แจ๋วริมจอ
เป็นเรื่องอีกแล้ว “กฎมัสต์แฮฟ” กับซีเกมส์ ครั้งที่ 32 “แคมโบเดีย 2023” ที่ประเทศกัมพูชา ระหว่าง 5-17 พฤษภาคมนี้
เนื่องจาก กสทช. หรือ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เตือน กกท. หรือ การกีฬาแห่งประเทศไทย ห้ามผูกขาดตามกฎมัสต์แฮฟ
ต้องยอมรับว่า “เจ้าภาพ” ซีเกมส์กัมพูชา เรียกเก็บค่าลิขสิทธิ์กับไทยไว้สูงถึง 27.6 ล้านบาท มากที่สุดในประเทศอาเซียน ซึ่ง กกท.ก็กำลังไปเจรจาเพื่อให้กัมพูชาลดราคาลงมาบ้าง
แต่ไม่ว่าผลการเจรจาจะออกมาเป็นตัวเลขเท่าไหร่ก็ตาม ปรากฏว่า กกท.เคยทำหนังสือปรึกษากรณีนี้ไว้ก่อนหน้ากับ กสทช.แล้ว
เนื่องจากการถ่ายทอดการแข่งขันกีฬาดันไปอยู่ในกฎการรับชมทั่วถึงเท่าเทียม หรือ “กฎมัสต์แฮฟ” อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้!!
แม้เรื่องนี้บอร์ด กสทช.จะยังไม่มีความเห็นอย่างเป็นทางการ แต่ก็ได้มีคำตอบจากคณะทำงานระดับเจ้าหน้าที่ กสทช.แจ้งกับ กกท.ไว้แล้ว สรุปได้คร่าวๆว่า
การถ่ายทอดกีฬาซีเกมส์ครั้งนี้ อยู่ในกฎมัสต์แฮฟ คนไทยต้องได้รับชมการแข่งขัน ไม่ว่า กกท.จะให้เอกชนรายใดเข้ามาสนับสนุนจ่ายค่าทำธรรมเนียมการถ่ายทอดสดก็ตาม
นั่นคือเอกชนรายที่สนับสนุน ก็ไม่สามารถเป็นผู้ถ่ายทอดการแข่งขันแต่เพียงรายเดียว เหมือนเช่นกรณีที่เคยเกิดขึ้นในการถ่ายทอดบอลโลก 2022 ที่ผ่านมา
จะต้องให้สิทธิ์กับผู้ประกอบการโทรทัศน์ และแพลตฟอร์มอื่นตามกฎมัสต์แฮฟ!!
สำหรับปมปัญหานี้ กกท.ไม่ได้ขอการสนับสนุนงบประมาณในการซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดการแข่งขันซีเกมส์ที่กัมพูชาจาก กสทช.
ดังนั้น ไม่ว่า กกท.จะได้ข้อสรุปค่าธรรมเนียมถ่ายทอดสดเท่าใด กกท.และคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยฯ จะต้องหาผู้สนับสนุนค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดเอง
สรุปคือ...ไม่ว่าเจ้าไหนจะเป็นคนจ่ายเงินค่าลิขสิทธิ์ แต่เจ้านั้นห้ามผูกขาด สุดท้ายไม่พ้นต้องควักเงินภาษีของประชาชนไปซื้อตามเคย
มันก็ตลกดีสำหรับประเทศเรามีกับกฎที่ล้าสมัยนี้!!
‘‘แจ๋วริมจอ’’
jaewrimjor@gmail.com