ข้อมูลจาก Chainalysis บริษัทวิจัยด้านบล็อคเชน ระบุว่า ความเสียหายจากการหลอกลงทุนคริปโตฯ ในปีที่ผ่านมาแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยพบสกุลเงินดิจิทัลที่เชื่อมโยงกับการหลอกลงทุนมูลค่ากว่า 9.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามการประมาณการเบื้องต้น โดยมีการคาดการณ์อีกว่าตัวเลขในปีนี้จะเพิ่มขึ้นเป็นสถิติสูงสุดที่ 1.24 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
Chainalysis เปิดเผยว่า กิจกรรมหลอกลวงที่เกิดขึ้น เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 24% ตั้งแต่ปี 2020 ทั้งนี้สาเหตุหลักที่มูลค่าจำนวนเงินสูงขึ้นมาจากการหลอกลงทุนในเชิงเสน่ห์หา “Romance Scams” ซึ่งมาพร้อมกับกลโกงหลอกให้ร่วมทุนแบบ “Pig Butchering” หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า "การชำแหละหมู" ที่เติบโตขึ้นเกือบ 40% เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยพบจำนวนเงินฝากที่มาจากการหลอกลวงในกระเป๋าเงินปลอม (Scam Wallets) เพิ่มขึ้นเกือบ 210% ในช่วงเวลาเดียวกัน
ข้อมูลพบว่า ผู้หลอกลวงจะสร้างความสัมพันธ์กับเหยื่อผ่านโซเชียลมีเดียหรือแอปหาคู่ จากนั้นจะสร้างความไว้วางใจกับเหยื่อผ่านการสื่อสารออนไลน์ จากนั้นจึงเสนอโอกาสในการลงทุน โน้มน้าวเหยื่อให้ลงทุนด้วยสกุลเงินดิจิทัลในโครงการต่าง ๆ เช่น การเปิดบัญชีใหม่เพื่อลงทุนและลงทุนในจำนวนมากที่มากขึ้น จากนั้นผู้หลอกลวงก็จะหายตัวไปพร้อมกับเงินของเหยื่อ เปรียบเสมือนการเลี้ยงหมูเพื่อฆ่านั่นเอง
นอกจากนี้ Chainalysis ยังพบว่าผู้หลอกลวงในปัจจุบันใช้เทคโนโลยี AI เพื่อปลอมตัวเป็นผู้อื่นและใช้ในการสร้างเนื้อหาที่สมจริงเพื่อหลอกลวงจำนวนเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย ซึ่งทำให้ระบบนิเวศของการหลอกลวงในโลกออนไลน์มีความสมจริง ดูเป็น 'มืออาชีพ' มากยิ่งขึ้น
ความเคลื่อนไหวของคริปโตฯ สแกมหลายกลุ่มปรากฏให้เห็นทางออนไลน์ผ่าน Crypto Marketplace และเครือข่ายคริปโตเคอเรนซี่ที่ผิดกฎหมาย โดยเฉพาะ ตลาดแบบ Peer-to-Peer ที่ผู้ซื้อและผู้ขายสามารถติดต่อกันได้โดยตรง
ตัวอย่างเช่น Huione Guarantee แพลตฟอร์มซื้อขายโอนสกุลเงินครบวงจรของ Huione Group บริษัทจากจีนที่ให้บริการถูกต้องตามกฎหมายในกัมพูชาที่ถูกพบว่ามีเป็นแหล่งฟอกเงินและแพลตฟอร์มบ่มเพาะคริปโตฯ สแกมที่มีการซื้อขายผลิตภัณฑ์และบริการเทคโนโลยี ซึ่งผู้หลอกลวงใช้เพื่อปกปิดกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย
ในปี 2024 ผู้ให้บริการที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดบางรายบนแพลตฟอร์ม Huione คือ ผู้ให้บริการ AI บนแพลตฟอร์ม ซึ่งมีรายได้เติบโตขึ้น 1,900% เมื่อเทียบเป็นรายปี จากรายงานของ Chainalysis ระบุว่ามีผู้จำหน่ายซอฟต์แวร์หลายสิบรายที่โฮสต์บน Huione Guarantee เพื่อขายซอฟต์แวร์ AI หลอกลวงประเภทนี้
Chainalysis กล่าวว่า ศักยภาพของ AI ขยายความน่ากลัวของการหลอกลวงและเพิ่มความท้าทายในการจัดการกับปัญหา การเติบโตนี้บ่งชี้ถึงด้านมืดของ Generative AI ที่ถูกนำใช้ในอาชญากรรมทางคริปโต โดยเฉพาะการหลอกลวงแบบ Deepfake ที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ การหลอกลวงดังกล่าวใช้ AI สร้างตัวตนและสังเคราะห์เสียงปลอมตัวเป็นบุคคลจริงเพื่อหลอกลวงและยังใช้เพื่อหลีกเลี่ยงการยืนยันตัวตน
อ้างอิงข้อมูล CNBC
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ -