กัญจน์
ปิดฉากลงไปเรียบร้อยแล้ว สำหรับ การแข่งขันกรีฑาผู้สูงอายุชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย ครั้งที่ 22 (22nd ASIA MASTER ATHLETICS CHAMPION SHIP) ซึ่งชิงชัย ไปเมื่อวันที่ 7-12 พฤศจิกายน 2566 ที่เมืองคลาร์ก ประเทศฟิลิปปินส์
ในครั้งนี้ สมาคมกรีฑาผู้สูงอายุไทยได้รับการรับรองจากการกีฬาแห่งประเทศไทย ส่งนักกีฬาไปเข้าร่วมในนาม นักกีฬาทีมชาติไทยผู้สูงอายุ เป็นครั้งแรก ทั้งหมด 52 คน
ก่อนเดินทางไป สมาคมคัดเลือกนักกีฬาร่วมแข่งขันจาก 3 กลุ่ม กลุ่มแรก เป็นแชมป์เก่าและทำลายสถิติประเทศไทย กลุ่มนี้สมาคมออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด กลุ่มต่อมา พิจารณาจากสถิติ ซึ่งสมาคมฯ และนักกีฬาออกค่าใช้จ่ายคนละครึ่ง และกลุ่มสุดท้าย เป็นนักกีฬาที่สมัครไปแข่งขันเองออกค่าใช้จ่ายเอง
โดยนักกรีฑาสูงอายุไทยทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม
ช่วยกันคว้ามาได้ทั้งหมด 29 เหรียญทอง 22 เหรียญเงิน 16 เหรียญทองแดง จบอันดับ 6 ของตารางเหรียญรวม จากที่มีชาติเข้าร่วม 22 ประเทศ
ส่วนตำแหน่งเจ้าเหรียญทอง ตกเป็นของอินเดีย ทำไปได้ 70 เหรียญทอง 63 เหรียญเงิน 82 เหรียญทองแดง อันดับ 2 ญี่ปุ่น 58 เหรียญทอง 25 เหรียญเงิน 18 เหรียญทองแดง อันดับ 3 ฟิลิปปินส์ 42 เหรียญทอง 41 เหรียญเงิน 35 เหรียญทองแดง
อันดับ 4 จีน 40 เหรียญทอง 32 เหรียญเงิน 26 เหรียญทองแดง อันดับ 5 มาเลเซีย 29 เหรียญทอง 41 เหรียญเงิน 29 เหรียญทองแดง อันดับ 7 คาซัคสถาน 27 เหรียญทอง 13 เหรียญเงิน 8 เหรียญทองแดง อันดับ 8 ศรีลังกา 25 เหรียญทอง 34 เหรียญเงิน 25 เหรียญทองแดง อันดับ 9 อิหร่าน 22 เหรียญทอง 19 เหรียญเงิน 12 เหรียญทองแดง และอันดับ 10 มองโกเลีย 21 เหรียญทอง 24 เหรียญเงิน 31 เหรียญทองแดง
จากผลงานของทัพไทยในครั้งนี้ เป็น “ป้าปาน” สมสง่า บุญนอก ดีกรีแชมป์โลก 2023 วัย 69 ปี ที่ทำได้คนเดียวถึง 5 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน ขณะที่คุณตาสว่าง จันทร์พราหมณ์ วัย 103 ปี คว้ามาได้ 4 เหรียญทอง
ขณะที่คุณยายลักษณา พระลับรักษา วัย 84 ปี อายุมากที่สุดของหญิงไทยในครั้งนี้ ทำได้ 3 เหรียญทอง ด้านคุณลุงวิชิต บัวทอง วัย 65 ปี เก็บมา 3 เหรียญทอง และ “ป้าติ๋ม” ศิริพรรณ จันทร์พราหมณ์ วัย 71 ปี ลูกสาวคุณตาสว่าง หยิบมา 3 เหรียญทองเช่นกัน
“ป้าปาน” สมสง่า บุญนอก ที่คว้า 5 เหรียญทอง จากกระโดดไกล กระโดดสูง เขย่งก้าวกระโดด วิ่งผลัด 4 คูณ 100 เมตร วิ่งผลัด 4 คูณ 400 เมตร และ 1 เหรียญเงิน จากวิ่ง 100 เมตร กล่าวว่า พอใจผลงานที่ทำได้ในครั้งนี้ เพราะก่อนเดินทางมาเป็นไข้ และหกล้ม แต่ก็สู้เต็มที่ ส่วนเคล็ดลับการดูแลร่างกายไม่มีอะไรมาก ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอและทุกอย่างก็จะดีตามมาเอง
“อยากให้ผู้สูงอายุก้าวออกมาออกกำลังกาย อย่ากลัวว่าไม่ไหว เพราะถ้าออกกำลังกาย ก็จะดีต่อสุขภาพของเราเอง อย่าเอาความเป็นเลิศเป็นตัวตั้ง เน้นสุขภาพเป็นสำคัญก่อน เมื่อร่างกายแข็งแรง การจะก้าวเดินไปสู่ความเป็นเลิศ ก็จะมาเอง” ป้าปานกล่าว
ขณะที่ “ป้าติ๋ม” ศิริพรรณ จันทร์พราหมณ์ กล่าวแทน คุณตาสว่างที่ทำได้ 4 เหรียญทอง จากทุ่มน้ำหนัก พุ่งแหลน ขว้างจักร และวิ่ง 100 เมตร ว่า เคล็ดลับของคุณพ่อที่แข็งแรง เล่นกีฬาได้จนถึงตอนนี้ ก็ไม่มีอะไรมาก หมั่นออกกำลังกายจะเป็นเดินหรือวิ่ง เช้า หรือเย็น ก็ได้ แต่ต้องทำอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งดูแลเรื่องอาหารควบคู่กันไป ก็จะทำให้ทุกอย่างดีตามไปด้วย
นายวิวัฒน์ วิกรานตโนรส นายกสมาคมกรีฑาผู้สูงอายุไทย กล่าวว่า การแข่งขันครั้งนี้ถือว่าประสบความสำเร็จ เพราะนักกีฬาทำเหรียญทองได้เกินเป้า โดยก่อนเดินทางไปแข่งขัน ตั้งเป้าไว้เพียง 20 เหรียญทองเท่านั้น แต่ทุกคนทุ่มเทและตั้งใจกับการแข่งขันครั้งนี้มาก
ส่วนสมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทยฯ ยังได้ร่วมแสดงความยินดีกับผลงานของทัพนักกรีฑาผู้สูงอายุไทย ในครั้งนี้ด้วย โดยโพสต์ข้อความผ่านทางเพจอย่างเป็นทางการระบุว่า “สมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทยฯ ร่วมแสดงความยินดี สมาคมกรีฑาผู้สูงอายุไทย ทำผลงานคว้า 29 เหรียญทอง การแข่งขันกรีฑาผู้สูงอายุชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย”
นับว่าเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของนักกรีฑาผู้สูงอายุทีมชาติ ที่สร้างชื่อให้ประเทศไทยได้อีกครั้ง
ส่วนการแข่งขันกรีฑาผู้สูงอายุชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย ครั้งต่อไป ซึ่งเป็นครั้งที่ 23 จะจัดการชิงชัยที่เกาะชวา ประเทศอินโดนีเซีย ในอีก 2 ปีข้างหน้า
ผลงานของทัพไทยจะเป็นอย่างไร
ติดตามกันได้ต่อไป...
กัญจน์ ศิริวุฒิ เรื่อง