หน้าแรกแกลเลอรี่

"คาโรย ตอกาชส์" เมื่อพลังศรัทธาแรงกล้ากว่าโชคชะตาอันโหดร้าย

ไทยรัฐออนไลน์

27 ก.ค. 2567 16:24 น.

ชมเรื่องราวของ คาโรย ตอกาชส์ นักยิงปืนสั้น 25 เมตร ผู้สูญเสียมือขวาข้างถนัด แต่ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา และลุกขึ้นมาหัดยิงปืนด้วยมือซ้าย ก่อนจะก้าวสู่จุดสูงสุดด้วยการคว้าเหรียญทองโอลิมปิก 2 สมัย

การคว้าเหรียญทองในมหกรรมกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง โอลิมปิก ว่ายากแล้ว ยิ่งการสูญเสียอวัยวะส่วนที่สำคัญที่สุดในการเล่นกีฬาชนิดนั้นๆ มันแทบจะเป็นไปไม่ได้

ทว่ากลับมีชายคนหนึ่งที่ไม่ย่อท้อต่อโชคชะตาที่ฟ้ากำหนดมา เขาก้าวไปสู่จุดสูงสุดเท่าที่นักกีฬาคนหนึ่งจะทำได้ ทั้งๆ ที่ต้องเสีย "มือขวา" อวัยวะที่สำคัญที่สุดในกีฬายิงปืน

นี่คือเรื่องราวของ คาโรย ตอกาชส์ บุรุษชาวฮังกาเรียนผู้ที่เกิดและเติบโตท่ามกลางบรรยากาศสงครามโลกที่กำลังคุกรุ่น และหลงใหลในการยิงปืนอย่างสุดหัวใจ

แน่นอนว่าการเกิดมาเป็นเพศชายในทวีปยุโรป อันเป็นสมรภูมิหลักของสงครามโลกครั้งที่ 1 ส่งผลให้ ตอกาชส์ หลีกเลี่ยงไม่ได้เลยที่จะถูกเกณฑ์ไปรับใช้ชาติในฐานะทหารนายหนึ่ง

แต่ความพิเศษของ ตอกาชส์ ที่เหนือกว่าเพื่อนร่วมชาติคนอื่นๆ ก็คือการที่เขาเป็นคนที่ชอบและหลงไหลในการยิงปืนเป็นอย่างมาก จนสุดท้ายได้ถูกบรรจุเข้าไปสู่ทีมยิงปืนของกองทัพฮังการี ในปี ค.ศ. 1936

ซึ่งในปีเดียวกันนั้นก็มีการแข่งขัน โอลิมปิกฤดูร้อน อันเป็นมหกรรมกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมวลมนุษยชาติจัดขึ้น ณ กรุงเบอร์ลิน ไรซ์เยอรมัน พอดิบพอดี และแน่นอนว่า ตอกาชส์ ต้องการเข้าร่วมการแข่งขันแบบสุดๆ

อย่างไรก็ตามโชคชะตากลับไม่เข้าข้างเขาเท่าไรนัก เพราะ ทีมชาติฮังการี มีกฎเหล็กว่านักกีฬาที่จะเข้าร่วมกันแข่งขันยิงปืนระดับชาติจะต้องอยู่ในชั้นยศสัญญาบัตร ทำให้ ตอกาชส์ ที่ตอนนั้นมียศอยู่ในชั้นประทวน ไม่สามารถเข้าร่วมแข่งขันได้

แต่กระนั้นทุกอย่างก็ไม่ได้แย่ไปเสียทีเดียว เพราะหลังจากนั้นไม่นาน กองทัพฮังการี ก็ได้มีการยกเลิกกฎดังกล่าว ทำให้ ตอกาชส์ มีสิทธิ์เข้าแข่งขันใน โอลิมปิก ครั้งถัดไป

ระหว่างนั้นเขาก็ฝึกฝนฝีมือการอย่างหนัก ด้วยความหวังว่าจะได้กลายเป็นเจ้าของเหรียญทอง โอลิมปิก ในสักวัน แต่สุดท้ายในขณะที่ทุกอย่างดำเนินไปอย่างราบรื่น โชคชะตากลับเล่นตลกใส่เขาอีกครั้ง

ในปี ค.ศ. 1938 ขณะที่เขากำลังฝึกขว้างระเบิดอยู่ในกองทัพฮังการี ตอกาชส์ ต้องประสบกับเหตุการณ์ระเบิดคามือ ส่งผลให้เขาต้องเสีย "มือขวา" อันเป็นมือข้างที่ใช้ยิงปืนไปตลอดกาล

ตอกาชส์ หายตัวจากวงการเป็นระยะเวลา 1 ปีเต็ม ระหว่างนั้นเขาต้องพบกับความสิ้นหวัง เพราะโอกาสที่เขาจะได้ทำตามฝันใน โอลิมปิก แทบจะไม่เหลืออีกแล้ว

อย่างไรก็ตามระหว่างที่พักรักษาตัวอยู่นั้น เขาตัดสินใจไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา และลุกขึ้นมาฝึกยิงปืนด้วยมือข้างซ้ายที่ไม่เคยใช้งานมาก่อน ก่อนจะกลับมาปรากฎตัวในการแข่งขันยิงปืนระดับชาติอีกครั้ง

ซึ่งหลายคนในงานพอได้เห็นเขาต่างก็ออกอาการตกใจ พร้อมกับเข้ามาแสดงความเสียใจกับเขาที่สูญเสียมือข้างที่ถนัดไป แล้วก็ถามด้วยความสงสัยว่า "นี่นายเข้ามารับชมการแข่งขันหรือ?"

"ผมมาที่นี่เพื่อลงแข่งขันครับ"

ตอกาชส์ ตอบกลับ พร้อมกับลงแข่งขันยิงปืนด้วยมือข้างซ้าย และทำให้ผู้คนในสนามช็อกไปตามๆ กัน เพราะเขาทำผลงานได้ยอดเยี่ยมไม่ต่างจากเดิมแม้แต่น้อย จน ทีมชาติฮังการี ต้องดึงตัวเขากลับไปร่วมทีมอีกครั้ง

ทว่าเส้นทางสู่ฝันของเขาก็ยังมีขวากหนามวางอยู่ เพราะการแข่งขัน โอลิมปิก 1940 และ 1944 ที่ ตอกาชส์ เฝ้ารอมาโดยตลอด กลับถูกยกเลิก เนื่องจากภาวะสงครามโลกครั้งที่ 2 กำลังปะทุขึ้นอย่างดุเดือด

แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ ตอกาชส์ ถอดใจแต่อย่างใด เพราะนับตั้งแต่เอาชนะโชคชะตาด้วยการฝืนยิงปืนด้วยมือซ้าย ก็ไม่มีอะไรจะมาหยุดเขาได้อีกต่อไป

ในปี ค.ศ. 1948 โอลิมปิก กลับมาจัดการแข่งขันอีกครั้งในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ จริงอยู่ที่ ตอกาชส์ ได้เข้าร่วมแข่งขันดั่งใจหวัง แต่หลายคนก็มองว่าด้วยอายุ 38 ปี เขาแก่เกินจะมีพิษสงไปสู้คนอื่นๆ แล้ว

อย่างไรก็ตาม ตอกาชส์ พิสูจน์ให้เห็นว่าคนเหล่านั้นคิดผิด เขาผงาดคว้าเหรียญทองในการแข่งขันยิงปืนสั้น 25 เมตรได้ 2 สมัยติดต่อกัน ทั้งใน โอลิมปิก 1948 ที่ลอนดอน และ 1952 ที่เฮลซิงกิ

ถึงแม้ใน โอลิมปิก 1956 ที่เมลเบิร์น เขาจะจบอันดับที่ 8 และไม่สามารถคว้าเหรียญรางวัลมาครองใด แต่การก้าวขึ้นไปสู่จุดสูงสุดในมหกรรมกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกถึง 2 ครั้งก็เกินกว่าจะหาถ้อยคำมาอธิบายแล้ว

เรื่องราวที่เกิดขึ้นของ ตอกาชส์ คือหนึ่งในแรงบันดาลใจที่ทำให้การแข่งขันกีฬาคนพิการอย่าง พาราลิมปิก ถือกำเนิดขึ้นในภายหลัง และสุดท้ายเขาก็ได้ถูกขนานนามจากวงการกีฬาทั่วโลกว่า "วีรบุรุษโอลิมปิก"