ฟ้าคำราม
เทควันโดและคาราเต้ ความเหมือนที่แตกต่าง หลายๆคนอาจเคยสงสัยว่า กีฬาเทควันโดและคาราเต้ ซึ่งได้รับการยอมรับและถูกบรรจุในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกมาโดยตลอดนั้น แท้จริงแล้ว 2 ชนิดกีฬานี้มีความเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร
เพื่อเป็นการไขข้อสงสัยนี้ ทางสมาคมฯจึงมีคำตอบมาให้แล้ว ไปดูกันว่ากีฬาที่มีความคล้ายคลึงกันดั่งฝาแฝด จะมีจุดไหนที่เป็นข้อเหมือนและข้อต่างบ้าง
เทควันโด
ได้บรรจุให้แข่งขันในกีฬาโอลิมปิกตั้งแต่ปี 2000 เทควันโดเป็นศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวโดยไม่ใช้อาวุธของชาวเกาหลี คำว่า “เท” แปลว่า เท้าหรือการโจมตีด้วยเท้า “ควัน” แปลว่า มือหรือการโจมตีด้วยมือ และ “โด” แปลว่า วิถีหรือสติปัญญา
ดังนั้นเทควันโดโดยทั่วไป หมายถึงวิถีแห่งการใช้มือและเท้าในการต่อสู้และป้องกันตัว หรือการใช้มือและเท้าในการต่อสู้และป้องกันตัวอย่างมีสติ
เทควันโดเป็นศิลปะการป้องกันตัวที่โดดเด่นด้วยเทคนิคการชกและการเตะ โดยเน้นที่การเตะที่ศีรษะ การเตะลูกหมุนกระโดด และเทคนิคการเตะเร็ว เป็นศิลปะการป้องกันตัวที่โจมตีหรือป้องกันด้วยมือและเท้าโดยไม่มีอาวุธใดๆ จุดประสงค์ของการฝึกให้ความสำคัญทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ
คาราเต้/คาราเต้โด
ได้บรรจุให้แข่งขันในกีฬาโอลิมปิกตั้งแต่ปี 2020 เป็นกีฬาของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีต้นกำเนิดจากเกาะโอกินาวา คาราเต้คือ ศิลปะการต่อสู้ด้วยมือเปล่า ตามชื่อ Karate : Kara แปลว่า ว่างเปล่า Te แปลว่ามือ อาวุธที่ใช้จะเป็นการต่อย เตะ ฟัน แทง กระแทก รวมถึงการทุ่ม
โดยรูปแบบเฉพาะของคาราเต้คือการจู่โจม ป้องกันที่รวดเร็วแม่นยำ
ผู้ฝึกคาราเต้จะฝึกการต่อสู้ควบคู่กับการฝึกจิตใจและคุณธรรม หรือเราเรียกว่า Karatedo คาราเต้โด ซึ่ง “โด” หมายถึงวิถีทางของผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้คาราเต้
รู้ไว้ใช่ว่า...หลายชนิดในโลกอาจมีต้นกำเนิดมาจากที่เดียวกัน ผ่านการพัฒนาต่อยอดของผู้เล่นจากรุ่นสู่รุ่น จนได้เป็นเวอร์ชันพร้อมใช้งานได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ดังนั้น ไม่ว่ากีฬาชนิดไหนๆ หากผู้เล่นมีความสนใจ มีวินัยหมั่นฝึกฝน ก็จะเกิดผลลัพธ์ตามมาอย่างแน่นอน
รวมถึงเรื่องของการมีน้ำใจนักกีฬาด้วยเช่นกัน
OOOOOOOOO
เพจ สมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย Taekwondo Association of Thailand ได้โพสต์เรื่อง ความเหมือนที่แตกต่างของ เทควันโด และคาราเต้เอาไว้
ถือว่าน่าสนใจไม่น้อย เลยนำมาแชร์ให้แฟนๆ กราวกีฬาไทยรัฐได้รับทราบอีกทาง
แน่นอนว่า ข้อที่ทำให้แตกและต่างกันไป ก็เป็นชาติต้นกำเนิดของแต่ละชนิดกีฬา
รวมไปถึงการออกอาวุธต่อสู้ในบางส่วน
ทว่าเรื่องที่เหมือนกัน 2 กีฬานี้ เป็นศิลปะการต่อสู้ที่น่าทึ่ง ผ่านกาลเวลาที่ยาวนานกว่าจะมีวันนี้ได้ มีประวัติศาสตร์เป็นของตัวเอง
ทั่วโลกให้ความเคารพและยอมรับ
อย่างไม่มีข้อสงสัย...
ฟ้าคำราม