หน้าแรกแกลเลอรี่

ผลสอบทัพซีเกมส์ไทย ผ่านน้อย-ต้องปรับเยอะ

กัญจน์

21 พ.ค. 2566 04:15 น.

ปิดฉากลงไปแล้วสำหรับ มหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชาซึ่งเป็นอีกหนที่ผลงานโดยรวมของทัพไทยต้องพลาดหวัง

จบอันดับ 2 ทำได้ 108 เหรียญทอง 96 เหรียญเงิน 108 เหรียญทองแดง

ส่วนอันดับ 1 เป็นของเวียดนาม กวาดไป 136 เหรียญทอง 105 เหรียญเงิน 114 เหรียญทองแดง ยึดตำแหน่งนี้เป็นสมัยที่ 3 และ 2 สมัยติดต่อกัน

ขณะที่อันดับ 3 ต้องเรียกว่าอินโดนีเซีย คัมแบ็กกลับมาในรอบหลาย 10 ปี ทำไป 86 เหรียญทอง 81 เหรียญเงิน 109 เหรียญทองแดง

ด้านเจ้าภาพกัมพูชาที่ออกสตาร์ตได้ดีนำอยู่หลายวัน แต่สุดท้ายได้อันดับ 4 ยอดรวม 81 เหรียญทอง 74 เหรียญเงิน 126 เหรียญทองแดง

อันดับ 5 ฟิลิปปินส์ 58 เหรียญทอง 86 เหรียญเงิน 116 เหรียญทองแดง อันดับ 6 สิงคโปร์ 51

เหรียญทอง 42 เหรียญเงิน 64 เหรียญทองแดง อันดับ 7 มาเลเซีย 34 เหรียญทอง 45 เหรียญเงิน 97 เหรียญทองแดง

อันดับ 8 เมียนมา 21 เหรียญทอง 25 เหรียญเงิน 68 เหรียญทองแดง อันดับ 9 ลาว 6 เหรียญทอง 22 เหรียญเงิน 60 เหรียญทองแดง อันดับ 10 บรูไน 2 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน 6 เหรียญทองแดง และอันดับ 11 ติมอร์เลสเต 8 เหรียญทองแดง

ทั้งนี้ เมื่อแยกย่อยลงไป ใน 108 เหรียญทองที่นักกีฬาไทยทำได้ต่ำกว่าที่มีการประเมินในงาน “มีต เดอะ เพรส” แถลงความพร้อมและความคาดหวังกับสมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทย ซึ่งตั้งไว้ 112 เหรียญทอง

ชนิดกีฬาที่ทำได้มากกว่าเป้า มีกรีฑา 12 เหรียญทอง ทำได้ 16 เหรียญทอง คริกเกต 1 เหรียญทอง ทำได้ 3 เหรียญทอง เทควันโด 5 เหรียญทอง ทำได้ 7 เหรียญทอง มวยสากล 5 เหรียญทอง ทำได้ 9 เหรียญทอง ยูยิตสู 3 เหรียญทอง ทำได้ 6 เหรียญทอง

โววีนัม 3 เหรียญทอง ทำได้ 5 เหรียญทอง คาราเต้ 1 เหรียญทอง ทำได้ 2 เหรียญทอง เรือยาวมังกร 3 เหรียญทอง ทำได้ 4 เหรียญทอง เปตอง 4 เหรียญทอง ทำได้ 6 เหรียญทอง วินด์เซิร์ฟ 1 เหรียญทอง ทำได้ 2 เหรียญทอง

ชนิดกีฬาที่ทำได้ตามเป้า จักรยาน 2 เหรียญทอง ทำได้ 2 เหรียญทอง วูซู 1 เหรียญทอง ทำได้ 1 เหรียญทอง เซปักตะกร้อและชินลง 7 เหรียญทอง ทำได้ 7 เหรียญทอง ปันจักสีลัต 2 เหรียญทอง ทำได้ 2 เหรียญทอง มวยปล้ำ 1 เหรียญทอง ทำได้ 1 เหรียญทอง วอลเลย์บอล 2 เหรียญทอง ทำได้ 2 เหรียญทอง

เจ็ตสกี 4 เหรียญทอง ทำได้ 4 เหรียญทอง เทเบิลเทนนิส 2 เหรียญทอง ทำได้ 2 เหรียญทอง เทนนิส 2 เหรียญทอง ทำได้ 2 เหรียญทอง แบดมินตัน 2 เหรียญทอง ทำได้ 2 เหรียญทอง

กีฬาทางน้ำ (ว่ายน้ำ, กระโดดน้ำ, โปโลน้ำ) 5 เหรียญทอง ทำได้ 5 เหรียญทอง ยกน้ำหนัก 2 เหรียญทอง ทำได้ 2 เหรียญทอง ฟินสวิมมิ่ง 2 เหรียญทอง ทำได้ 2 เหรียญทอง แดนซ์สปอร์ต 1 เหรียญเงิน ทำได้ 1 เหรียญเงิน

ชนิดกีฬาที่ทำได้ต่ำกว่าเป้า ยูโด 3 เหรียญทอง ทำได้ 2 เหรียญทอง บาสเกตบอล 2 เหรียญทอง ทำได้ 2 เหรียญทองแดง กอล์ฟ 4 เหรียญทอง ทำได้ 2 เหรียญทอง หมากรุกสากล 5 เหรียญทอง ทำได้ 4 เหรียญทอง เรือใบ 3 เหรียญทอง ทำได้ 2 เหรียญทอง บิลเลียดและสนุ้กเกอร์ 2 เหรียญทอง ทำได้ 1 เหรียญทอง

อีสปอร์ต 2 เหรียญทอง ทำได้ 2 เหรียญทองแดง ซอฟต์เทนนิส 2 เหรียญทอง ทำได้ 2 เหรียญเงิน คิกบ็อกซิ่ง 7 เหรียญทอง ทำได้ 3 เหรียญเงิน ฟันดาบ 2 เหรียญทอง ทำได้ 1 เหรียญทอง

ฟุตบอล 2 เหรียญทอง ทำได้ 1 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดง ฮอกกี้ 2 เหรียญทอง ทำได้ 1 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน ฟลอร์บอล 2 เหรียญทอง ทำได้ 1 เหรียญทอง ยิมนาสติก 1 เหรียญทอง ทำได้ 6 เหรียญเงิน ไตรกีฬา 1 เหรียญทอง ทำได้ 1 เหรียญเงิน

อย่างไรก็ตาม งานกำกับดูแลและติดตามประเมินผลกีฬาเป็นเลิศ ฝ่ายกีฬาเป็นเลิศ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ได้ลงลึกในส่วนของกีฬาสากลที่มีแข่งขันในกีฬาเอเชียนเกมส์ และโอลิมปิกเกมส์

ถือว่าดีหน่อยที่ทัพไทยทำได้ดี เป็นหมายเลข 1 ในส่วนนี้ ทำไปได้ทั้งหมด 54 เหรียญทอง เอาชนะ เวียดนามที่ได้ 52 เหรียญทอง ไป 2 เหรียญทอง

อันดับ 3 อินโดนีเซีย 35 เหรียญทอง อันดับ 4 สิงคโปร์ 32 เหรียญทอง อันดับ 5 มาเลเซีย 21 เหรียญทอง อันดับ 6 ฟิลิปปินส์ 20 เหรียญทอง อันดับ 7 กัมพูชา 10 เหรียญทอง อันดับ 8 เมียนมา 1 เหรียญทอง อันดับ 9 บรูไน 1 เหรียญทอง ส่วน ลาวและติมอร์เลสเตอร์ไม่ได้เหรียญทอง

ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท. กล่าวว่า จากผลงานของทัพนักกีฬาไทยในภาพรวมที่จบอันดับ 2 ตารางเหรียญรวมในซีเกมส์ครั้งนี้ ถือว่าต่ำกว่าเป้าหมาย แต่ในส่วนของกีฬาสากล ถือว่าเป็นไปตามที่หวัง ทำได้ดี เช่นเดียวกับอีกหลายกีฬาที่ดีกว่าและทำได้ตามเป้า

จำนวนเหรียญรวมที่พลาดไปต้องมองหาว่ามีปัจจัยอะไรที่ทำให้ไม่สามารถเอาชนะเวียดนามได้ พิจารณาแล้วมีหลายเรื่อง เช่น ชนิดกีฬาพื้นบ้านที่เจ้าภาพเลือกจัด โววีนัมที่แข่งมากถึง 30 เหรียญทอง กุน โบกาตอร์กับกุนขะแมร์ ไทยก็ไม่ส่งแข่ง ทั้งๆ ที่มีเหรียญจำนวนมาก

บางอีเวนต์ของกีฬาสากล เจ้าภาพก็ไม่อนุญาตให้ชาติที่แข็งแกร่งกว่าร่วมแข่งขัน เพราะอยากจะกระจายโอกาสลุ้นเหรียญรางวัลให้ทั่วถึง

นอกจากนั้นการโอนสัญชาติของนักกีฬาเจ้าภาพก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เหรียญทองที่ไทยเคยเป็นแชมป์เก่าต้องหลุดมือไป

“กกท. จะได้พิจารณาและประเมินผลงานอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ซึ่งจากผลที่ออกมาโดยรวม ทัพนักกีฬาไทยยังต้องปรับปรุงในหลายๆ ด้านอีกเยอะ เพื่อทำให้ดีกว่านี้ในเกมการแข่งขันรายการต่อๆไป” ดร.ก้องศักดกล่าว

ทั้งหมดนี้เป็นบทสรุปและผลสอบของทัพไทยใน “คัมโบเดีย 2023” ซึ่งแน่นอนว่า นักกีฬา เจ้าหน้าที่ที่เข้าร่วมการแข่งขันและพลาดเป้าไปคงได้เรียนรู้ เก็บเกี่ยวประสบการณ์กันมาได้ไม่มากก็น้อย เพื่อนำไปปรับแก้ ปรับใช้ในอนาคต

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ช้างศึกจูเนียร์” ทีมแข้งหนุ่มไทยและทีมสตาฟฟ์ คงเป็นบทเรียนราคาแพง ที่ต้องจำไปจนวันตาย

จะให้ฟอร์มดีขนาดไหน แต่หากควบคุมอารมณ์ตัวเองกันไม่อยู่

ก็มีแต่พังกับพัง...

กัญจน์ ศิริวุฒิ เรื่อง