หน้าแรกแกลเลอรี่

ปันจักสีลัตจับมือค่าย “ศิษย์สองพี่น้อง” ดึง 4 นักมวยล่าทองซีเกมส์

ไทยรัฐออนไลน์

10 มิ.ย. 2564 17:30 น.

ปันจักสีลัตจับมือค่ายมวย "ศิษย์สองพี่น้อง" ได้ 4 นักมวยไทยรุ่นยักษ์ระดับพระกาฬทั้ง ซุปเปอร์เบนซ์, รุ่งราวี, ธงชัย และ สะท้านฟ้า รับใช้ชาติ ผันตัวเป็นนักกีฬาไปแข่งขันปันจักสีลัต ในมหกรรมกีฬาซีเกมส์ 2021 ที่เวียดนาม 

วันที่ 10 มิ.ย.64 ที่ค่ายมวยศิษย์สองพี่น้อง ย่านสวนหลวง ร.9 นายภาณุ อุทัยรัตน์ นายกสมาคมกีฬาปันจักสีลัตแห่งประเทศไทย พร้อมคณะ มีทั้ง ผศ.จงรัก เขี้ยวแก้ว เลขาธิการสมาคมฯ และ อ.นักรบ ทองแดง ประธานเทคนิคฯ เดินทางมาเยี่ยมค่ายมวย "ศิษย์สองพี่น้อง" โดยมี "มร.ทิม" นายทิมาธี ธรรมาชีวะ หัวหน้าคณะมวยไทย ให้การต้อนรับ

วัตถุประสงค์ของสมาคมปันจักสีลัต เพื่อเฟ้นหานักมวยไทยรุ่นใหญ่ มาเสริมทัพเป็นตัวแทนทีมชาติไทยไปแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ช่วงระหว่างวันที่ 21 พ.ย.-2 ธ.ค.64 ที่เวียดนามเป็นเจ้าภาพ

นายภาณุ นายกสมาคมฯ เผย กีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 กีฬาปันจักสีลัตมีการปรับเปลี่ยนกติกามาใหม่ ชนิดกีฬาต่อสู้มีการออกอาวุธเตะ ศอก เข่าลอยได้มากขึ้น ทำให้ใกล้เคียงกับวิชามวยไทย ที่สำคัญยังจัดแข่งขันรุ่นใหญ่ๆ เป็นหลัก ทางสมาคมฯ จึงเหตุความเหมาะสมตามคำแนะนำของ อ.ยงศักดิ์ ณ สงขลา กรรมการมวยผู้ทรงคุณวุฒิ ประสานมายังค่ายมวยศิษย์สองพี่น้อง ของมิสเตอร์ทิม ซึ่งมีนักมวยรุ่นใหญ่ และกระดูกมวยระดับแชม์มากมายถึง 4 คน ได้แก่ ซุปเปอร์เบนซ์ ว.แสงเทพ (อดีตแชมป์ WBC มวยไทย รุ่นเฮฟวี่เวต) จะลงแข่งในรุ่น 95 กก., ธงชัย ศิษย์สองพี่น้อง รุ่น 85 กก., รุ่งราวี ศิษย์สองพี่น้อง รุ่น 80 กก. และสะท้านฟ้า ศิษย์สองพี่น้อง (อดีตแชมป์มวยรอบ อีซูซุ) รุ่น 75 กก. เหมาะสมที่จะรับใช้ชาติ เพียงปรับสไตล์การชกตามกติกาของปันจักสีลัต เพื่อลงแข่งขันในซีเกมส์

พร้อมกันนี้ ยังจะใช้ค่ายมวยศิษย์สองพี่น้อง เป็นที่เก็บตัวนักกีฬาปันจักสีลัตระยะยาว เพื่อเตรียมแข่งขันซีเกมส์ โดยทางสมาคมฯ จะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายดูแลต่างๆ รวมทั้งเบี้ยเลี้ยงจาก กกท. ให้แก่ นักกีฬาวันละ 300 บาทต่อคน ซึ่งทางสมาคมฯ จะมอบเงินเบี้ยเลี้ยงให้ต่างหากอีกคนละ 1 หมื่นบาทต่อเดือน

ในส่วนการฝึกซ้อม จะมีการว่าจ้างโค้ชปันจักสีลัตชาวอินโดนีเซีย มวยช่วยเสริมกับโค้ชไทย และหากประสบความสำเร็จในซีเกมส์ ซึ่งทาง กกท. ตั้งงบไว้ เหรียญทอง 2 แสนบาท เหรียญเงิน 1 แสนบาท เหรียญทองแดง 5 หมื่นบาท นอกจากนั้นทางสมาคมฯ ยังจะมอบเงินรางวัลให้ต่างหากอีกด้วยเช่นกัน

นายกสมาคมปันจักสีลัตไทย กล่าวอีกว่า "ตอนนี้ทางสหพันธ์ปันจักสีลัตนานาชาติ ได้มีการปรับกติกากีฬาปันจักสีลัตให้เป็นสากลมากขึ้น มีกติกาที่ปรับเปลี่ยนมาเยอะ เช่นสามารถใช้ศอกได้ สมัยก่อนใช้ไม่ได้ เมื่อปรับมาแล้ว เพื่อให้กติกาเป็นสากลมากขึ้น คิดว่าถ้านักมวยมาเล่นปันจักสีลัต จะทำให้นักกีฬาปันจักสีลัตมีเพิ่มมากขึ้น ปัจจุบันตอนนี้ทั่วประเทศมีนักกีฬาปันจักสีลัตเพิ่มมากขึ้นแล้ว"

"ในการแข่งขันซีเกมส์ ปันจักสีลัตมีชิงชัยทั้งหมด 26 ทอง ลีลา 6 ทอง ต่อสู้ 10 ทอง ผู้หญิง 2 รุ่น ผู้ชาย 8 รุ่น ถือเป็นครั้งสำคัญ แม้ว่า เจ้าภาพจะเน้นรุ่นใหญ่ แต่เรามีโอกาสได้ทอง 3 เหรียญขึ้นไป สำหรับการเก็บตัวของนักกีฬาซีเกมส์ จะเปลี่ยนแคทป์เก็บตัวจากยะลา มาเป็นที่ค่ายศิษย์สองพี่น้อง ที่ได้รับความกรุณาจากมิสเตอร์ทิม พร้อมที่จะให้ที่พักและฝึกซ้อมอยู่ที่นี่"

"สำหรับความหวังเหรียญทองของซีเกมส์ สมาคมฯ ตั้งเป้าไว้ 3 ทอง เป้าหมาย ของรุ่นใหญ่ ที่มี 5 รุ่น ได้แก่ รุ่น 70-75 กก., 75-80 กก., 80-85 กก., 90-95 กก.และ รุ่นโอเพ่น 95-110 กก. โดยจะเป็นนักมวยจากค่ายศิษย์ 2 พี่น้อง 4 คน และจากค่ายอื่นอีก 1 คน ความหวังเหรียญทองถือว่า นักมวยไทยมีโอกาสมาก"

"มร.ทิม" นายทิมาธี ธรรมาชีวะ หัวหน้าคณะ "ศิษย์สองพี่น้อง" ให้ความเห็นว่า การปรับนักมวยไทย หันไปเล่นปันจักสีลัต ไม่น่ามีปัญหา เพราะที่สำคัญกระดูกจากมวยไทยนั้น เป็นที่ยอมรับและหวั่นเกรงทั่วโลกอยู่แล้ว นักมวยไทยของเราเหล่านี้ ก็ล้วนมีดีกรีแชมเปียนระดับโลก ระดับนานาชาติ ขอเพียงใช้เวลาฝึกซ้อมให้คุ้นเคยกับกติกาปันจักสีลัต จึงมั่นใจว่า เรามีโอกาสความหวังถึงเหรียญทองได้เหมือนกัน"

สำหรับโปรแกรมการแข่งขันซีเกมส์ ในการประชุมมนตรีซีเกมส์ จากการลงมติ ที่มี 9 ชาติไม่ให้เลื่อนและ มี 2 ชาติ ให้เลื่อน โดยที่ประชุมให้เวียดนามตัดสินใจอีก 15 วัน ซึ่งทางไทยก็ไม่หวั่นเรื่องนี้ ถึงแม้ต้องเลื่อนแข่ง สมาคมปันจักสีลัตของไทย ก็ยังมีแมตช์แข่งอื่นๆ ในประเทศไทย ให้นักกีฬาหาประสบการณ์อีกหลายรายการอย่างต่อเนื่อง หรือหากนักมวยไทยตัวหลักทีมชาติเหล่านี้ มีโปรแกรมแข่งขันมวยไทย เราก็พร้อมอนุญาตได้โดยไม่มีปัญหาแต่อย่างใด.