ไทยรัฐฉบับพิมพ์
สมาคมกีฬาเทเบิลเทนนิสฯเตรียมส่ง “หญิง” สุธาสินี เสวตรบุตร, “ทิพย์” อรวรรณ พาระนัง และ “ไบรท์” ภาดาศักดิ์ ตันวิริยะเวชกุล ไปลุ้นตั๋วโอลิมปิก โตเกียวเกมส์ ในรายการควอลิฟายที่โดฮา เดือน มี.ค.นี้ ณัฐวุฒิ เรืองเวส นายกสมาคมฯหวังคว้าอย่างน้อย 2 ที่นั่ง เพื่อไปโตเกียวเกมส์ รอบสุดท้าย
นายณัฐวุฒิ เรืองเวส นายกสมาคมกีฬาเทเบิลเทนนิสแห่งประเทศไทย เป็นประธานการประชุมแถลงนโยบายและรับฟังความคิดเห็นคนในวงการกีฬาเทเบิลเทนนิส ระหว่างคณะกรรมการบริหารสมาคมฯ กับเหล่าบุคคลในวงการกีฬาเทเบิลเทนนิสไทย ที่โรงแรมอเล็กซานเดอร์ รามคำแหง เมื่อวันที่ 21 ก.พ.ที่ผ่านมา
นายกสมาคมกีฬาเทเบิลเทนนิส กล่าวว่า สำหรับการประชุมแถลงนโยบายในครั้งนี้จะเป็นการใช้การมีส่วนร่วมทั้งหมด จากปกติจะมีแต่คณะกรรมการบริหารเข้าร่วม แต่ในครั้งนี้สมาคมได้เปิดโอกาสให้บุคคลในวงการเทเบิลเทนนิสไทยได้ร่วมแสดงความคิดเห็นด้วย ไม่ว่าจะเป็นทีมสโมสรต่างๆ โค้ช นักกีฬาทุกกลุ่ม ผู้จัดการแข่งขัน ผู้ตัดสิน สปอนเซอร์ รวมถึงนักวิชาการต่างๆเพื่อพูดคุยร่วมกันว่าอุปสรรคที่ผ่านมาจะแก้ไขกันได้อย่างไร รวมทั้งทิศทางของเทเบิลเทนนิสไทยตั้งแต่ปี 2564-2567 ควรเป็นเช่นไร เป็นการขับเคลื่อนไปด้วยกันทั้งตัวสมาคมฯเองและเหล่าบุคคลในวงการ
“นโยบายหลักๆที่ทางสมาคมวางไว้นั้นแน่นอนว่าเรื่องแรกคือการพัฒนานักกีฬาให้ประสบความสำเร็จ เรื่องที่ 2 คือการจัดการแข่งขัน เพราะปัจจุบันการแข่งขันเทเบิลเทนนิสเริ่มโตขึ้นมาก ดังนั้นการแบ่งกลุ่มแบ่งรุ่นการแข่งขันจึงต้องมีการวางระบบใหม่ทั้งหมด เรื่องที่ 3 คือการพัฒนาบุคลากรซึ่งที่ผ่านมาทางสมาคมอาจจะทำแล้วและพบเจอจุดอ่อนบางอย่างยังไม่ประสบความสำเร็จ ก็ต้องมาแก้ไขกัน นอกจากนี้ ก็จะเป็นเรื่องของการพัฒนากีฬาอาชีพ อุตสาหกรรมกีฬาหรือสปอร์ตทัวริซึม รวมทั้งการทำกีฬามวลชน” นายณัฐวุฒิกล่าว
ขณะที่เรื่องของการควอลิฟายโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่จะแข่งขันกันที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ล่าสุดนั้น นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ตอนนี้ทางสมาคม ได้กำหนดตัวนักกีฬา 3 คนที่จะเป็นตัวแทนทัพเทเบิลเทนนิสทีมชาติไทยไปแข่งขันควอลิฟาย ที่ประเทศกาตาร์ในช่วงเดือน มี.ค.นี้ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเป็นการคัดเลือกจากผลงานความสำเร็จมากที่สุดในบรรดานักกีฬาของสมาคม ชุดปัจจุบัน รวมทั้งดูจากเวิลด์แรงกิ้งด้วย โดยทั้ง 3 คนประกอบด้วย “หญิง” สุธาสินี เสวตรบุตร, “ทิพย์” อรวรรณ พาระนัง และ “ไบร์ท” ภาดาศักดิ์ ตันวิริยะเวชกุล โดยจะมี 2 ผู้ฝึกสอนคุมทัพไปนั่นคือ “โค้ชต้อม” อาสาฬห์ อมรรัตนสุชาติ และ “โค้ชน้อง” อนิศรา เมืองสุข
ทั้งนี้ การควอลิฟาย โอลิมปิกเกมส์ ของเทเบิลเทนนิสจะมี 2 รอบในเดือน มี.ค. โดยรอบแรกจะเป็นการควอลิฟายของนักกีฬาโซนเอเชีย ที่กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ วันที่ 13-15 มี.ค.2564 เมื่อจบแล้วนักกีฬาที่ยังไม่ผ่านการคัดเลือกจะมีอีกรายการให้แก้ตัวคือการแข่งขันควอลิฟาย โอลิมปิกเกมส์ ในรอบเวิลด์ทัวร์นาเมนต์ที่จะมีนักกีฬาที่ยังไม่ผ่านการคัดเลือกจากทุกๆโซนทั่วโลกร่วมแข่งขันต่อที่สนามแห่งเดิมในกรุงโดฮา วันที่ 16-19 มี.ค.2564
แต่ก่อนที่จะถึง 2 รายการที่กล่าวมานี้ก็จะมีแมตช์แข่งขันให้นักกีฬาเข้าร่วมก่อนอีก 2 รายการ คือ “ดับเบิลยูทีที คอนเทนเดอร์” ในระหว่างวันที่ 28 ก.พ.-6 มี.ค.2564 และรายการดับเบิลยูทีทีสตาร์ คอนเทนเดอร์ ในระหว่างวันที่ 6-13 มี.ค.2564 เป็นการแข่งขันเก็บคะแนนแต่ไม่ได้นำมาใช้ในการควอลิฟายโอลิมปิกรอบนี้ นั่นเท่ากับว่า 3 นักกีฬาของไทยจะต้องลงแข่งขัน 4 รายการ ที่กรุงโดฮาในเดือน มี.ค. ซึ่งทางสหพันธ์เทเบิลเทนนิสนานาชาติ หรือไอทีทีเอฟ จัดการเช่นนี้เพื่อเลี่ยงไม่ให้นักกีฬาต้องเดินทางไปหลายประเทศ หากแข่งที่กาตาร์ประเทศเดียวก็จะทำการตรวจเชื้อหรือกักตัวตามมาตรการครั้งเดียวและสามารถแข่งได้ทั้ง 4 รายการเลย
“สำหรับการตั้งความหวังของทางสมาคม ครั้งนี้ เรามองว่านักกีฬาที่ส่งไปควอลิฟายทั้ง 3 คนนั้นน่าจะมี 2 คนที่ผ่านการคัดเลือกไปโอลิมปิกได้ จริงๆเราก็หวังทั้ง 3 แต่เพื่อไม่ให้เป็นการกดดันนักกีฬามากเกินไปเราก็หวังไว้ที่ 2 ใน 3 ก่อน แต่เชื่อว่าเด็กทั้ง 3 เป็นคนที่มีความสามารถมาก พอถึงสถานการณ์จริงอะไรก็เกิดขึ้นได้” นายณัฐวุฒิ กล่าวในตอนท้าย.