ส.เทควันโด เตรียมยื่นเอกสารเพื่อให้ "โค้ชเช" เป็นคนไทยโดยสมบูรณ์

สมาคมกีฬาเทควันโดฯ เตรียมยื่นเอกสารต่อกระทรวงมหาดไทย เพื่อขอให้ "โค้ชเช" เป็นคนไทยโดยสมบูรณ์ในสัปดาห์หน้า หลังเจ้าตัวแสดงความชัดเจน ไม่มีเปลี่ยนใจ ขอสัญชาติไทย

วันที่ 22 ก.พ. 64 ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย ออกมากล่าวถึงความคืบหน้าการขอสัญชาติไทยของ โค้ช เช ยอง ซอก ผู้ฝึกสอนเทควันโดทีมชาติไทยว่า ตอนนี้ตนได้ให้โค้ช เช ยอง ซอก เตรียมเอกสารต่างๆ ไว้ให้พร้อม เพื่อจะได้นำมาตรวจสอบกับทางทนายความ ด้านการโอนสัญชาติ เพื่อที่จะนำเอกสารทั้งหมดส่งต่อให้ กระทรวงมหาดไทย ในการดำเนินการขอสัญชาติไทยต่อไป ซึ่งตอนนี้ทราบจากโค้ชเช ว่า เอกสารมีความพร้อมมากกว่า 80% ถ้าไม่มีอะไรติดขัด เราน่าจะยื่นเอกสารได้ในสัปดาห์หน้า

"การขอสัญชาติไทยของโค้ช เช ยอง ซอก หลายครั้งที่ผ่านมา ยังไม่ได้ดำเนินการ เพราะทุกครั้งที่โค้ชเช ให้ข่าวกับสื่อมวลชนเพื่อขอสัญชาติไทย พอสมาคมฯ ขอให้ เช รวบรวมเอกสาร ทาง โค้ชเช กลับไปคิดทบทวนอีกครั้งว่า เช ยังมีภาระ ต้องเลี้ยงดูคุณยายที่อยู่เกาหลีใต้ จึงทำให้ต้องยกเลิกการขอสัญชาติไทยไปทุกครั้ง แต่ครั้งนี้ โค้ช ได้ตอบกับผมว่า หมดภาระทุกอย่าง ไม่มีอะไรต้องห่วง จึงอยากขอเป็นคนไทยเต็มตัว เพื่อได้ชื่อว่าเป็น โค้ชไทย พานักเทควันโดไทยคว้าเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ เป็นคนแรกของประวัติศาสตร์ ซึ่งผมก็ไม่แน่ใจว่าการได้รับสัญชาติไทยจะทันก่อนแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2020+1 ที่ญี่ปุ่น หรือไม่ ต้องรอการพิจารณาจากทางกระทรวงมหาดไทย แต่ที่ผ่านมา ท่านนายกรัฐมนตรีเคยเอ่ยปากให้ความมั่นใจในเรื่องนี้ กับผู้ที่ทำประโยชน์ให้กับประเทศไทย และผมก็มั่นใจว่า โค้ช เช ยอง ซอก จะได้รับสัญชาติไทย อย่างแน่นอน" พิมล กล่าว

"บิ๊กเอ" นายกเทควันโด ยังกล่าวอย่างมั่นใจอีกว่า โอลิมปิกเกมส์ ครั้งนี้ จะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน เพราะทางสหพันธ์เทควันโดโลก ยืนยันมาแล้วว่า ญี่ปุ่น จัดการแข่งขันอย่างแน่นอน สถานการณ์การแพร่เชื้อ ไวรัสโควิด-19 เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง วัคซีนป้องกันโควิด จะช่วยให้จำนวนผู้ติดเชื้อลดน้อยลงไปอย่างมาก และทุกอย่างจะเดินหน้าต่อไป ซึ่งโอลิมปิกเกมส์ 2020+1 จะเป็นโอกาสที่สูงที่สุด ที่นักเทควันโดไทย จะมีลุ้นเหรียญทอง ไม่แน่ คนไทยทั้งประเทศจะได้มีความสุขกับเหรียญทองโอลิมปิกจากกีฬาเทควันโด โดยมีโค้ชคนไทย

ด้าน มร.เช ยอง ซอก เปิดเผยว่า ตนขอยืนยันว่า การตัดสินใจครั้งนี้ ไม่มีเปลี่ยนใจเด็ดขาด ตนขอเป็นคนไทย ทำงานในเมืองไทย และอยู่ประเทศไทยตลอดไป ทุกวันนี้ที่ประเทศเกาหลี ตนก็ไม่มีภาระอะไรต้องห่วงอีกแล้ว ถ้าจะไปหาเพื่อนก็เดินทางไปได้เหมือนนักท่องเที่ยวทั่วไป เพราะที่ผ่านมา ตนก็ไม่เคยไปอยู่เกาหลีนานๆ เลย แต่ในประเทศไทย ตนใช้ชีวิตอยู่นานมาก อยากฝากอนาคตไว้ที่ไทย สอนหนังสือ สอนเทควันโด หรือทำอะไรต่างๆ ในเมืองไทยได้อย่างที่ประชาชนไทยทำ และที่สำคัญยังคิดเสมอว่า จะเป็นโค้ชไทยพานักเทควันโดไทยคว้าเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์