ไทยรัฐออนไลน์
ศาลกีฬาโลกตัดสินคดีนักกีฬาสเกตน้ำแข็งสาววัย 15 ปีใช้สารกระตุ้นแล้ว แต่ยังรอสรุปกรณีเหรียญทองโอลิมปิกฤดูหนาว 2022 ของรัสเซีย
วันที่ 14 ก.พ. 65 ศาลอนุญาโตตุลาการกีฬา (ซีเอเอส) ตัดสินให้ คามิลา วาเลียวา นักกีฬาสเกตน้ำแข็งสาววัย 15 ปี ของทีมคณะกรรมการโอลิมปิกรัสเซีย (อาร์โอซี) ยังสามารถแข่งขันต่อไปได้ในกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว 2022 ที่กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน แม้จะมีผลยืนยันว่าเธอตรวจสารกระตุ้นไม่ผ่าน ซึ่งออกมาหลังจบการแข่งขันสเกตน้ำแข็ง ประเภททีม โดยที่ อาร์โอซี ทำคะแนนเป็นอันดับ 1 แต่ยังไม่ได้รับเหรียญทอง
ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) ได้เลื่อนพิธีมอบเหรียญรางวัลสเกตน้ำแข็ง ประเภททีม ในโอลิมปิกฤดูหนาว 2022 แบบไม่มีกำหนด ทั้งที่แข่งจบตั้งแต่วันจันทร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ ซึ่ง คณะกรรมการโอลิมปิกรัสเซีย คว้าชัยเหนือ สหรัฐอเมริกา อันดับ 2 และญี่ปุ่น อันดับ 3
สาเหตุเนื่องจาก คามิลา วาเลียวา นักกีฬาสาวดาวเด่นของทีมอาร์โอซี ถูกตรวจพบว่ามีการใช้ยา "ไตรมีตาซิดีน" จากตัวอย่างปัสสาวะในการแข่งขันชิงแชมป์รัสเซีย เมื่อวันที่ 25 ธันวาคมปีที่แล้ว ซึ่งยาตัวนี้ช่วยในการรักษาอาการเจ็บหน้าอก แต่อยู่ในบัญชีสารต้องห้ามของ องค์กรต่อต้านการใช้สารกระตุ้นโลก (วาดา) มาตั้งแต่เดือนมกราคม ปี 2014 เพราะมีผลต่อการเพิ่มประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในกีฬาที่ต้องใช้ความอดทนของร่างกาย
เรื่องที่ คามิลา วาเลียวา ใช้สารต้องห้าม ถูกเปิดเผยก่อนการมอบเหรียญรางวัลในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ทำให้ ไอโอซี ที่ได้รับรายงานเรื่องนี้ ตัดสินใจชะลอพิธีมอบเหรียญพร้อมกับลงโทษแบนชั่วคราว เนื่องจากเธอเป็นนักกีฬาสเกตน้ำแข็งหญิงคนแรกในปักกิ่งเกมส์ 2022 ที่ใช้ท่ากระโดดหมุนตัวกลางอากาศ 4 ตลบได้สำเร็จ จนทำได้ถึง 178.92 คะแนน
ด้าน องค์กรต่อต้านการใช้สารกระตุ้นของรัสเซีย ได้ขออุทธรณ์ให้พักโทษแบนของเธอ เพื่อช่วยทีมอาร์โอซีลุ้นเหรียญทองต่อในรายการที่เหลือ แต่ ไอโอซี ก็ยื่นคัดค้านไปยังศาลอนุญาโตตุลาการกีฬา (ซีเอเอส) หรือศาลกีฬาโลก เพื่อตัดสินกรณีนี้โดยเร่งด่วน และให้เกิดความยุติธรรมกับชาติอื่นๆ ขณะที่ สำนักงานตรวจสารต้องห้ามระหว่างประเทศ (ไอทีเอ - International Testing Agency) ได้ยืนยันว่าเธอมีผลตรวจโด๊ปเป็นบวกในวันที่ 11 กุมภาพันธ์
แต่ล่าสุด ศาลกีฬาโลก ยืนยันแล้วว่า คามิเลีย วาเลียวา ยังสามารถแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาว 2022 ต่อไปได้ในประเภทบุคคลหญิง ซึ่งจะเริ่มชิงชัยกันในวันอังคารที่ 15 กุมภาพันธ์นี้ โดยที่นักกีฬาสาววัย 15 ปีรายนี้เป็นตัวเต็งที่จะลุ้นเหรียญทองด้วย
ซีเอเอส แถลงว่า "นักกีฬาควรได้รับประโยชน์จากสถานการณ์พิเศษนี้ เธอยังมีอายุต่ำกว่า 16 ปี และเป็นผู้ได้รับการคุ้มครองภายใต้ประมวลกฎหมายของ องค์กรต่อต้านการใช้สารกระตุ้นโลก (วาดา)" ซึ่งถือเป็นการปกป้องสิทธิ์ของผู้เยาว์ หลังเกิดสภาวะทำร้ายจิตใจจากปมปัญหาดังกล่าว โดย วาดา กล่าวเพิ่มเติมว่าจะมีการสืบสวนบรรดาผู้ติดตามของ คามิลา วาเลียวา ทั้งสตาฟฟ์โค้ช, แพทย์ และผู้ใหญ่คนอื่นๆ ที่อยู่รอบตัวเธอ
ทั้งนี้ คามิลา วาเลียวา ยังต้องรอการพิสูจน์ข้อเท็จจริงว่าสาเหตุที่ตรวจสารกระตุ้นไม่ผ่านเกิดจากอะไร ทำให้เธอยังมีโอกาสที่จะถูกริบเหรียญทองโอลิมปิกฤดูหนาว 2022 รวมถึงเหรียญที่เธอจะได้รับจากการแข่งขันประเภทบุคคลซึ่งจะเริ่มชิงชัยในวันที่ 15 กุมภาพันธ์นี้ด้วย
หาก ทีมคณะกรรมการโอลิมปิกรัสเซีย (อาร์โอซี) ถูกตัดสินว่ามีความผิดจริงจากการใช้สารต้องห้ามของ คามิลา วาเลียวา ก็อาจมีการเปลี่ยนแปลงการจัดอันดับ โดย สหรัฐอเมริกา อาจขยับจากอันดับ 2 ขึ้นมาคว้าเหรียญทองแทน เช่นเดียวกับญี่ปุ่น ที่จะขยับขึ้นมารับเหรียญเงิน และแคนาดา อันดับ 4 ก็จะได้เหรียญทองแดงแทน
อนึ่ง ปี 2019 รัสเซีย ถูกองค์กรต่อต้านการใช้สารกระตุ้นโลก (วาดา) ลงโทษแบนเป็นเวลา 2 ปี เนื่องจากทางการมีส่วนรู้เห็นเป็นใจกับการบิดเบือนผลการตรวจสารต้องห้าม
ทำให้นักกีฬารัสเซียไม่สามารถใช้ธงชาติในการแข่งขันระดับนานาชาติได้ เช่น โอลิมปิกเกมส์, พาราลิมปิกเกมส์, การแข่งขันชิงแชมป์โลก ในระหว่างวันที่ 17 ธันวาคม ปี 2020 ถึงวันที่ 17 ธันวาคม ปี 2022 ต้องลงแข่งภายใต้ชื่อและธงของ คณะกรรมการโอลิมปิกรัสเซีย (อาร์โอซี) แทน.