ไทยรัฐออนไลน์
ชาวชุมพรผนึกแรงกายแรงใจ วิ่งส่งต่อธงไตรรงค์ วันที่ 7 ของกิจกรรม "วิ่งส่งธงชาติไทย ไปโตเกียวโอลิมปิก" พร้อมสะสมระยะทางรวม 591.8 กม.
วันที่ 3 เม.ย. 64 นายสัมฤทธิ์ กองเงิน รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร นำทีมนักวิ่งออกสตาร์ต ในวันที่ 7 ของกิจกรรมประวัติศาสตร์ "FLAG OF NATION วิ่งส่งธงชาติไทย ไปโตเกียวโอลิมปิก" ซึ่งจัดต่อเนื่อง 61 วัน 35 จังหวัด รวมระยะทาง 4,606 กม. เทียบเท่าระยะทางกรุงเทพฯ ไปยังกรุงโตเกียว
ในวันที่ 7 ของกิจกรรมวิ่งธงชาติไทย เริ่มออกวิ่งโบกสะบัด จากจุดสตาร์ตที่สนามกีฬากลางจังหวัดชุมพร ไปยังจุดหมาย ปั๊มน้ำมันพีที สาขาละเเม รวมระยะทาง 97.7 กม. โดยมี นายสัมฤทธิ์ กองเงิน รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร พร้อมคณะผู้บริหารระดับสูงของจังหวัด ร่วมออกวิ่งจากสนามกีฬากลางชุมพร จนครบ 1 กม. ก่อนส่งธงต่อให้ นายอนาวิล จงเจริญ หนุ่มนักจิตวิทยา วัย 26 ปี รับหน้าที่วิ่งโบกสะบัดธงไตรรงค์ผืนที่จะนำไปใช้จริงๆ ในพิธีเปิดกีฬาโอลิมปิกเกมส์ เป็นคนที่ 2
สำหรับการวิ่งในวันที่ 7 ระยะทางรวม 97.7 กม. ซึ่งผ่านเส้นทางป่า เขา และเขตชุมชน มีพี่น้องนักวิ่งชาวชุมพรที่สมัครเข้าร่วมกิจกรรม จากหลากหลายกลุ่มวิชาชีพหมุนเวียนกันมาร่วมส่งต่อธงชาติไทยกันตลอดทั้งวัน ไม่ว่าจะเป็น ติวเตอร์, เจ้าของธุรกิจส่วนตัว, ผู้พิพากษา, ข้าราชการ, นักศึกษา และพนักงานบริษัท โดยในบางช่วงของเส้นทางการวิ่ง ยังมีพี่น้องประชาชนชาวชุมพรออกมาโบกไม้โบกมือให้กำลังใจกลุ่มนักวิ่งด้วย
เช่นกันกับในเฟซบุ๊กไลฟ์สดที่มีพี่น้องคนไทยจากทางบ้านร่วมส่งข้อความมาให้กำลังใจนักวิ่งและทีมงานทุกคนตลอดทั้งวัน ก่อนท้ายที่สุด 97 นักวิ่งจะทำภารกิจวันที่ 7 ได้สำเร็จ เมื่อวิ่งนำธงไตรรงค์มาปักยังจุดหมาย ปั๊มน้ำมัน พีที สาขาละแม พร้อมสะสมระยะทางการวิ่งรวมแล้วทั้งสิ้น 591.8 กม. ส่วนกิจกรรมวิ่งวันที่ 8 ในวันที่ 4 เม.ย.นี้ จะวิ่งออกสตาร์ตจากปั๊มน้ำพีที สาขาละแม ไปเข้าเส้นชัยที่สนามกีฬากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี ระยะทางรวม 101.8 กม.
นายสัมฤทธิ์ กองเงิน รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร เผยว่า กิจกรรมครั้งนี้ถือเป็นเกียรติกับจังหวัดชุมพรมากๆ ซึ่งที่ผ่านมาทางจังหวัดก็ประชาสัมพันธ์กิจกรรมประวัติศาสตร์ครั้งนี้มาอย่างต่อเนื่อง และได้รับกระแสตอบรับดีมาก และเป็นที่น่ายินดีที่เราเองก็มีนักวิ่งถึง 320 คน เข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการวิ่งส่งธงชาติไทยตั้งแต่ อ.ปะทิว มาสิ้นสุดที่ อ.ละแม ส่วนในระหว่างทางก็มีพี่น้องชาวจังหวัดชุมพรออกมาส่งแรงใจร่วมเชียร์อยู่ตลอดทาง ซึ่งตนรวมถึงพี่น้องชาว จ.ชุมพร ก็จะขอส่งกำลังใจให้ทัพนักกีฬาไทยทุกคนประสบความสำเร็จและได้ชัยชนะกลับมา
ด้าน นายภาณุพงศ์ ก้าวสัมพันธ์ หรือ “ตู่” พนักงานบริษัท อายุ 40 ปี ซึ่งร่วมวิ่งใน กม.ที่ 513 เปิดใจว่า ก่อนจะเริ่มวิ่งมีความตื่นเต้นพอสมควร แต่สุดท้ายก็ตั้งสติ ทำให้ทุกอย่างก็ผ่านไปได้ ยอมรับว่าภูมิใจที่ได้มีโอกาสเป็นหนึ่งของกิจกรรมวิ่งธงชาติไทยครั้งนี้ และตนก็ขอเป็นกำลังใจให้นักกีฬาทีมชาติไทยทุกคนที่เตรียมเดินทางไปทำภารกิจเพื่อชาติต่อไปทั้งในโอลิมปิกเกมส์ พาราลิมปิกเกมส์ รวมไปถึงในหลายๆคนที่กำลังลงทำการแข่งขันรอบคัดเลือกอยู่ด้วย
สำหรับเส้นทางการวิ่งผลัดธงชาติไทยครั้งประวัติศาสตร์ "FLAG OF NATION วิ่งส่งธงชาติไทย ไปโตเกียวโอลิมปิก" ซึ่งกำหนดจัดขึ้นต่อเนื่อง 61 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 28 มี.ค.- 27 พ.ค. 64 ใช้เส้นทางการวิ่งรวม 4,606 กม. วิ่งผ่าน 35 จังหวัดทั่วประเทศไทย ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร สมุทรสาคร สมุทรสงคราม เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา พัทลุง ราชบุรี นครปฐม กาญจนบุรี สุพรรณบุรี ชัยนาท นครสวรรค์ กำเเพงเพชร ตาก ลำปาง ลำพูน เชียงใหม่ เเพร่ อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ ชัยภูมิ ขอนเเก่น นครราชสีมา บุรีรัมย์ สระเเก้ว จันทบุรี ระยอง ชลบุรี ฉะเชิงเทรา เเละมาสิ้นสุดที่สนามบินสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ
ผู้ที่สนใจสามารถติดตามความเคลื่อนไหวของกิจกรรม รับชมการไลฟ์สด พร้อมร่วมคอมเมนต์ส่งกำลังใจให้กับอาสาสมัครนักวิ่งเเละนักกีฬาไทยได้ที่เฟซบุ๊ก "Road to Tokyo 2020" ตลอดทั้งวัน รวมถึงสามารถติดตามความเคลื่อนไหวของกิจกรรมได้ที่ www.stadiumth.com และเฟซบุ๊ก https://www.facebook.com/THStadium/
งานวิ่งครั้งประวัติศาสตร์ครั้งนี้ สนับสนุนโดย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, การกีฬาแห่งประเทศไทย และกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ, คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ, คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยใน
พระบรมราชูปถัมภ์, คณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย, บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด, บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน), บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน), บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท ฟู้ดแพนด้า ประเทศไทย จำกัด, บริษัท บุญรอด เทรดดิ้งจำกัด, บริษัท เดอะ สวอท์ช กรุ๊ป เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท ซีพี-เมจิ จำกัด และ บริษัท เฮ้าส์ โอสถสภา ฟู้ดส์ จำกัด