ไทยรัฐออนไลน์
เมีย 'ฉัตร์ชัย บุตรดี' สยบดราม่ากินข้าวคลุกน้ำปลา เผยสามีแค่อยากโพสต์ระบาย ไม่ได้มีอะไรกับสมาคมมวย บอกคิวบา ลำบากจริง และเสบียงก็หมดพอดี ส่วน 'สมรักษ์' ให้กำลังใจ บอกเคยกินข้าวคลุกน้ำปลามาแล้วเช่นกัน มั่นใจเจ้าสดไม่ได้ตั้งใจ แค่อยากระบายเพราะว้าเหว่ ทางด้านเลขาสมาคมฯ แจงไม่ได้มีปัญหาเรื่องเงิน
นางจุฑารัตน์ บุตรดี ภรรยาของ ฉัตร์ชัย บุตรดี กำปั้นฮีโร่ชาวไทย เจ้าของเหรียญทองซีเกมส์และเป็นตัวแทนชาติไทยสู้ศึกโอลิมปิกเกมส์ เปิดเผยผ่านรายการถามตรงๆ กับจอมขวัญ ว่า การซ้อม ฉัตร์ชัยทำใจอยู่แล้ว เพราะการไปคิวบาครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 และฉัตร์ชัยก็เตรียมตัวไปค่อนข้างดี การโพสต์ข้อความเป็นการระบายเฉยๆ เหมือนอยากพูดอยากระบายบ้าง ไม่ได้โกรธเคืองหรือโมโหสมาคมมวยเลย
ทั้งนี้ เนื่องจากการติดต่อสื่อสารที่คิวบาค่อนข้างลำบาก ส่วนการโพสต์เรื่องการกินข้าวกับน้ำปลานั้น ก็เพิ่งจะมาโพสต์ เนื่องจากอาหารที่เตรียมไปหมดพอดี การจะไปซื้ออาหารก็ลำบาก มีหมู มีปลาแขวนไว้ ถ้าไม่มีก็ต้องกลับมามือเปล่า
“ส่วนที่กินข้าวกับน้ำปลา กินกับผงปรุงรส ก็เรื่องจริง เพราะฉัตร์ชัยบอกว่าน้ำซุปมันจืด เลยเอามาปรุง คนไทยส่วนใหญ่ชอบอาหารมีรสชาติ แต่ปกติก็มีกินตลอด มีมาม่า มีปลากระป๋อง แต่ดันหมดก่อนกลับ รอบนี้ไป 26 วัน ซึ่งได้คุยกับฉัตร์ชัยเมื่อเช้า เขาก็บอกว่าไม่ได้คิดว่าจะกลายเป็นกระแสโด่งดังแบบนี้ เขาเพิ่งทราบเมื่อเช้า สัปดาห์แรกไม่ได้คุยกัน คุยกันแค่วันละ 5 นาทีเพราะเปิดโรมมิ่งไป หากจะเล่นอินเทอร์เน็ตต้องเหมารถออกมา แต่ก็ไม่ได้เล่นทุกวัน”
นางจุฑารัตน์ กล่าวอีกว่า ครั้งนี้ที่ไปคิวบา ฉัตร์ชัย ก็เตรียมของไป แต่เอาไปได้แค่ 20 กิโลกรัม ไม่ได้เอาไปมากมายจนเหลือกลับ อาหารของโค้ชเองก็อาจจะหมด วัตถุดิบขาด ก็เลยเป็นแบบนั้น ฉัตร์ชัยก็มีบ่นคิดถึงบ้านบ้าง เพราะเขารู้ว่าคิวบาติดต่อยาก เขาก็ห่วงลูก
“สิ่งที่ห่วงคือเรื่องอาหาร การสื่อสารค่อนข้างลำบาก เขาก็เคยบ่นไปต่างประเทศก็ดี แต่ไปประเทศที่ค่อนข้างลำบากเรื่องอาหาร การสื่อสาร เขาก็จะบ่นๆ ประเทศอื่นที่เคยไปก็ไม่เคยบ่นอะไร อยากบอกว่าเขาไม่ได้ตั้งใจให้เป็นกระแส เป็นแค่การบ่นเฉยๆ” นางจุฑารัตน์ กล่าว
ทางด้าน สมรักษ์ คำสิงห์ นักมวยรุ่นพี่ และเจ้าของเหรียญทองโอลิมปิก ปี 2539 กล่าวว่า ตนก็เคยไปเก็บตัวที่คิวบา ซึ่งประเทศเขาไม่เจริญเท่าไทย ลำบากเรื่องการอยู่การกินเช่นกัน แต่ คิวบา ถือเป็นประเทศที่เก่งมวยสากลมากที่สุดในโลก การไปเก็บตัวได้ประโยชน์มาก เพื่อพัฒนาฝีมือนักชกไทย
“ผมก็เคยกินข้าวคลุกน้ำปลานะ ที่โน่นน้ำประปาเปิดเป็นเวลา จะเข้าห้องน้ำก็วุ่นวายพอสมควร แต่เราก็ปรับตัวไป มีไก่ทอดชิ้นเดียวก็คือกินไป ผมไป 2 ครั้ง แต่ครั้งที่ 3 ผมไม่ไป สิ่งที่ฉัตร์ชัยโพสต์คงเป็นอารมณ์เหนื่อยๆ มุ่งมั่น ว้าเหว่ ทำกันเล่นๆ ซึ่งอาหารไม่ได้มากมายเหมือนบ้านเรา แต่มันบ่งบอกถึงความอดทน ผมไปอยู่โน่น 3 เดือน ผมก็กินไก่ ขนมปัง บางทีมันก็เบื่อ บางวันผมก็เอาข้าวมาคลุกน้ำปลามันก็อร่อย”
สมรักษ์ กล่าวอีกว่า ส่วนตัวมองว่าอยากให้ไปเก็บตัวที่คิวบา ไปแล้วเก่งขึ้น ผลงานดีขึ้น ลำบากตอนซ้อม แต่ได้เหรียญรางวัลมาแล้ว ตนเองก็มีความสุข คนไทยทั้งประเทศก็ความสุข
พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ โชติมา เลขาธิการสมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย กล่าวว่า งบประมาณค่าที่พักที่กินอยู่จำนวน 7 แสนบาท และเงินสำรองอีก 2 แสนบาท นั้นไม่ได้มีปัญหาอะไร โดยฉัตร์ชัยจะได้เบี้ยเลี้ยงวันละ 1,000 บาท และทุกครั้งที่ไปทางทีมก็ซื้อของจัดเตรียมไปตลอด ก็ให้ไปดูแลความสะดวกที่ประเทศอื่น โดยเงิน 1,000 บาท ที่ได้รับไปนั้นส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ใช้อะไรอยู่แล้ว
ทั้งนี้ เรามองว่า คิวบา ก็ยังเป็นประเทศที่น่าไปฝึกซ้อม ทุกคนยอมรับว่าเป็นที่หนึ่ง ปัญหาอย่างอื่นก็แก้กันไป เช่น ปีที่แล้วเราก็ไปอังกฤษ ปลายปีนี้ก็จะไปญี่ปุ่น เพื่อให้คุ้นเคยสนาม ไปให้รู้จักนักมวยญี่ปุ่น ส่วนปีหน้าก็ต้องไปดูกันที่อื่นอีก เราก็ต้องปรึกษาโค้ช ผู้บริหาร อีกครั้ง
“เราก็ต้องคุยกับฉัตรชัยก่อนว่าจะเป็นอย่างไร เราอยู่กับคนหมู่มาก เราต้องมีวินัย ในกรรมการสมาคมคงหารือกัน ต้องมีเหตุผล สมาคมไม่ทำอะไรที่ไม่มีเหตุผล และยืนยันว่าไม่ได้มีปัญหาเรื่องการเงิน เราได้งบอุดหนุนจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ และสปอนเซอร์ ขอให้วางใจเราไม่ขัดสน”
ข่าวทั้งหมด คลิกที่นี่