ไทยรัฐออนไลน์
นักกีฬาและผู้เชี่ยวชาญชาวอาหรับ ชี้การแบน "รัสเซีย" ออกจากกีฬา เนื่องจากสงคราม คือความ 2 มาตรฐานของโลกตะวันตก
วันที่ 25 มี.ค. 65 หลังจาก วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ส่งกองกำลังทหารบุกยูเครน ตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทำให้คนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ “ปูติน” ได้รับผลกระทบกันทั่วหน้า ไม่เว้นแม่แต่นักกีฬาชาวรัสเซีย ที่ถูกหลายประเทศคว่ำบาตร และไม่ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมการแข่งขันหลายรายการ
ล่าสุด อาลี ฟารัก แชมป์สควอชชาวอียิปต์กล่าวว่า "ไม่มีใครควรมีความสุขกับสิ่งที่เกิดขึ้นในยูเครน แต่เรื่องแบบนี้ชาวปาเลสไตน์อยู่ร่วมกับมันมาตลอด 74 ปีที่ผ่านมา แต่ผมเดาว่าเพราะมันไม่เหมาะกับการประโคมข่าวของสื่อตะวันตก เราจึงไม่สามารถพูดถึงเรื่องนี้ได้”
“หลังจากรัสเซียบุกยูเครน องค์กรฟุตบอลอย่าง ฟีฟ่า และ ยูฟ่า สั่งแบนรัสเซียออกจากการแข่งขันระดับนานาชาติทั้งหมดอย่างรวดเร็ว ฟอร์มูลาวัน ระงับสัญญากับรัสเซียจากการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันในโซชิ การปฏิบัติตามคำสั่งห้ามดังกล่าวถือเป็นการสนับสนุนยูเครนอย่างเป็นทางการ”
“ธงประจำชาติสีน้ำเงินและสีเหลืองถูกแสดงในการแข่งขันพรีเมียร์ลีกอังกฤษทุกนัดในสุดสัปดาห์แรกของเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เพื่อแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับยูเครน นับว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่น่าทึ่งสำหรับประวัติศาสตร์กีฬาที่มาช้านาน ว่าด้วยเรื่องการแยกการเมืองออกจากกีฬา”
นอกจากนี้ เจมส์ ดอร์ซีย์ ผู้อาวุโสจากสถาบันตะวันออกกลางของมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ กล่าวว่า "แล้วเยเมนล่ะ ในตอนนั้นสมาคมกีฬาระหว่างประเทศ รวมถึง ฟีฟ่า ได้สั่งห้ามการแสดงออกทางการเมืองหรือศาสนาใดๆ ในสนามกีฬา แต่สิ่งที่พวกเขาทำตอนนี้คือการให้ความสำคัญกับ ยูเครน แล้วพวกคุณเคยเห็น ปาเลสไตน์, เยเมน, ซีเรีย และ ลิเบีย อยู่ในสายตาบ้างไหม”
“ในระหว่างการปะทะกันของอิสราเอลและกลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา เมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว สมาคมฟุตบอลของอังกฤษ กล่าวว่าผู้เล่นจะไม่ถูกลงโทษสำหรับการยกธงปาเลสไตน์หรืออิสราเอล แต่ในเดือนพฤศจิกายน ฟีฟ่า ปรับสมาคมฟุตบอลสกอตแลนด์ 10,000 ฟรังก์สวิส (3.5แสนบาท) หลังจากที่แฟนบอลร้องเพลงชาติอิสราเอลและยกธงปาเลสไตน์ระหว่างการแข่งขันในเดือนตุลาคม เราจึงอยากเรียกร้องให้ ฟีฟ่า มุ่งมั่นที่จะใช้มาตรฐานอย่างเท่าเทียมกัน”
“ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่กรุงโตเกียว ฟาธี โนรีน นักยูโดชาวแอลจีเรีย ปฏิเสธที่จะแข่งกับอิสราเอลด้วยความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับชาวปาเลสไตน์ ทำให้เขาและโค้ชของเขาถูกแบน 10 ปี แต่ดูสิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้สิ”
“เมื่อสงครามปะทุขึ้นในประเทศตะวันตก ทุกคนยืนหยัดกับมัน แต่เมื่อผู้คนเสียชีวิตในปาเลสไตน์ เราไม่ได้รับอนุญาตให้แสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน และถูกกล่าวหาว่าเอาการเมืองมารวมกับกีฬา มันทำให้เรารู้สึกว่าชีวิตของเราถูกกว่าชีวิตของคนในตะวันตก"