โจโจ้
เปิดฉากชิงชัยอย่างเป็นทางการ แล้ว “พาราลิมปิก 2024” ลุ้นทัพนักกีฬาคนพิการไทยที่กำลังแย่งชิง เหรียญทองยาวไปจนถึงวันที่ 8 ก.ย. ที่กรุงปารีส ฝรั่งเศส
ส่องความพร้อมของทัพนักกีฬาคนพิการของไทย การันตีเกินร้อย ทั้งความฟิตและหัวใจ ทุกคนอยากทำผลงานให้ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้อย่างแน่นอน
ย้อนกลับไปดูผลงานของทัพนักกีฬาคนพิการหนก่อน “โตเกียว 2020” จบอันดับ 25 ด้วยจำนวน 5 เหรียญทอง 5 เหรียญเงิน 8 เหรียญทองแดง ถือว่า ไม่ธรรมดา
เมื่อเทียบผลงานในอาเซียนทัพไทยยังครอง เบอร์ 1 เหนือกว่ามาเลเซียที่จบอันดับ 39 รวมถึง อินโดนีเซีย อันดับ 43 สิงคโปร์ อันดับ 48 และ เวียดนาม อันดับ 75
ส่วนทวีปเอเชียต้องยอมรับคงสู้มหาอำนาจอย่างจีนไม่ได้อยู่แล้ว แต่ไทยก็ถือว่าผลงานดีเพราะจบอันดับ 6 ของเอเชีย เหนือกว่าเกาหลีใต้
เสียดายที่ภาครัฐให้ความสำคัญกับนักกีฬาคนพิการน้อยไปนิด จริงอยู่อาจเทียบไม่เท่าความยิ่งใหญ่ของ “โอลิมปิกเกมส์” ทั้งที่จริงๆแล้วก็เป็น เกมเดียวกันต่างกันที่คนปกติกับคนพิการเท่านั้น
ขนาดนักกีฬาปกติกว่าจะได้เหรียญทองแต่ละเหรียญกลับมาแทบรากเลือด ขนาดเหรียญเดียวยังฉลองกันเป็นเดือน ภาคเอกชนแห่กันต้อนรับและแย่งกันอัดฉีดให้รางวัลกับนักกีฬา
แล้วลองมองไปที่นักกีฬาคนพิการที่แตกต่างจากคนปกติ การได้เหรียญทองกลับมาถือว่าสุดยอดยิ่งกว่า ผมไม่อยากเขียนบรรยายสภาพเยอะแค่ทุกคนเปิดใจและดูเวลานักกีฬาแข่งขันก็น่าจะพอมองออก
เพียงแต่อยากจะฝากไปถึงรัฐบาลของ “นายกฯอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีคนที่ 31 รวมถึงว่าที่รัฐมนตรีกีฬาคนใหม่ คงต้องหันมามองและให้ความสำคัญกับนักกีฬาคนพิการมากกว่านี้
เห็นได้ชัดแค่เงินรางวัลอัดฉีดที่ภาครัฐให้กับนักกีฬาโอลิมปิกกับพาราลิมปิก ช่างแตกต่างอย่างสิ้นเชิง ไม่ต้องมากกว่าหรอกครับ แค่เท่ากันผมว่านักกีฬาคนพิการก็พอใจแล้ว
ส่งแรงใจไปเชียร์กันเยอะๆ เพื่อให้ทัพนักกีฬา ที่เป็นตัวแทนของคนไทยกระชากเหรียญทองกลับสู่ แดนสยามให้ได้มากที่สุด.
โจโจ้