ไทยรัฐออนไลน์
"เจนเนอราลี่ สุพรีม ชลบุรี-อี.เทค" ทำการปล่อยตัว "ธนัชชา สุขสด" ดาวตบ "ทีมชาติไทย" รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ไปร่วมทีมดังใน "วี-พรีเมียร์ลีค" ดิวิชั่น 1 ของประเทศญี่ปุ่น
วันที่ 23 ส.ค. 62 เจนเนอราลี่ สุพรีม ชลบุรี-อี.เทค ทีมลูกยางชื่อดังของเมืองไทย ได้เปิดเผยว่า สโมสรได้ตอบตกลงปล่อยตัว “โมเม” ธนัชชา สุขสด ดาวตบทีมชาติไทยชุดยู-23 ให้ไปเซ็นสัญญาร่วมทีมพีเอฟยู บลูแคท ทีมใน วี-พรีเมียร์ลีค ดิวิชั่น 1 ของประเทศญี่ปุ่น เป็นระยะเวลา 1 ฤดูกาล หลังจากเจ้าตัวได้เดินทางไปร่วมฝึกซ้อมกับทีมในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
ดาวรุ่งวัย 19 ปี ของ “โลมาสีชมพู” เพิ่งจะได้เลื่อนขึ้นมาเล่นในไทยแลนด์ลีกกับทีมชุดใหญ่ในฤดูกาลที่ผ่านมา หลังจากเป็นกำลังสำคัญให้กับทีมโรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนีย์) หนึ่งในทีมอคาเดมี่ของสุพรีมฯ ในรายการต่างๆ ของวงการลูกยางมัธยมปลายมาโดยตลอด นอกจากนั้นเจ้าตัวยังผ่านประสบการณ์ติดเยาวชนทีมชาติไทยมาแล้วทุกรุ่นอายุ ล่าสุดร่วมทีมชาติไทยชุดยู 23 ไปแข่งขันรายการชิงแชมป์เอเชียเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
นายธนดิศ ประสพเนตร ผู้จัดการทีมสุพรีมฯ ได้เปิดเผยว่า “เราได้รับการติดต่อมาในช่วงที่ธนัชชาไปแข่งขันยู 23 โดยเท่าที่ทราบโค้ชของทีมได้ดูฟอร์มการเล่นในรายการ VTV Cup กับชิงแชมป์เอเชียรุ่นยู 23 และสนใจอยากให้ไปร่วมฝึกซ้อมกับทีม แต่เจ้าตัวยังติดภารกิจกับทีมชาติไทย ทางสโมสรจึงได้พูดคุยกันภายในและปรึกษากับทางสมาคมฯ แล้ว เห็นว่าเป็นโอกาสที่ดีของเด็ก ทางเราควรสนับสนุน ดังนั้นทางสมาคมฯ จึงอนุญาตให้ธนัชชาไปร่วมฝึกซ้อมกับทีมเป็นเวลา 15 วัน ก่อนจะกลับมาร่วมทีมชาติไทยไปแข่งขันรายการพิเศษที่ไต้หวันในวันที่ 15-19 กันยายนนี้”
โดย “โมเม” ธนัชชา สุขสด ดาวตบตัวใหม่ของ “บลูแคท” ได้เปิดเผยความรู้สึกหลังจากได้เซ็นสัญญาเข้าร่วมทีมว่า “หนูรู้สึกตื่นเต้นที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของทีมพีเอฟยู บลูแคท สมาชิกทุกคนในทีมให้ความเป็นกันเองและต้อนรับหนูเป็นอย่างดี หนูหวังว่าพวกเราจะทำผลงานได้ดีในการแข่งขันฤดูกาลนี้ด้วยกัน”
ทางด้าน “มาซายาซุ ซากาโมโตะ” หัวหน้าผู้ฝึกสอนของพีเอฟยู บลูแคท ได้กล่าวถึงลูกทีมคนใหม่ไว้ว่า “ผมรู้สึกยินดีที่ได้ธนัชชาเข้ามาร่วมทีมของเรา ผมตั้งตารอคอยดูเธอทำคะแนนให้เราด้วยทักษะของเธอ ด้วยการกระโดดสูงและการตีที่รวดเร็ว ผมมั่นใจว่าเธอจะไม่หยุดการพัฒนาตัวเองเพื่อจะเป็นผู้เล่นที่ดีคนหนึ่ง และเรามาดูกันว่าเธอจะยกระดับการเล่นของตัวเองไปได้มากแค่ไหนเมื่อจบฤดูกาลนี้”.