ไทยรัฐออนไลน์
สมาคมกีฬายิมนาสติกแห่งประเทศไทย จับนักกีฬาทีมชาติซ้อมบัลเลต์ 3 เดือนเต็ม เพื่อเป็นการต่อยอดสู่ท่าที่ยากกว่า ตอกย้ำหวังผลเลิศในการสู้ศึก 3 รายการใหญ่ ทั้งชิงแชมป์เอเชีย ซีเกมส์ และยูธโอลิมปิกเกมส์
จากการที่สมาคมกีฬายิมนาสติก ได้ทำการเก็บตัวฝึกซ้อมนักกีฬาทีมชาติทั้ง 3 ชนิด ประกอบด้วย ยิมนาสติกศิลป์ ยิมนาสติกลีลา และ แอโรบิกยิมนาสติก ที่ศูนย์ฝึกในซอยเพชรเกษม 81 อย่างต่อเนื่อง ในการเตรียมเข้าร่วมแข่งขันรายการนานาชาติ ได้แก่ ชิงแชมป์เอเชีย, ชิงแชมป์โลก และซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่ประเทศเวียดนาม ตามแผนงานการเตรียมนักกีฬาสู่ความเป็นเลิศของการกีฬาแห่งประเทศไทย
อุปนายกสมาคมกีฬายิมนาสติกแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ล่าสุด สมาคมฯ ได้จัดโครงการเรียนบัลเลต์ ให้กับนักกีฬายิมนาสติกลีลา และยิมนาสติกส์ศิลป์ทีมชาติไทย โดยครูผู้สอนมืออาชีพ ได้แก่ น.ส.สโรชินี สเวกฉิม อดีตนักกีฬายิมนาสติกลีลาทีมชาติไทย ที่จบหลักสูตรบัลเลต์จากต่างประเทศ มาเป็นครูสอนตลอด 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม–วันที่ 30 กันยายน 2564 ที่ศูนย์ฝึกยิมนาสติก ในซอยเพชรเกษม 81 ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อต้องการปูพื้นฐานการทรงตัว ให้กับนักกีฬายิมนาสติก ให้มีความแน่นและมั่นคงยิ่งขึ้น
ดร.กุสุมาลย์ ยอมรับว่า “วันนี้พื้นฐานนักกีฬายิมนาสติกยังไม่แน่น กีฬาบัลเลต์ทำให้การทรงตัวที่ดี ดังนั้น ยิมนาสติกจำเป็นต้องมีเทคนิคที่หนักแน่น ที่ผ่านมาการยืน การทรงตัวถือว่าเป็นจุดอ่อน จึงควรได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน ดังนั้นบรรดานักกีฬาทีมชาติชุดใหญ่ และทีมชาติชุดเยาวชน รวมถึงประเภทกรุ๊ปทุกคน จะต้องเรียนรู้จนครบ 3 เดือน เพื่อนำมาปฏิบัติใช้กับการฝึกซ้อม และนำไปสู่การแข่งขันที่มีประสิทธิภาพ หากใครขาดเรียนเพียงแค่วันเดียว ถือว่าขาดความรับผิดชอบ จะต้องถูกตัดออกจากการเรียนทันที”
ส่วนเป้าหมาย สมาคมฯ ได้เตรียมแผนระยะยาว เพื่อหวังมุ่งสู่ความเป็นเลิศในการแข่งขันชิงแชมป์เอเชีย ที่ประเทศไทย เป็นเจ้าภาพในปี 2565, การแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ประเทศไทย เป็นเจ้าภาพในปี 2568 ต้องคว้าเหรียญทองสถานเดียว และ การแข่งขันกีฬายูธโอลิมปิกเกมส์ ฤดูร้อน ครั้งที่ 5 ในปี 2569 ที่ประเทศเซเนกัล เพื่อเป็นแนวทางสู่ความสำเร็จ ก่อนที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพ ในปี 2573 ต่อไป