ไทยรัฐออนไลน์
คณะรัฐมนตรี เห็นชอบ ไทย เป็นเจ้าภาพวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก 2025 มี 32 ชาติทั่วโลกร่วมชิงชัยใน 4 ภาค
วันที่ 9 ธันวาคม 2567 ณ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา แถลงข่าวผลการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันอังคารที่ 3 ธันวาคม
ซึ่งคณะรัฐมนตรีพิจารณาเห็นชอบให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลกในปี 2568 ตามที่กระทรวง การท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ ซึ่งเป็นไปตามที่สหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ (FIVB) ได้ให้เกียรติประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรายการนี้
FIVB ได้พิจารณาเห็นว่าประเทศไทยมีศักยภาพความพร้อมทุกด้านทั้งสนามแข่งขัน ที่พัก บุคลากร ตลอดจนการอำนวยความสะดวกต่างๆ รวมทั้งประเทศไทยมีแฟนคลับวอลเลย์บอลจำนวนมาก ชมและเชียร์อย่างสุภาพให้เกียรตินักกีฬาทุกประเทศ ประกอบกับประเทศไทยมีประสบการณ์ในการจัดการแข่งขันระดับนานาชาติมาหลายรายการ ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างดียิ่งมาโดยตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสำเร็จจากการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันวอลเลย์บอลเนชั่นลีก (VNL) รอบชิงชนะเลิศเมื่อต้นปีที่ผ่านมา
สำหรับวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก (FIVB Women’s World Championship 2025) กำหนดจัดการแข่งขันระหว่างวันที่ 22 สิงหาคม ถึงวันที่ 7 กันยายน 2568 โดยมีทีมวอลเลย์บอลหญิงจากประเทศต่างๆ ทุกทวีปทั่วโลกมาร่วมแข่งขัน จำนวน 32 ชาติ ได้แก่ ประเทศไทยในฐานะเจ้าภาพ เซอร์เบีย ในฐานะแชมป์เก่า
ตัวแทนจากทวีปต่างๆ จำนวน 15 ทีมได้แก่ ประเทศญี่ปุ่น จีน เวียดนาม ตุรเคีย เนเธอร์แลนด์ อิตาลี สหรัฐอเมริกา แคนาดา โดมินิกัน บราซิล อาร์เจนตินา โคลอมเบีย อียิปต์ แคเมอรูน และ เคนยา
นอกจากนี้ ยังมีทีมที่มีคะแนนสะสมตามอันดับโลกที่ยังไม่ผ่านเข้ารอบ อีกจำนวน 15 ทีม ได้แก่ โปแลนด์ เยอรมนี เบลเยียม เช็ก เปอร์โตริโก ยูเครน ฝรั่งเศส บัลแกเรีย คิวบา สวีเดน เม็กซิโก สโลวีเนีย สโลวาเกีย สเปน และ กรีซ
การแข่งขันจะแบ่งเป็น 8 สาย สายละ 4 ทีม และจะมีการจับสลากแบ่งสาย ในวันที่ 17 ธันวาคมนี้ เวลา 15.00 น. ที่ ห้อง Pavilion Convention Hall โรงแรมเดอะ แกรนด์ โฟร์วิงส์ คอนเวนชั่น ถนนศรีนครินทร์ โดยจะได้กราบเรียนเชิญ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน
สำหรับสนามที่จะใช้ในการแข่งขันรอบแรกจะกระจายไปจัดตามหัวเมืองหลักด้านการท่องเที่ยวและกีฬา จำนวน 4 เมือง ได้แก่ ภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่ ภาคใต้ จังหวัดภูเก็ต ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดนครราชสีมา และกรุงเทพมหานคร
โดยแต่ละเมืองจะมีทีมวอลเลย์บอล จำนวน 2 สาย 8 ทีม ส่วนจะมีทีมใดจะอยู่ สายไหนบ้างจะทราบหลังจากมีการจับสลากแบ่งสายเรียบร้อยแล้ว ส่วนการแข่งขันในรอบ 16 ทีมสุดท้าย รอบก่อนรองชนะเลิศ รอบรองชนะเลิศ และรอบชิงชนะเลิศ จะจัดที่อินดอร์สเตเดียม หัวหมาก กรุงเทพมหานคร
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ชี้แจงเพิ่มเติมว่า การเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก เป็นการสนองตอบต่อนโยบายของรัฐบาลที่ได้แถลงต่อรัฐสภาเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2567 ในเรื่องการจัดการแข่งขันกีฬาระดับโลก
ซึ่งทีมวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทยถือว่าเป็นกีฬาประเภททีมที่เป็นที่นิยมของคนไทยและทั่วโลก การจัดการแข่งขันครั้งนี้นอกจากจะเป็นการให้โอกาสกับคนไทยโดยเฉพาะกลุ่มที่สนใจกีฬาวอลเลย์บอลได้ชมฝีมือของนักกีฬาระดับโลกแล้ว ยังเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทยสู่สายตาชาวโลกผ่านการถ่ายทอดสดการแข่งขัน ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวและนักลงทุนนานาชาติ
รวมทั้งประเทศไทยจะมีรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาชมการแข่งขัน มูลค่าด้านการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อโซเชียลมีเดียไปทั่วโลก ซึ่งคาดว่าจะมีผู้ชมโดยรวมประมาณ 1.3 พันล้านคน และก่อให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจภายในประเทศ คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งหมดประมาณ 8,500 ล้านบาท
ในขณะที่เราประมาณการค่าใช้จ่ายในการจัดการแข่งขันครั้งนี้ไว้จำนวน 1,100 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นค่าลิขสิทธิ์ของวอลเลย์บอลชิงแชมป์โลกไปแล้วกว่า 700 ล้านบาท ส่วนที่เหลือเป็นงบส่วนกลางเพื่อจัดการแข่งขัน ซึ่งมองว่าผลที่ได้รับของประเทศชาติคุ้มค่าแน่นอน ทั้งภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทย รวมทั้งยังเป็นการแสดงความเป็นผู้นำด้านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและกีฬาด้วย
นอกจากนี้ในการจัดการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เน้นให้มีการรณรงค์อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมไปพร้อมๆ กัน (Green Heart Event) โดยเน้นการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อให้เป็นสมาคมกีฬา นำร่องต้นแบบด้วย
ส่วนการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงเนชั่นส์ลีก (VNL) ในปี 2568 สหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ และ Volleyball World ขอให้งดจัดการแข่งขันไปก่อน เพราะต้องรับผิดชอบการจัดการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิง ชิงแชมป์โลกที่มีความสำคัญมากกว่า ซึ่งจัดในเวลาที่ใกล้เคียงกัน เกรงจะไม่มีเวลาในการเตรียมงานสำคัญให้ดีที่สุดได้ และยืนยันว่า ในปี 2569 จะให้ประเทศได้กลับมาเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันวอลเลย์บอลเนชั่นลีก (VNL) อีกครั้ง