ไทยรัฐออนไลน์
สเปเชียลโอลิมปิคแห่งประเทศไทย จับมือกับ กรุงเทพมหานคร กรมธนารักษ์ และ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ จัดงานวิ่งการกุศลสเปเชียลโอลิมปิคไทย ซีดับบลิว-เอ็กซ์ ครั้งแรก ปี 2568 ฉลอง SPECIAL OLYMPICS THAILAND DAY มุ่งส่งเสริมการตระหนักรู้เกี่ยวกับความสามารถของผู้พิการทางสติปัญญา
งานนี้ถือเป็นกิจกรรมระดมทุนครั้งแรกของสมาคมกีฬาสเปเชียลโอลิมปิคแห่งประเทศไทยในรูปแบบวิ่งในสวนป่า และ วิ่งผลัดรอบทะเลสาบ ณ สวนเบญจกิติ ในวันอาทิตย์ที่ 26 มกราคม 2568 โดยมีนักกีฬาผู้พิการทางสติปัญญากว่า 100 คน เข้าร่วมแข่งขัน ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญในการรณรงค์สร้างการยอมรับและสนับสนุนการอยู่ร่วมกันในสังคม
ดร. นริศ ชัยสูตร นายกสมาคมกีฬาสเปเชียลโอลิมปิคแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย นาย ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร, นางอินทิรา นาคสกุล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ไทยวาโก้ จำกัด (มหาชน), นายศักดิ์ชัย ภัทรปรีชากุล กรรมการบริษัท เอ็น ซี.ซี. แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด, นายสมมาตร มณีหยัน รองอธิบดีกรมธนารักษ์, นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และ Special Olympics Thailand Celebrity Ambassador, นางสาวอนุษฐา เชาว์วิศิษฐ กรรมการกลุ่มบริษัท เจ เอ โอ ร่วมแถลงข่าวการแข่งขันวิ่งการกุศล สเปเชียลโอลิมปิคไทย ซีดับบลิว-เอ็กซ์ ปี 2568 เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2568 ณ ห้องยูงทอง 1 สมาคมธรรมศาสตร์ในพระบรมราชูปถัมภ์
ทั้งนี้ ดร. นริศ ชัยสูตร นายกสมาคมกีฬาสเปเชียลโอลิมปิคแห่งประเทศไทย กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของโครงการและความสำคัญของงาน Special Olympics Thailand Day ว่า "สเปเชียลโอลิมปิคเป็นโครงการระดับนานาชาติที่ใช้กีฬาเป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาศักยภาพของผู้พิการทางสติปัญญา ซึ่งเป็นกลุ่มผู้พิการที่มีประชากรมากที่สุดและมีความเปราะบางทางสังคมมากที่สุดในปัจจุบัน" ปัจจุบันมีนักกีฬาในโครงการสเปเชียลโอลิมปิคประมาณ 30,000 คนทั่วประเทศไทย โดยกีฬาวิ่งถือเป็นหนึ่งใน 8 ชนิดกีฬาหลักของสมาคมฯ และมีนักกีฬาเข้าร่วมเป็นจำนวนมากที่สุดเมื่อเทียบกับกีฬาอื่นๆ สมาคมฯ จึงเล็งเห็นความสำคัญของการจัดกิจกรรมเฉลิมฉลอง Special Olympics Thailand Day ณ สวนเบญจกิติ ตามคำเชิญของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร การแข่งขันวิ่งการกุศลครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจาก กรุงเทพมหานคร ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ และ กรมธนารักษ์ โดยเปิดโอกาสให้นักกีฬาสเปเชียลโอลิมปิคไทยมีส่วนร่วมในฐานะ อาสาสมัครและผู้แข่งขัน เพื่อแสดงถึงศักยภาพและคุณค่าของพวกเขาในสังคม ดร. นริศ กล่าวเพิ่มเติมว่า "เราหวังว่าการจัดการแข่งขันวิ่งการกุศลครั้งนี้จะกลายเป็นกิจกรรมประจำปีที่ยั่งยืน เพื่อสนับสนุนโครงการสเปเชียลโอลิมปิคไทยอย่างต่อเนื่อง และช่วยสร้างการตระหนักรู้ในสังคมถึงความสำคัญของการอยู่ร่วมกันอย่างเท่าเทียม" Special Olympics Thailand Day และการแข่งขันวิ่งการกุศลครั้งนี้ เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นของสมาคมฯ ในการสนับสนุนผู้พิการทางสติปัญญา และการสร้างความเข้าใจในคุณค่าของพวกเขาในสังคมไทยอย่างยั่งยืน
นาย ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงนโยบายของกรุงเทพมหานครที่มุ่งเน้นการส่งเสริมการอยู่ร่วมกันทางสังคม และการเป็นเมืองที่น่าอยู่สำหรับทุกคน ภายใต้นโยบาย Diversity - Equality - Inclusion (ความหลากหลาย - ความเสมอภาค - การมีส่วนร่วม) โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างประโยชน์สุขให้แก่ประชาชนทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียมและก้าวหน้า มีเป้าหมายเพื่อให้นักวิ่งทั้งผู้พิการและไม่พิการได้ร่วมสัมผัสมิติอันหลากหลายของสวนเบญจกิติ ไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศรอบทะเลสาบ หรือความงดงามของระบบนิเวศธรรมชาติ โดยกิจกรรมนี้ถือเป็นการวิ่งการกุศลที่มีเอกลักษณ์พิเศษ ซึ่งช่วยเน้นย้ำถึงคุณค่าของพื้นที่สวนสาธารณะในการสร้างความตระหนักรู้เรื่องการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข "กรุงเทพมหานครรู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ได้เป็นเจ้าภาพร่วมในกิจกรรมครั้งนี้ และภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมในการส่งเสริมความเสมอภาคและการยอมรับความหลากหลายในสังคมผ่านกิจกรรมที่สร้างสรรค์และมีความหมายเช่นนี้" นายชัชชาติกล่าว
การจัดงานในครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของกรุงเทพมหานครในการสร้างสังคมที่เท่าเทียมและน่าอยู่สำหรับทุกคน นางอินทิรา นาคสกุล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ไทยวาโก้ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงความภาคภูมิใจของแบรนด์ CW-X ซึ่งเป็นแบรนด์ชุดออกกำลังกายและชุดรัดกล้ามเนื้อชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่น ในฐานะ Title Sponsor ของงานวิ่งการกุศลครั้งแรกของ สเปเชียลโอลิมปิคไทย
นางอินทิรา กล่าวว่า "การจัดงานการกุศลครั้งนี้สอดคล้องกับคุณธรรมและจริยธรรมของบริษัทฯ ที่มุ่งสนับสนุนการยอมรับศักยภาพของผู้พิการ ส่งเสริมการอยู่ร่วมกันในสังคมไทย และใช้กีฬาพัฒนาเสริมสร้างทักษะความสามารถของผู้ที่มีโอกาสจำกัด เรารู้สึกประทับใจอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมที่มีความหมายและจะได้พบกับนักกีฬาสเปเชียลโอลิมปิคไทยจำนวนมากในงานนี้" นอกจากนี้ นางอินทิรายังได้เน้นย้ำว่า งานวิ่งการกุศลนี้จะมอบประสบการณ์ที่พิเศษให้กับประชาชนที่เข้าร่วมงาน โดยเปิดโอกาสให้สัมผัสกับศักยภาพและบทบาทของผู้พิการทางสติปัญญาในมิติต่างๆ ซึ่งเป็นจุดมุ่งหมายสำคัญของการจัดกิจกรรมครั้งนี้ CW-X และบริษัท ไทยวาโก้ จำกัด (มหาชน) ยังคงมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนกิจกรรมที่ส่งเสริมความเท่าเทียมและสร้างความตระหนักรู้ในสังคมอย่างต่อเนื่องในอนาคต
อีกทั้งผลิตภัณฑ์ของ CW-X ได้มีนวัตกรรม TAPING ที่ผสมผสานอยู่ในเนื้อผ้าของผลิตภัณฑ์ CW-X จะช่วยเพิ่มระยะเวลาการออกกำลังกายได้นานขึ้น และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น มั่นใจทุกครั้งที่ได้ใส่ ชุดกระชับกล้ามเนื้อและข้อต่อ ป้องกันการบาดเจ็บ และป้องกันการสะบัดตัวของกล้ามเนื้อขณะออกกำลังกาย ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ > http://bit.ly/3u5zjPS
.นายศักดิ์ชัย ภัทรปรีชากุล กรรมการบริษัท เอ็น ซี.ซี. แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด กล่าวถึงความร่วมมือของศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ในการสนับสนุนกิจกรรมที่ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน โดยเฉพาะการเปิดโอกาสให้คนกรุงเทพฯ ได้ใช้พื้นที่สาธารณะในการทำกิจกรรมที่หลากหลายมากขึ้น นายสุรพลกล่าวว่า "การเสริมสร้างศักยภาพของคนไทยถือเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน ในปีนี้ บริษัทฯ ได้ส่งมอบโรงกีฬามาตรฐานสากลแห่งใหม่ ใจกลางสวนเบญจกิติให้แก่กรุงเทพมหานคร เพื่อให้ประชาชนสามารถใช้เวลาว่างไปกับการออกกำลังกาย สร้างสุขภาพที่ดี และร่วมกันสร้างสังคมที่แข็งแรง" สำหรับการแข่งขัน "วิ่งการกุศลสเปเชียลโอลิมปิคไทย ซีดับบลิว-เอ็กซ์ ปี 2568" ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ได้ให้การสนับสนุนในหลายด้าน อาทิ จัดพื้นที่หน้า Hall 8 ชั้น LG สำหรับการลงทะเบียนนักวิ่งและจัดแสดงนิทรรศการ สเปเชียลโอลิมปิคไทย ในวันเสาร์ที่ 25 มกราคม 2568 อำนวยความสะดวกให้กับนักวิ่งและผู้เข้าร่วมกิจกรรมด้วยที่จอดรถยนต์ และ ร้านค้าร้านอาหาร ในวันแข่งขัน สนับสนุนการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการจัดกิจกรรมอย่างราบรื่น "ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมที่มีความหมายเช่นนี้ และเรายินดีสนับสนุนทุกความพยายามที่มุ่งเน้นการส่งเสริมสุขภาพและความเท่าเทียมในสังคมไทย" นายสุรพลกล่าว
กิจกรรมนี้สะท้อนถึงความตั้งใจร่วมกันของทุกภาคส่วนในการสร้างสังคมที่ยั่งยืนและน่าอยู่สำหรับทุกคน นายสมมาตร มณีหยัน รองอธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวในฐานะผู้แทน ดร. เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมธนารักษ์ ถึงบทบาทสำคัญของกรมธนารักษ์ในฐานะหน่วยงานหลักในการพัฒนาสวนป่าใจกลางกรุงเทพมหานคร ซึ่งถือเป็นส่วนเติมเต็มให้สวนสาธารณะเบญจกิติมีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ตามแนวพระราชดำริ “ป่ารักน้ำ” ของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ดร. เอกนิติ กล่าวว่า "การจัดการแข่งขันวิ่งการกุศลฯ ครั้งนี้ มีจุดมุ่งหมายเพื่อระดมทุนสนับสนุนโครงการพัฒนาศักยภาพและคุณภาพชีวิตของผู้พิการไทยทั่วประเทศ ซึ่งสอดคล้องกับพันธกิจของกรมธนารักษ์ ในการลดความเหลื่อมล้ำและสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับประชาชน" การแข่งขันครั้งนี้ยังแสดงให้เห็นถึงการใช้พื้นที่สวนป่าเบญจกิติเพื่อดำเนินกิจกรรมที่มีคุณค่าแก่สังคม เชื่อมโยงการใช้ประโยชน์ของพื้นที่ร่วมกับการมีส่วนร่วมของประชาชน โดยกรมธนารักษ์มีความยินดีสนับสนุนโครงการนี้ผ่านการอนุเคราะห์ อาคารพิพิธภัณฑ์สวนป่าเบญจกิติ (โรงงานยาสูบ 5) สำหรับกิจกรรมต่างๆ และการอำนวยความสะดวกในพื้นที่ตลอดช่วงการจัดการแข่งขัน "เรามุ่งหวังว่ากิจกรรมนี้จะสร้างประโยชน์สูงสุดแก่สังคม และเป็นตัวอย่างที่ดีของการใช้พื้นที่สาธารณะเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและสร้างความร่วมมือที่ยั่งยืนในชุมชน" นายสมมาตรกล่าว การแข่งขันวิ่งการกุศลครั้งนี้ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของการเชื่อมโยงภาคส่วนต่างๆ เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีและการอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างมีความสุข
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และ Special Olympics Thailand Celebrity Ambassador กล่าวถึงความเชื่อมั่นในพลังของกีฬาว่า "กีฬาเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการนำผู้คนมารวมกัน เพื่อสร้างสังคมที่อยู่ร่วมกันได้อย่างกลมเกลียว และเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนในสังคมได้มีส่วนร่วมมากขึ้น" นายอภิสิทธิ์ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า "ผมรู้สึกดีใจและเป็นเกียรติที่ได้รับเชิญให้เป็นทูตของสเปเชียลโอลิมปิคไทย และในโอกาสการจัดงานวิ่งการกุศลฯ ครั้งนี้ มีโครงการ ‘ช่วยน้องได้วิ่ง’ ซึ่งถือเป็นโครงการที่มีความหมายอย่างยิ่ง เพราะผู้พิการทางสติปัญญาจำนวนมากแทบไม่เคยมีโอกาสได้ร่วมกิจกรรมวิ่งในที่สาธารณะ การที่เราสนับสนุนให้น้องๆ เหล่านี้ได้มีโอกาสเข้าร่วมแข่งขันร่วมกับนักวิ่งทั่วไป จึงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก" เขายังได้กล่าวถึงความสำคัญของการเปิดโอกาสให้ผู้พิการทางสติปัญญาได้ออกมามีส่วนร่วมในสังคมว่า "ผู้พิการทางสติปัญญาส่วนใหญ่มักใช้ชีวิตในครอบครัว และไม่ค่อยมีโอกาสสัมผัสกับสังคมภายนอก การจัดกิจกรรมเช่นนี้จึงไม่เพียงสร้างความสุขให้กับน้องๆ นักกีฬาสเปเชียลโอลิมปิคไทย แต่ยังเป็นการสร้างคุณค่าและความหมายให้กับชีวิตของพวกเขา รวมถึงช่วยเสริมสร้างการยอมรับในสังคม" นายอภิสิทธิ์สรุปว่า การใช้กีฬาเป็นสื่อกลางเช่นนี้ จะช่วยสร้างความเข้าใจและความเท่าเทียมในสังคม พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ผู้พิการได้แสดงศักยภาพและเข้าถึงโอกาสที่เท่าเทียมกันในชุมชน
นางสาวอนุษฐา เชาว์วิศิษฐ กรรมการกลุ่มบริษัท เจ เอ โอ กล่าวในนามตัวแทนของผู้สนับสนุนรายการวิ่งการกุศลฯ ว่า รู้สึกประทับใจอย่างยิ่งต่อการดำเนินโครงการของ สเปเชียลโอลิมปิคประเทศไทย ซึ่งไม่เพียงมุ่งเน้นการพัฒนานักกีฬาเพื่อแข่งขันในระดับโลกและสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมถึงการจัดโครงการในระดับรากหญ้าทั่วทุกจังหวัด นางสาวอนุษฐากล่าวว่า "องค์กรสเปเชียลโอลิมปิคไทยได้ดูแลนักกีฬาผู้พิการทางสติปัญญาในทุกระดับ และยังเปิดโอกาสให้นักกีฬาได้มีส่วนร่วมในบทบาทต่างๆ ทั้งในฐานะผู้เข้าแข่งขันและผู้มีส่วนร่วมในโครงการ นอกจากนี้ โครงการยังช่วยให้ประชาชนทั่วไปได้สัมผัสและเข้าใจถึงความสามารถและศักยภาพของนักกีฬา พร้อมทั้งได้เห็นผลลัพธ์ที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของผู้พิการอย่างแท้จริง" เธอยังกล่าวเพิ่มเติมว่า "ในนามของผู้สนับสนุนรายการวิ่งการกุศลฯ ครั้งนี้ เรารู้สึกยินดีและภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมกับน้องๆ นักกีฬาสเปเชียลโอลิมปิคอีกครั้ง และพร้อมสนับสนุนกิจกรรมนี้ในทุกๆ ปี การระดมทุนทุกครั้งไม่เพียงช่วยพัฒนานักกีฬา แต่ยังเป็นการขยายผลโครงการที่มีคุณค่าทางสังคมและมนุษยธรรมในวงกว้าง" นางสาวอนุษฐาสรุปว่า การสนับสนุนโครงการสเปเชียลโอลิมปิคเป็นมากกว่าการให้ความช่วยเหลือทางการเงิน แต่เป็นการร่วมสร้างโอกาส เปลี่ยนแปลงชีวิต และส่งเสริมความเท่าเทียมในสังคมไทยอย่างแท้จริง
นอกจากนั้น ภายในงานยังมีการสัมภาษณ์พิเศษกับ Special Olympics Thailand Group Ambassador "BNK48" ที่มาร่วมสร้างสีสันและส่งต่อกำลังใจให้กับผู้เข้าร่วมกิจกรรม อีกทั้งยังมี ศิลปินรับเชิญพิเศษจาก GMMTV ได้แก่ จิมมี่ นายแพทย์จิตรพล โพธิวิหค, ซี ทวินันท์ อนุกูลประเสริฐ โอม ภวัต จิตต์สว่างดี และ เล้ง ธนพล อู่สินทรัพย์ ที่มาร่วมพูดคุยและสนับสนุนโครงการด้วยความตั้งใจ ที่มาร่วมกิจกรรมเพื่อสร้างแรงบันดาลใจและสนับสนุนความสำคัญของการเปิดโอกาสให้ผู้พิการทางสติปัญญาได้มีพื้นที่ในการแสดงศักยภาพ การมีส่วนร่วมของศิลปินและบุคคลที่มีชื่อเสียงเหล่านี้ไม่เพียงช่วยเพิ่มความพิเศษให้กับงาน แต่ยังเป็นการส่งเสริมการตระหนักรู้ในสังคมถึงความสำคัญของการยอมรับและสนับสนุนผู้พิการทางสติปัญญาในทุกมิติ