หน้าแรกแกลเลอรี่

ศึกไทยแลนด์โอเพ่น สนามสุดท้ายที่ จ.เลย ตัดสินแชมป์และได้ครองถ้วยพระราชทาน

ไทยรัฐออนไลน์

1 ก.ย. 2567 14:41 น.

นักปั่นหลั่งไหลเข้าร่วมชิงชัยจักรยานเสือภูเขาทางเรียบ และประเภทถนน ไทยแลนด์ โอเพ่น ชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทานฯ ประจำปี 2567 สนามสุดท้าย

นักปั่นจากทั่วทุกสารทิศหลั่งไหลเข้าร่วมชิงชัยจักรยานเสือภูเขาทางเรียบ และประเภทถนน ไทยแลนด์ โอเพ่น ชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทานฯ ประจำปี 2567 สนามที่ 4 สนามสุดท้าย วันที่ 7-8 ก.ย.67 ที่ อ.ภูเรือ จ.เลย เพื่อตัดสินหาแชมป์ประเทศไทยในแต่ละรุ่น โดยทุกรุ่นจะได้คะแนนเพิ่มเป็น 2 เท่า รุ่นที่นักปั่นมีคะแนนสูสีกันจะต้องแย่งแชมป์กันจนถึงนาทีสุดท้าย คาดว่าจะมีนักปั่นและผู้ติดตามมากกว่า 1,000 คน เป็นการจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดเลยได้เป็นอย่างดี ด้านกิจกรรมปั่นเพื่อชีวิต “Bike for Life” สนับสนุนโดย สสส. มีนักปั่นจากชมรมต่าง ๆ ร่วมกว่า 200 คน ผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมจะได้รับประกาศนียบัตร เสื้อยืดและกระบอกน้ำที่ระลึกจาก สสส. ทุกคน พร้อมชมนิทรรศการขับขี่จักรยานอย่างไรให้ปลอดภัย และคลินิกซ่อมจักรยาน “ฟรี”

“เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี ประธานสหพันธ์จักรยานแห่งอาเซียน (เอซีเอฟ) และนายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูถัมภ์ เปิดเผยว่า ตามที่สมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้ร่วมกับจังหวัดเลย, องค์การบริหารส่วนจังหวัดเลย, สำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทย จังหวัดเลย จัดการแข่งขันจักรยานเสือภูเขาทางเรียบ และจักรยานประเภทถนน ไทยแลนด์ โอเพ่น ชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประจำปี 2567 สนามที่ 4 ที่อำเภอภูเรือ ระหว่างวันที่ 7-8 กันยายน ศกนี้ โดยมีการถ่ายทอดสดทางเฟซบุ๊กไลฟ์ Tour of Thailand 2024 และ YouTube : TCA Channel ตลอดการแข่งขันทั้ง 2 วัน

พลเอกเดชา กล่าวว่า การแข่งขันจักรยาน “ไทยแลนด์ โอเพ่น” สนามที่ 4 นี้ จะมีบรรดานักปั่นหลั่งไหลจากทั่วประเทศมาร่วมชิงชัยจำนวนมาก เนื่องจากเป็นสนามสุดท้ายที่จะตัดสินว่านักปั่นคนใดจะคว้าแชมป์แต่ละรุ่น และได้ครองถ้วยพระราชทานฯ สำหรับสนามสุดท้ายนี้คะแนนในอันดับต่าง ๆ จะได้รับเพิ่มเป็น 2 เท่า เพราะฉะนั้นในรุ่นไหนที่นักปั่นมีคะแนนสูสีกันก็ต้องสู้กันอย่างสุดความสามารถ เพราะผู้ที่อยู่อันดับรอง ๆ ลงไปก็มีโอกาสที่ทำคะแนนแซงคว้าแชมป์ไปครองได้ ดังนั้นขอให้ทุกคนฟิตซ้อมร่างกายให้ดี และขอแจ้งถึงบรรดานักปั่นทุกท่านว่าหากยังไม่ได้จองโรงแรมที่พักในอำเภอภูเรือ ขอให้รีบตัดสินใจด่วน เนื่องจากห้องพักเหลือน้อยแล้ว ถ้าไม่รีบจับจองที่พักอาจจะต้องไปหาที่พักซึ่งไกลออกไป

“เสธ.หมึก” กล่าวอีกว่า สำหรับการแข่งขันสนามนี้คาดว่าจะมีนักปั่นและผู้ติดตามจากทั่วทุกสารทิศเข้าร่วมมากกว่า 1,000 คน ไปเยือนอำเภอภูเรือในช่วงแข่งขัน โรงแรมที่พัก สินค้าที่ระลึก สินค้า OTOP และร้านอาหารต่าง ๆ มีรายได้เพิ่มมากขึ้น เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในจังหวัดเลยได้เป็นอย่างดี และหลังจากแข่งขันเสร็จสิ้นในแต่ละวันนักปั่นสามารถไปท่องเที่ยวยังสถานที่ต่าง ๆ ของอำเภอภูเรือได้ เช่น อุทยานแห่งชาติภูเรือ, วัดป่าห้วยลาด ที่มีความสวยงามมาก, วัดสมเด็จภูเรือมิ่งเมือง ซึ่งมีความโดดเด่นที่วิหารสร้างด้วยไม้สักทั้งหลัง, สถานีทดลองเกษตรที่สูงภูเรือ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ แหล่งศึกษาวิจัยและทดลองปลูกไม้ดอกไม้ประดับ ปลูกพืชผัก-ผลไม้เมืองหนาว เป็นต้น ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวในจังหวัดเลยให้มีความคึกคักมากกว่าเดิม

นายกสองล้อไทย กล่าวต่อไปว่า สำหรับพิธีเปิดการแข่งขันจักรยานเสือภูเขาทางเรียบ ไทยแลนด์ โอเพ่น ในวันเสาร์ที่ 7 กันยายน เวลา 07.30 น. ที่สนามหน้าที่ว่าการอำเภอจังหวัดภูเรือ ทางสมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้เรียนเชิญ นายชัยพจน์ จรูญพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ให้เกียรติมาเป็นประธานในพิธี นอกจากนี้ทางสมาคมกีฬาจักรยานฯ ยังได้จัดกิจกรรมปั่นเพื่อชีวิต “Bike for Life” สนับสนุนโดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) โดยใช้ชื่อกิจกรรมว่า “ปั่นสุขภาพดีผีบุ้งเต้า” ซึ่งผีบุ้งเต้าเป็นหน้ากากยักษ์ที่ทำจากน้ำเต้า แขวนอยู่บนหัวธุงหรือตุง เป็นประเพณีการทำธุงของชาวบ้านไฮตาก ตำบลลาดค่าง อำเภอภูเรือ จังหวัดเลย โดยจะมีนักปั่นจากชมรมจักรยานในจังหวัดเลยและจังหวัดใกล้เคียงนำจักรยานมาร่วมกิจกรรมมากกว่า 200 คน

พลเอกเดชา กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะเดียวกัน สมาคมกีฬาจักรยานฯ ร่วมกับ สสส. จัดนิทรรศการขับขี่จักรยานอย่างไรให้ปลอดภัย พร้อมกับการอบรมทักษะการปั่นจักรยานที่ถูกต้องจากผู้ฝึกสอนจักรยานของสมาคมฯ มีการเปิดคลินิกซ่อมรถจักรยานฟรี โดยเปิดให้ประชาชนนำรถจักรยานที่ชำรุดมาซ่อมแซมให้ใช้งานได้อีกครั้ง เป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายตาม “ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” ของในหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะได้รับประกาศนียบัตรที่มีลายเซ็นของนายกสมาคมกีฬาจักรยานฯ และลายเซ็นของ ดร.นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม ผู้ช่วยผู้จัดการสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) รวมทั้งจะได้รับเสื้อยืดและกระบอกน้ำจาก สสส. เป็นที่ระลึกทุกคน

สำหรับกำหนดการแข่งขันจักรยานเสือภูเขาทางเรียบ ไทยแลนด์ โอเพ่น สนามที่ 4 ในวันเสาร์ที่ 7 กันยายน แบ่งเป็น 20 รุ่นตามกลุ่มอายุ เริ่มปล่อยตัวเวลา 08.00 น. เส้นทางเริ่มจากหน้าที่ว่าการอำเภอภูเรือ เลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนหมายเลข 21 เลี้ยวซ้ายเข้าถนนหมายเลข 2008 ผ่านวัดโพนทอง ตรงไปผ่านทางเข้าน้ำตกปลาป่า ผ่านโรงเรียนบ้านร่องจิก เขตอำเภอด้านซ้าย ผ่านบ้านหนองอุมลัว เลี้ยวขวาสามแยกโคกงามเข้าทางหลวงหมายเลข 21 แล้วเลี้ยวขวาไปทางบ้านหนองแซง ผ่านวัดป่าอุดมมงคล กลับเข้าเขตอำเภอภูเรือ ผ่านโรงเรียนบ้านแก่งไฮ ไปเข้าเส้นชัยหน้าที่ว่าการอำเภอภูเรือ ระยะทาง 47 กิโลเมตร ยกเว้นรุ่นอายุไม่เกิน 10 ปีชาย, รุ่นอายุ 11-12 ปีชาย, รุ่นอายุ 13-14 ปีชาย, รุ่นอายุไม่เกิน 12 ปีหญิง, รุ่นอายุ 13-14 ปีหญิง ปล่อยตัวเวลา 08.15 น. ปั่นในระยะทาง 14.7 กิโลเมตร โดยมีการถ่ายทอดสดทางเฟซบุ๊กไลฟ์ Tour of Thailand 2024 และ YouTube : TCA Channel ตั้งแต่เวลา 07.30 น.

ส่วนกำหนดการแข่งขันจักรยานประเภทถนน ไทยแลนด์ โอเพ่น ชิงแชมป์ประเทศไทย สนามที่ 4 ในวันอาทิตย์ที่ 8 กันยายน แบ่งเป็น 13 รุ่น เริ่มปล่อยตัวตั้งแต่เวลา 08.00 เส้นทางจะคล้ายกับประเภทเสือภูเขา แต่เมื่อผ่านบ้านหนองอุมลัวแล้วจะเลี้ยวซ้ายออกถนนหมายเลข 21 ไปกลับตัวที่โรงเรียนบ้านโพนสูง ผ่านปั๊มน้ำมัน PT แล้วเลี้ยวซ้ายที่สามแยกโคกงามไปทางถนนหมายเลข 2013 ไปกลับตัวที่บริเวณบ้านห้วยตาด ผ่านสามแยกโคกงาม ไปเข้าเส้นชัยที่สนามหน้าที่ว่าการอำเภอภูเรือ ระยะทางรวม 67.60 กิโลเมตร โดยมีการถ่ายทอดสดทางเฟซบุ๊กไลฟ์ Tour of Thailand 2024 และ YouTube : TCA Channel ตั้งแต่เวลา 07.30 น. จนจบการแข่งขัน

ผู้ที่สนใจสมัครเข้าแข่งขันจักรยานเสือภูเขาทางเรียบ และจักรยานประเภทถนน ไทยแลนด์ โอเพ่น ชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทานฯ สนามที่ 4 ที่อำเภอภูเรือ จังหวัดเลย ระหว่างวันที่ 7-8 กันยายน สามารถสมัครได้ที่เว็บไซต์ของสมาคมกีฬาจักรยานฯ www.thaicycling.or.th ภายในเวลา 12.00 น. ของวันที่ 5 กันยายน หรือสมัครได้ที่กองอำนวยการหน้าที่ว่าการอำเภอภูเรือในวันที่ 6 กันยายน เวลา 09.00-16.00 น. โดยติดตามรายละเอียดที่เฟซบุ๊กของสมาคมฯ Thaicycling Association หรือสอบถามได้ที่ โทร.0-2719-3340-2 ในวันและเวลาราชการ.