลอดสองสามปีที่ผ่านมาถึงเวลาแล้วที่ฝันจะเป็นจริง เพราะญี่ปุ่นได้ประกาศมาตรการสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะมาพำนักในญี่ปุ่นระยะสั้น ดังนี้ มาตรการยกเว้นวีซ่า สามารถไปกับทัวร์ได้ และสามารถเที่ยวด้วยตัวเองได้ ทั้งนี้ ให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 11 ต.ค.2565 เป็นต้นไป”

ช่างเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นำภาคเอกชนท่องเที่ยวของไทยเข้าร่วมงาน Tourism EXPO Japan 2022 (TEJ) เพื่อดึงนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นกลับมาเที่ยวประเทศไทย ณ ศูนย์นิทรรศการ Tokyo Big Sight กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เป็นงานส่งเสริมการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค ซึ่งปีนี้นับเป็นปีที่ 34 และเป็นการกลับมาจัดงานในรอบ 2 ปี ภายหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 เพื่อเป็นเวทีเจรจาธุรกิจด้านการท่องเที่ยว

พร้อมกับการประกาศดึงนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นกลับมาเที่ยวประเทศไทย ภายใต้คำกิ๊บเก๋ที่ไปเชิญชวนคนญี่ปุ่น “Imakoso Thai He” (อิมะโคโซะ ไทยเอะ) หรือ It’s time to go to Thailand : ได้เวลากลับมาประเทศไทยแล้ว

คงต้องมานั่งลุ้นกันว่าการแข่งขันระหว่าง โอกาเอะรินาไซ : ยินดีต้อนรับกลับสู่ประเทศญี่ปุ่น กับอิมะโคโซะไทยเอะ : ได้เวลากลับมาประเทศไทยแล้ว

การแข่งขันทางการตลาดของสองประเทศนี้ คนไทยจะไปญี่ปุ่นมากกว่า หรือคนญี่ปุ่นจะมาเที่ยวเมืองไทยมากกว่ากัน

การเดินทางสองประเทศคึกคัก

ในมุมมองของ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา แสดงความเห็นในเรื่องนี้ว่า พอประเทศญี่ปุ่นเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ เชื่อว่าคนไทยทะลักไปเที่ยวญี่ปุ่นแน่นอน แต่ในขณะเดียวกันคนญี่ปุ่นก็ทะลักมาเที่ยวไทยเช่นกัน ฉะนั้น ตั้งแต่เดือน ต.ค.เป็นต้นไป การเดินทางระหว่างสองประเทศนี้คึกคักแน่นอน

ขณะที่ นายสิงห์ทอง ลาภพิเศษพันธุ์ เอกอัครราชทูตไทย ประจํากรุงโตเกียว กล่าวว่า การที่รัฐบาลญี่ปุ่นผ่อนปรนให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าญี่ปุ่นได้สะดวกขึ้น เพราะญี่ปุ่นก็ต้องการนักท่องเที่ยวต่างชาติการฟื้นฟูเศรษฐกิจเช่นกัน

ในขณะเดียวกัน เมื่อรัฐบาลญี่ปุ่นยกเลิกข้อจำกัดในการเดินทางเข้าประเทศจะทำให้ชาวญี่ปุ่นที่ไปเที่ยวต่างประเทศเดินทางกลับเข้าประเทศง่ายขึ้นด้วย เมื่อเทียบในช่วงปัจจุบันที่รัฐบาลญี่ปุ่นจำกัดคนเดินทางเข้าประเทศวันละ 50,000 คน ซึ่งรวมทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวต่างประเทศ

“เรื่องนี้ต้องบอกว่าภาคธุรกิจท่องเที่ยวของญี่ปุ่นมีการกดดันรัฐบาลญี่ปุ่นให้มีการเปิดประเทศโดยเร็ว และอยากให้ดูการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวของไทยเป็นตัวอย่าง ดังนั้น จังหวะที่ ททท.เข้ามาทำการตลาดนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นโดยร่วมกับ 7 บริษัทนำเที่ยวรายใหญ่ของญี่ปุ่นในการจัดทำแพ็กเกจพิเศษเพื่อส่งเสริมชาวญี่ปุ่นไปเที่ยวไทยจึงเป็นเวลาที่เหมาะสมมาก”

ญี่ปุ่นประกาศเงื่อนไขผ่อนปรน

กลับมาดูฝั่งญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 26 ก.ย. 2565 ที่ประชุมของเลขาธิการคณะรัฐมนตรี รัฐบาลญี่ปุ่น ได้ประกาศรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการผ่อนปรนการเดินทางเข้าญี่ปุ่น มีผลตั้งแต่วันที่ 11 ต.ค.2565 เป็นต้นไป มีเนื้อหาผ่อนปรน ดังนี้ 1.ให้ชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าญี่ปุ่น ไม่ต้องยื่นเอกสารใบ ERFS ที่ออกโดยบริษัททัวร์/บริษัทแลนด์โอเปเรเตอร์ ในประเทศญี่ปุ่น ขณะเดียวกันให้ยกเลิกข้อกำหนดที่ให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติต้องใช้บริการแพ็กเกจทัวร์เท่านั้นจึงจะเข้าญี่ปุ่นได้

2.ให้กลับมาใช้มาตรการยกเว้นวีซ่าเข้าประเทศญี่ปุ่นอีกครั้ง

3.ไม่ต้องตรวจหาเชื้อโควิดในขณะที่อยู่ในระหว่างกระบวนการตรวจคนเข้าเมืองที่ญี่ปุ่น (ยกเว้นผู้ที่มีอาการของโรคโควิด) อย่างไรก็ตาม ผู้เดินทางจำเป็นต้องสำแดงเอกสารอย่างใดอย่างหนึ่งระหว่าง ใบรับรองการฉีดวัคซีนโควิด (3 เข็ม) ยี่ห้อตามที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศเอาไว้ในรายการใช้ในกรณีฉุกเฉิน (JNTO จะแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับจุดนี้ในภายหลัง) หรือไม่ก็สำแดงใบรับรองผลตรวจโควิดเป็นลบที่ตรวจภายใน 72 ชั่วโมงก่อนออกเดินทางจากประเทศไทย

4.ให้ยกเลิกข้อกำหนดฉบับล่าสุดที่ว่า อนุญาตให้มีผู้เดินทางเข้าญี่ปุ่นโดยรวมได้สูงสุด 50,000 คนต่อวัน

5.ให้สนามบินรวมไปถึงท่าเรือที่ในปัจจุบันยังไม่ได้เปิดรับการเดินทางจากต่างประเทศร่วมมือกับหน่วยงานท้องถิ่นต่างๆในการดำเนินการเตรียมตัวเปิดรับเที่ยวบินและเส้นทางเดินเรือจากต่างประเทศ และเมื่อเตรียมการดังกล่าวพร้อมแล้ว ให้ดำเนินการเปิดรับการเดินทางจากต่างประเทศต่อไป

บริษัททัวร์ไทยเห็นโอกาสฟื้น

นายธนพล ชีวรัตนพร อุปนายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (ทีทีเอเอ) ซึ่งมีสมาชิกเป็นบริษัททัวร์ที่นำคนไทยไปเที่ยวต่างประเทศ กล่าวว่า แม้ญี่ปุ่นจะประกาศเปิดประเทศในวันที่ 11 ต.ค.2565 แต่คงไม่มีการเดินทางจำนวนมากในทันที เพราะในเดือน ต.ค.ยังมีเที่ยวบินน้อยกว่าในช่วงปกติ

แต่เดือน พ.ย.เป็นต้นไปคึกคักแน่ เพราะหลังจากรัฐบาลญี่ปุ่นประกาศเปิดประเทศ ตอนนี้สายการบินต่างๆ ได้เตรียมเปิดเส้นทางการบินไปญี่ปุ่นอย่างเต็มที่ คาดว่า ในเดือน พ.ย.จะมีถึง 80,000 ที่นั่งต่อเดือน ใกล้เคียงกับช่วงเดือน พ.ย.2562 ก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19

“ครั้งนี้เรียกว่ารัฐบาลญี่ปุ่นเปิดประเทศอย่างเต็มที่ เพราะไม่ดูแล้วว่าคนที่เดินทางเข้าญี่ปุ่นฉีดวัคซีนยี่ห้ออะไร จากเดิมไม่ยอมรับวัคซีนของซิโนแวค และซิโนฟาร์ม โดยเงื่อนไขใหม่บอกแค่ว่าขอเป็นวัคซีนที่องค์การอนามัยโลกรับรองก็ได้แล้ว ดังนั้น คนไทยที่รับวัคซีนซิโนแวคและซิโนฟาร์ม ก็เข้าได้”

สำหรับราคาแพ็กเกจทัวร์ ต้องบอกว่า ราคาจะแพงกว่าช่วงก่อนเกิดโควิด-19 ประมาณ 20-30% เพราะค่าโดยสารเครื่องบินสูงขึ้นตามราคาน้ำมันในตลาดโลก แต่เชื่อว่าจะมีคนไทยอยากเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นจำนวนมากแน่นอน เพราะเป็นช่วงเทศกาลใบไม้เปลี่ยนสีในเดือน 11-เดือน 12 ต่อเนื่องไปจนถึงเทศกาลปีใหม่

ส่วนคนที่อยากได้ค่าโดยสารเครื่องบินราคาถูกลงหน่อยอาจต้องไปเปลี่ยนเครื่องที่กรุงมะนิลา ของฟิลิปปินส์ หรือไปเปลี่ยนเครื่องที่มาเลเซีย ซึ่งก็มีคนจัดกรุ๊ปแบบนี้จริงๆ เพราะคนนิยมไปเที่ยวญี่ปุ่น เพราะไปไม่ต้องขอวีซ่า ทำให้ดีกว่าไปเที่ยวยุโรปที่ต้องยื่นขอวีซ่าและรอเป็นเดือนกว่าจะได้ ราคาก็ถูกกว่าไปเที่ยวยุโรป

“จุดหมายปลายทางที่ได้รับความนิยมคงยังเป็นกรุงโตเกียว เพื่อไปดูภูเขาไฟฟูจิ หรือถ้าใครอยากไปเที่ยวญี่ปุ่นแต่ราคาถูกหน่อยอาจเลือกไปเมืองฟุกุโอกะ ราคาจะอยู่ที่ 20,000 บาทกลางๆ เพราะใกล้ประเทศไทยหน่อยบินไม่กี่ชั่วโมง ส่วนใหญ่บริษัททัวร์จะจัดแพ็กเกจเที่ยวญี่ปุ่น 5-6 วัน”

และต้องย้ำคนไทยที่ไปเที่ยวเองโดยไม่ผ่านบริษัททัวร์ สามารถอยู่ในญี่ปุ่นได้นานสุด 15 วัน หากต้องการอยู่นานกว่านั้นก็ต้องไปขอวีซ่าก่อนการเดินทาง

ดึงญี่ปุ่นมาไทย 1.25 ล้านคน

มาทางด้านการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยบ้าง นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. เปิดเผยว่า ตอนนี้เป็นช่วงจังหวะที่ดีที่รัฐบาลญี่ปุ่นเตรียมเปิดประเทศ ททท.ตั้งเป้าว่าภายในปีนี้จะดึงให้นักท่องเที่ยวญี่ปุ่นมาไทย 350,000 คน สร้างรายได้ 75,000 ล้านบาท โดยตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-20 ก.ย.ที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นมาไทยแล้ว 166,709 คน ฉะนั้น ช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้ต้องทำให้ได้ไม่ต่ำกว่า 180,000 คน

ขณะเดียวกันในปี 2566 ต้องผลักดันนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นกลับมาเที่ยวไทยให้ได้ 1.25 ล้านคน คิดเป็น 70% ของชาวญี่ปุ่นที่เคยเดินทางมาในปี 2562 ซึ่งเป็นช่วงก่อนการระบาดของโควิด–19 ที่มีชาวญี่ปุ่นมาไทย 1.78 ล้านคน สร้างรายได้ 93,759 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม เพื่อแก้ไขจุดอ่อนต่างๆ ของตลาดนักท่องเที่ยวญี่ปุ่น ททท.ได้ร่วมกับผู้ประกอบการท่องเที่ยวของญี่ปุ่น 7 ราย ได้แก่ HIS, JALPAK, JTB, NOE, TOBU Top Tour, NTA และ AIR TRIP นำเสนอกิจกรรมส่งเสริมการขาย “COSMO” โดยจะร่วมกันจัดทำแพ็กเกจท่องเที่ยวรูปแบบพิเศษรวม 10,000 แพ็กเกจ เพื่อดึงนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นเข้าไทยในไตรมาสที่ 4 (ต.ค.-ธ.ค.) นี้เป็นต้นไป

ททท.ให้โจทย์ว่า ต้องจัดทำแพ็กเกจที่สร้างให้เกิดนักท่องเที่ยวหน้าใหม่ชาวญี่ปุ่นมากขึ้น ต้องทำให้เกิดการเดินทางของนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นที่เป็นผู้หญิงมากขึ้น โดยให้บริษัทนำเที่ยวไปคิดว่า ภายใต้ราคาแพ็กเกจท่องเที่ยวเท่าเดิมขอให้ออกแบบให้มีวันพำนักในไทยเพิ่มขึ้นจากเดิมเพื่อให้นักท่องเที่ยวญี่ปุ่นใช้จ่ายในไทยเพิ่มขึ้น เนื่องจากค่าใช้จ่ายต่อคนต่อทริปของชาวญี่ปุ่นยังต่ำอยู่ ซึ่งแพ็กเกจเหล่านี้ ททท.จะเข้าไปร่วมสนับสนุนให้ส่วนลดและเพิ่มกิจกรรมให้

กิจกรรมส่งเสริมการขาย “COSMO” ประกอบด้วย C : Corporate Trip Extension : เคยไป 5 วัน ททท.ให้เพิ่ม 2 วัน โดยมอบสิทธิพิเศษเพื่อสร้างแรงจูงใจ

O : Older on luxperience : ชวนผู้สูงวัยไปใช้ชีวิตที่หรูหราและมีความสุขที่เมืองไทย

S : Solo traveler priverage : มอบสิทธิพิเศษสำหรับผู้หญิง

M: Me & Mom & more friends : ส่งเสริมออกแบบแพ็กเกจให้ผู้หญิงญี่ปุ่น ไปเที่ยวกับแม่ หรือเพื่อน 2 คนขึ้นไป ททท. มอบสิทธิประโยชน์พิเศษ

O : Outdoor Sports ข้อเสนอพิเศษสำหรับนักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ เช่น สนาม กอล์ฟที่ดี โรงเรียนดำน้ำที่ดีที่สุดในโลก

คนไทยช็อปไม่ยั้งที่ญี่ปุ่น

นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชีย และแปซิฟิกใต้ ททท. กล่าวว่า หวั่นใจการใช้เงินและการช็อปปิ้งของคนไทยในญี่ปุ่น เห็นได้จากปี 2562 คนญี่ปุ่นมาเที่ยวไทย 1.75 ล้านคน สร้างรายได้เข้าประเทศ 75,000 ล้านบาท ส่วนคนไทยไปเที่ยวญี่ปุ่น 1.25 ล้านคน แม้จะน้อยกว่าคนญี่ปุ่นมาไทย 500,000 คน แต่คนไทยไปใช้จ่ายในญี่ปุ่นเท่ากับที่คนญี่ปุ่นมาใช้จ่ายในไทยทีเดียว

อย่างไรก็ตาม จากการสำรวจจำนวนเที่ยวบินและที่นั่งที่เพิ่มขึ้นช่วงปลายปีนี้ ทำให้มั่นใจว่าจะผลักดันนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นมาไทยได้ตามเป้า แม้ว่าค่าเงินเยนจะอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ แต่มีความคุ้มค่าในการเดินทางเที่ยวไทย

@@@@@@@@@

นับตั้งแต่รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศเปิดประเทศ สายการบินต่างๆแข่งเดือดในทันที ตัวอย่างเช่น การบินไทย จัดโปรโมชันบัตรโดยสารราคาสุดพิเศษ ต้อนรับการกลับมาให้บริการเส้นทางบินตรงสู่ฟุกุโอกะ เริ่มวันที่ 30 ต.ค.นี้ ชั้นประหยัด เริ่มต้นที่ 15,385 บาท ชั้นธุรกิจ เริ่มต้นที่ 59,920 บาท

และการบินไทย ช่วงฤดูหนาว กรุงเทพฯ-โตเกียว (นาริตะ) สัปดาห์ละ 14 เที่ยวบิน กรุงเทพฯ-โตเกียว (ฮาเนดะ) สัปดาห์ละ 7 เที่ยวบิน กรุงเทพฯ-นาโกยา สัปดาห์ละ 7 เที่ยวบิน กรุงเทพฯ-โอซากา สัปดาห์ละ 7 เที่ยวบิน กรุงเทพฯ-ฟุกุโอกะ สัปดาห์ละ 7 เที่ยวบิน กรุงเทพฯ-ซัปโปโร สัปดาห์ละ 7 เที่ยวบิน เริ่มวันที่ 1 ธ.ค.2565 เป็นต้นไป

ขณะที่ไทยแอร์เอเชีย และไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ พร้อมบินตรงสู่โตเกียว-โอซากา-ซัปโปโร-ฟุกุโอกะ หลังญี่ปุ่นเปิดประเทศ อาทิ ไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ โตเกียว 7 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ราคาเริ่มต้นที่ 4,690 บาทต่อเที่ยว โอซากา 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ราคาเริ่มต้นที่ 4,590 บาท ต่อเที่ยว เริ่มให้บริการ 2 ต.ค.2565 เส้นทางซัปโปโร 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ราคาเริ่มต้นที่ 8,390 บาทต่อเที่ยว เริ่มให้บริการวันที่ 1 ม.ค.2566

ส่วนไทยแอร์เอเชีย บินสู่ฟุกุโอกะ 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ราคาเริ่มต้นที่ 3,690 บาทต่อเที่ยว เริ่มให้บริการวันที่ 12 ต.ค.เป็นต้นไป และยังมีโปรโมชันตลอดปี 2566 ด้วย

ทั้งหมดนี้เพื่อตอบสนองจุดหมายปลายทางยอดนิยมของคนไทย.

ทีมเศรษฐกิจ


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ