ไทยรัฐฉบับพิมพ์
แค่เริ่มรายการแรกของปีก็ดราม่ากันเลย สำหรับทีมตบลูกยางสาวทีมชาติไทย ในศึกวอลเลย์บอลหญิงเนชันส์ ลีก 2024
ตั้งแต่รอบคัดเลือก 3 สัปดาห์แรก ที่บราซิล มาเก๊าและฮ่องกง ไปจนถึงรอบไฟนอลส์ ที่อินดอร์ สเตเดียม หัวหมากมีเรื่องให้ต้องพูดถึงตลอด
โดยเฉพาะในช่วงต้นๆของการแข่งขัน ที่ปกติแม้เจอทีมแกร่ง เราจะเล่นได้สนุกกว่านี้ แต่ฟอร์มดันมาออกทะเล ไม่เหมือนเดิม ทำให้ทุกสายตาโฟกัสไปที่การคุมทีมของ “โค้ชยะ” น.ท.ณัฐพนธ์ ศรีสมุทรนาค หัวหน้าผู้ฝึกสอน ในทันที
อย่างไรก็ตาม แม้นัดต่อมาจะค่อยๆดีขึ้นมา นักกีฬาเริ่มเล่นกันได้ลงตัว ดูสนุก จบ 3 วีกแรก ด้วยผลงานชนะ 3 นัด แพ้ 9 นัด และในรอบสุดท้าย ที่บ้านเรา น็อกเอาต์ 8 ทีมเราแพ้บราซิลไป
แฟนๆกีฬาก็ยังมีเครื่องหมายคำถามถึงเฮดโค้ชทีมสาวไทยว่า เหมาะสมที่จะทำหน้าที่นี้ต่อไปหรือไม่
บางกระแสกล่าวโทษโค้ชเมื่อทีมแพ้ แต่ถ้าทีมชนะ ชื่นชมนักกีฬาเล่นดีด้วยซ้ำไป!!!
ไม่เพียงแค่นั้น ก็เริ่มมีเสียงสะท้อนว่าถึงเวลาหรือยังที่เราควรจะต้องปรับเปลี่ยน หันมาจ้างโค้ชต่างประเทศ เพื่อให้ทุกอย่างดีกว่าเดิมอีกด้วย
ในเรื่องนี้ สมพร ใช้บางยาง นายกสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย เปิดใจกับฮอตสปอร์ต กราวกีฬาไทยรัฐว่า ต้องขอโทษแฟนๆ วอลเลย์บอลชาวไทย ที่ผลงานของทีมหญิงในปีนี้ ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร
แต่ทั้งนี้ทุกคนก็ได้พยายามทำหน้าที่อย่างดีที่สุดแล้ว ผลงานที่เกิดขึ้น ในฐานะนายกสมาคมฯ ขอรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว
“ผมยอมรับในคำติชม คำแนะนำ ความคิดเห็นของแฟนๆ เพราะทั้งทีมวอลเลย์บอลและสมาคมเป็นสาธารณะ จะนำทุกความคิด ความเห็นไปปรับปรุงทีมและปรับปรุงการทำงานให้ดีขึ้น”
สมพรกล่าวต่อว่า ส่วนผลงานของทีมและการทำงานของ น.ท.ณัฐพนธ์ อย่างที่ทราบ ได้ให้ “โค้ชอ๊อด” เกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร ประธานเทคนิค ไปประเมินผล และหาแนวทางที่เหมาะสมสำหรับอนาคตต่อไป
ต่อข้อถาม ในเวลานี้มาถึงทางแยกที่จะต้องเลือกระหว่างโค้ชไทยหรือโค้ชต่างประเทศแล้วหรือยัง นายกสมพรกล่าวว่า เรามีวัฒนธรรมของเรา เราอยู่ในโซนเอเชีย
ส่วนตัวมองว่า “โค้ชยะ” เป็นโค้ชที่อยู่ในระดับต้นๆของประเทศแล้ว ทำงานกับ “โค้ชอ๊อด” หรือแม้กระทั่ง “โค้ชด่วน” ดนัย ศรีวัชรเมธากุล อดีตผู้ฝึกสอนทีมชาติ มาตลอด
ดังนั้น จึงต้องมาคิดต่อว่า จะทำอย่างไรที่จะพัฒนาในระดับเยาวชน ตั้งแต่รุ่นอายุ 12 ปีให้ดีกว่านี้ ให้มีมาตรฐานที่เหมือนกัน ทำทีมไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อไล่ระดับรุ่นอายุขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่
ญี่ปุ่นก็ใช้แนวทางเดียวกันนี้ ซึ่งญี่ปุ่นทำได้ แต่เรายังทำได้ไม่ดีนัก เพราะโค้ชในระดับเยาวชน ต่างก็มีแนวทางของตนเอง ต้องการประสบความสำเร็จในระยะสั้นด้วยกันทั้งนั้น การทำทีมเลยไปคนละทาง
จึงจำเป็นต้องเน้นตรงนี้มากกว่า ซึ่งแน่นอนว่า การจะทำให้นักกีฬาและทีมเป็นรูปแบบเดียวกันหมด ก่อนขึ้นมาถึงชุดใหญ่ ก็ต้องใช้เวลาอีกพอสมควร
“เราไม่เหมือนยุโรปที่รูปร่างสูงใหญ่ ดังนั้น เชื่อว่าระบบของเราทำได้ เพียงแต่ต้องใช้เวลา”
นายกสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลฯกล่าวอีกว่า สำหรับโค้ชนอก เราก็ยังเปิดกว้าง แต่ต้องยอมรับว่า มีเรื่องของค่าใช้จ่ายที่สูงเข้ามาเกี่ยวข้อง ต้องมาพิจารณาอีกครั้งว่าคุ้มค่าหรือไม่อย่างไร
โดยรวมแล้วจะโค้ชไทยหรือโค้ชต่างชาติจะเลือกทางไหน ก็เสี่ยงด้วยกันทุกทาง เสี่ยงเหมือนกันหมด
เพราะอย่างที่รู้ เรื่องของกีฬามีปัจจัยหลายๆ อย่างที่เกี่ยวข้อง และไม่มีอะไรแน่นอน วัฒนธรรมของเราเป็นเรื่องสำคัญ ไม่ใช่เลือกโค้ชนอกแล้วจะการันตีว่าประสบความสำเร็จ
ทั้งหมดนี้เป็นความคิดเห็นของสมพร ใช้บางยาง นายกสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลฯที่ต้องรับบทหนักกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา
ทั้งๆที่หากมองกลับไป ปีก่อนๆในศึกเนชันส์ ลีก ที่ล้วนแล้วแต่มีทีมยักษ์ใหญ่เหมือนกัน สถิติของทีมไทยในการชนะและแพ้ก็อยู่ในสัดส่วนนี้
อาจฟอร์มตกหล่นไปบ้าง แต่ก็ค่อยๆกลับมา เมื่อทุกอย่างพร้อม
ทีมสาวไทยต้องดีกว่านี้ หรือเราคาดหวังกันเกินตัว เป็นเส้นบางๆที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องประเมินตัวเองอย่างจริงจัง และยุติธรรม
รวมทั้งต้องขบคิดกันให้หนักอย่างมีสติ
โดยตัดเรื่องของอารมณ์ทิ้งไป...
กัญจน์ ศิริวุฒิ เรื่อง
คลิกอ่านคอลัมน์ “Hotsport” เพิ่มเติม