ไทยรัฐออนไลน์
หลังจากที่นักมวยไทยประสบความสำเร็จคว้า 2 ทอง 1 เงิน และครองความนิยมสูงสุดใน "เวิลด์เกมส์ 2022" ที่เมืองเบอร์มิงแฮม รัฐอลาบามา ประเทศสหรัฐอเมริกา "ดร.สุปราณี คุปตาสา" ผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เผย กกท.รับนโยบายจากรัฐบาล ขับเคลื่อนมวยไทยเป็น Soft Power และมุ่งสู่โอลิมปิกเกมส์
วันที่ 20 ก.ค. 65 การแข่งขันมหกรรมกีฬา "เวิลด์ เกมส์ 2022" ที่ เมืองเบอร์มิงแฮม รัฐอลาบามา ประเทศสหรัฐอเมริกา จัดการแข่งขันวันที่ 7-17 กรกฎาคม 2565 โดยกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ได้ให้การสนับสนุนการเข้าร่วมการแข่งขันของนักกีฬา และสนับสนุนการถ่ายทอดสด การทำประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างกระแสผ่าน การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เข้าร่วมแข่งขันใน "เวิลด์เกมส์ 2022" จำนวน 9 ชนิดกีฬา ได้แก่ กีฬาทางอากาศ, ยูยิตสู, เปตอง, ซูโม่, บิลเลียดสปอร์ต, มวยไทย, วูซู, เอ็กซ์ตรีม และ ฟลอร์บอล รวมนักกีฬาทั้งสิ้น 32 คน โดยทัพนักกีฬาไทยทำผลงานได้ 4 เหรียญทอง 3 เหรียญเงิน 2 เหรียญทองแดง ได้อันดับที่ 18 ซึ่งเป็นอันดับ 3 ของเอเชีย และอันดับ 1 อาเซียน
สำหรับกีฬามวยไทย คว้า 2 เหรียญทอง จาก อนึ่ง คัฒมารศรี (รุ่น 67 กก.ชาย), ธเนศ นิตุธร (รุ่น 71 กก.ชาย) และ 1 เหรียญเงิน จาก วีระศักดิ์ ทาระขจัด (รุ่น 63.5 กก.ชาย) นับเป็นความสำเร็จต่อเนื่อง หลังจากที่ใน “เวิลด์เกมส์ 2017” ที่ประเทศโปแลนด์ ได้มีการบรรจุกีฬามวยไทยเป็นครั้งแรก นักชกไทยก็คว้ามาได้ 2 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน 1 เหรียญ ทองแดง
ล่าสุด ดร.สุปราณี คุปตาสา ผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ เปิดเผยว่า "มวยไทยได้รับความนิยมอย่างมากในการแข่งขัน “เวิลด์เกมส์ 2022” โดยบัตรเข้าชมการแข่งขันถูกจำหน่ายหมดอย่างรวดเร็ว และมีผู้ชมเต็มความจุของสนาม โดยสหพันธ์มวยไทยนานาชาติ (อิฟม่า) ผู้ดูแลการจัดมวยไทยดำเนินการได้อย่างมีมาตรฐาน วงปี่พาทย์ที่บรรเลงตลอดการแข่งขันก็เป็นการเล่นดนตรีสด มีการไหว้ครู ก้มกราบแสดงความเคารพ ความมีน้ำใจเป็นนักกีฬา ซึ่งเป็นการส่งเสริมและเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมไทย"
ทั้งนี้ คณะรัฐบาล โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มอบนโยบายให้ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) พัฒนาและขับเคลื่อนมวยไทยเพื่อเพิ่มมูลค่าทางวัฒนธรรมไทย เพราะมวยไทยถือว่าเป็นอีกหนึ่ง Soft Power ที่สำคัญของประเทศไทย โดย ดร.สุปราณี คุปตาสา ได้กล่าวว่า การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) และกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ น้อมรับนโยบายสำคัญนี้มาปฏิบัติ ซึ่งถือเป็นความภาคภูมิใจของคนไทย และได้แสดงให้นานาชาติเห็นว่ามวยไทยมีศักยภาพที่จะก้าวไปสู่ชนิดกีฬาที่บรรจุแข่งขันในกีฬาโอลิมปิกเกมส์ได้ในอนาคต.