ไทยรัฐฉบับพิมพ์
เปิดหน้าประวัติศาสตร์การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ “ประเทศไทย” สร้างผลงานไว้ได้อย่างน่าภาคภูมิใจ โดยคว้าเหรียญทองมาครองแล้วทั้งสิ้น 10 เหรียญ นับตั้งแต่ส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันมหกรรมกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติครั้งแรกในปี 2495 ประเดิมเหรียญทองแรกโดย “สมรักษ์ คำสิงห์” ยอดนักมวยอารมณ์ดีจากขอนแก่น ในปี 2539 และล่าสุดทำให้คนไทยที่ตามเชียร์ทัพนักกีฬาไทยในมหกรรมกีฬาสุดยิ่งใหญ่ “โอลิมปิก เกมส์ ปารีส 2024” ใจฟูทั้งประเทศ เมื่อ “เทนนิส-พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ” สร้างประวัติศาสตร์คนแรกของไทย คว้าเหรียญทองเทควันโดโอลิมปิกเป็นสมัยที่สองติดต่อกัน นับเป็นของขวัญชิ้นใหญ่ที่ช่วยฮีลใจ และจุดประกาย ความหวังใหม่ให้กับวงการกีฬาไทย
นอกจาก “น้องเทนนิส” ที่สร้างนาทีประวัติศาสตร์ ไล่เตะคู่แข่งสาวจีนเดือดจนคว้าเหรียญทองเทควันโดโอลิมปิกสองสมัยซ้อนให้ประเทศไทย ขึ้นหิ้งเป็นผู้สร้างตำนานบทใหม่วงการกีฬาไทย คนไทย ยังได้ชื่นอกชื่นใจไปกับ “ฮีโร่โอลิมปิกไทย 2024” ที่สร้างผลงานไว้อย่างโดดเด่น และคว้าเหรียญกลับบ้านให้คนไทยได้ภาคภูมิใจ
ไม่ว่าจะเป็น “วิว-กุลวุฒิ วิทิตศานต์” ตัวแทนนักแบดมินตันชายเดี่ยวทีมชาติไทย ที่คว้าเหรียญเงินโอลิมปิก 2024 ได้เป็นคนแรกของวงการลูกขนไก่ไทย ทั้งๆที่รับใช้ทีมชาติไทยเป็นครั้งแรก สร้างแรงบันดาลใจมหาศาลให้กับเด็กรุ่นใหม่ และฟื้นฟูภาพลักษณ์ของวงการตำรวจไทย นอกจากจะมุ่งมั่นฝึกซ้อมอย่างหนักเพื่อชาติ และเป็นแบบอย่างของตำรวจน้ำดี ความหล่อละมุนของ “หนุ่มวิว” ที่ละม้ายคล้ายซุปตาร์เกาหลี “ฮยอนบิน” ยังทำเอาสาวๆทั้งโลกใจละลาย และตามเชียร์สุดใจขาดดิ้น ก็อย่างที่ฮีโร่ของเรากล่าวไว้ “คนตีไม่เคยท้อ คนเชียร์อย่าเพิ่งทิ้ง ประวัติศาสตร์เพิ่งเริ่มเขียนครับ” อนาคตของสุดหล่อยังอีกยาวไกล คนไทยตามส่งใจเชียร์ไม่เลิกแน่นอน
สร้างเซอร์ไพรส์เหนือความคาดหมายก็ต้องยกให้ “ฟ่าง-ธีรพงศ์ ศิลาชัย” จอมพลังหนุ่มวัย 20 ปี จากศรีสะเกษ ที่คว้าเหรียญเงินยกน้ำหนักโอลิมปิกรุ่น 61 กิโลกรัมชาย โดยหลังคว้าชัยชนะเผยทั้งน้ำตาว่า เตรียมนำเงินรางวัลไปสร้างบ้านให้พ่อ ขึ้นแท่นเป็นนักกีฬายอดกตัญญู รับรองว่าอนาคตไกล ในวันเดียวกันคนไทยยังใจฟูขึ้นอีกกับเหรียญทองแดงที่ “ออย-สุรจนา คำเบ้า” คว้ามาให้ประเทศไทย จากกีฬายกน้ำหนักรุ่น 49 กิโลกรัมหญิง แกร่งเกินต้านจริงๆ!! โชว์ฟอร์มได้สุดยอดยังรวมถึง “เวฟ-วีรพล วิชุมา” จอมพลังดาวรุ่งวัย 19 ปี จากสุรินทร์ ที่คว้าเหรียญเงินมาครองได้จากการแข่งขันยกน้ำหนักโอลิมปิกรุ่น 73 กิโลกรัมชาย เข้าแข่งขันครั้งแรกในชีวิต ก็ทำลายสถิติท่าคลีนแอนด์เจิร์กของตัวเอง ทุบสถิติเยาวชนโลกที่น้ำหนัก 198 กิโลกรัม
วงการมวยไทยแม้จะเงียบเหงาไปบ้าง แต่หลังจากผ่านการฝึกฝนอย่างหนัก กระโดดเชือกนับชั่วโมงไม่ถ้วน ชกลมเป็นหมื่นเป็นแสนครั้ง “บี-จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง” กำปั้นหญิงไทยได้ขึ้นชกอย่างสมศักดิ์ศรี และคว้าเหรียญทองแดงในการแข่งขันมวยสากลสมัครเล่น รุ่น 66 กิโลกรัมหญิง ให้แฟนชาวไทยได้ภูมิใจ
“เทนนิส-พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ พาคนไทยใจฟูอีกแล้วครับ รอบนี้เอาชนะคู่แข่งจากจีน ในการแข่งขันกีฬาเทควันโดรุ่น 49 กิโลกรัมหญิง คว้าเหรียญทองแรกในโอลิมปิก 2024 ให้ไทย แถมเป็นเหรียญทองในวันเกิดของน้องด้วย สุดยอดเลยครับ เรายังได้เหรียญเงินจาก “ฟ่าง-ธีรพงศ์” ในการแข่งขันกีฬายกน้ำหนักรุ่น 61 กิโลกรัมชาย ปีนี้น้องเพิ่งมาโอลิมปิกครั้งแรกก็คว้าเหรียญเลย น้องอายุ 20 เท่านั้น
อนาคตไกลครับ ขณะที่ “ออย-สุรจนา” ก็คว้าเหรียญทองแดงจากกีฬายกน้ำหนักรุ่น 49 กิโลกรัมหญิง มาให้คนไทยด้วย น้องยกลูกเหล็กได้ถึง 200 กิโลกรัม แกร่งมากๆ ...ถือเป็นวันประวัติศาสตร์อีกวันของไทยครับ ที่เราได้ 3 เหรียญในวันเดียว ผมขอแสดงความยินดีกับทุกคนจริงๆ ทุกเหรียญรางวัลที่ได้รับคือความสำเร็จและความภาคภูมิใจของเราชาวไทยครับ”...“นายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน” โพสต์ในบัญชี X แสดงความชื่นชมทัพนักกีฬาไทย ที่คว้าเหรียญจากการเข้าร่วมแข่งขันโอลิมปิก 2024
นอกจากนี้ “นายกฯเศรษฐา” ยังเปิดทำเนียบรัฐบาลต้อนรับฮีโร่โอลิมปิกไทยคณะแรกทันทีที่เดินทางกลับถึงประเทศไทย โดยแสดงความชื่นชมว่า “ยินดีมากๆครับที่ได้ต้อนรับเหล่าวีรบุรุษนักกีฬาที่เป็นตัวแทนประเทศไปแข่งโอลิมปิกและผู้ฝึกซ้อม ท่านคือความภาคภูมิใจของคนไทยทั้งประเทศ ที่ช่วยสร้างชื่อเสียง และคว้าเหรียญรางวัลกลับมาให้คนไทยได้ชื่นชม หวังว่านักกีฬาทุกท่านจะมุ่งมั่นพัฒนาตัวเองยิ่งๆขึ้น เพื่อเป็นกำลังสำคัญของประเทศต่อไป สำหรับการแข่งขันแบดมินตัน ผมติดตามเชียร์ตลอด วันนี้ดีใจที่ได้เจอทั้ง “วิว กุลวุฒิ” และ “2 เมย์” คือ “เมย์ รัชนก” และ “เมย์ ศุภนิดา” นักแบดมินตันหญิงด้วย แม้วันนั้นจะยังไม่ใช่วันของเรา แต่สำหรับคนไทย เหรียญเงินที่วิวเอามาฝากคนไทยนี้ คือเหรียญประวัติศาสตร์ของวงการแบดมินตันไทยครับ ผมขอขอบคุณนักกีฬาทุกคนที่ทำเพื่อประเทศไทย และเป็นแรงบันดาลใจให้กับเพื่อนนักกีฬาและเยาวชนไทย รัฐบาลยินดีให้การสนับสนุนเต็มที่ครับ”
อีกหนึ่งสีสันในโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่ทำให้ชาวโลกได้สัมผัสถึงพลังซอฟต์พาวเวอร์ไทย ต้องยกให้ลีลาการไหว้ย่อไหว้สวยของ “คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล” ไอโอซีเมมเบอร์หญิงหนึ่งเดียวของประเทศไทย และรองประธานสหพันธ์แบดมินตันโลก คุมการแข่งขันทุกนัดของแบดมินตันในโอลิมปิก เกมส์ ปารีส ที่นำวัฒนธรรมการไหว้อันดีงามของไทยเผยแพร่ไปทั่วมหกรรมกีฬาครั้งล่าสุด สร้างที่ยืนให้ประเทศไทยบนเวทีโลกได้อย่างสง่างาม ปลุกกระแสให้นักกีฬาทั่วโลกลุกขึ้นมาไหว้ขอบคุณกันไปมา สร้างมีนใหม่จนกลายเป็นไวรัลไปทั่ว ตอกย้ำถึงความละมุนแต่ทรงพลังของวัฒนธรรมไทย ที่ทัชใจคนทั่วโลก!!
ทีมข่าวหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ