ไทยรัฐฉบับพิมพ์
การแข่งขันรถสูตรหนึ่งชิงแชมป์โลก หรือ “เอฟวัน” เตรียมกลับมาเปิดฉากดวลความเร็วในฤดูกาล 2020 สนามแรกในศึก “ออสเตรเลียนกรังด์ปรีซ์” ที่สนามอัลเบิร์ต พาร์ก เซอร์กิต ที่เมลเบิร์น ออสเตรเลีย ในวันที่ 13–15 มีนาคมนี้
หากเอ่ยถึงเอฟวันก็ต้องนึกถึงอเล็กซานเดอร์ อัลบอน นักขับลูกครึ่งไทย-อังกฤษ ซึ่งแฟนๆ มอเตอร์สปอร์ตชาวไทยจะรู้จักยอดนักขับรถเอฟวันวัย 23 ปีเป็นอย่างดี หลังสร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมกับ เรดบูล เรซซิ่ง ทีม ในปีที่ผ่านมา
อัลบอนได้โอกาสเดินตามฝันในการขับเอฟวัน ในปี 2019 เมื่อถูกโทโร รอสโซ ทีมในศึกเอฟวัน ดึงตัวมาขับให้ทีมในฐานะมือ 2 ร่วมกับดานิล คาฟยัต นักขับชาวรัสเซีย แต่หลังจากศึกเอฟวันเปิดฉากขึ้น แม้ว่าจะเป็นมือใหม่แต่อัลบอนก็ฉายแววยอดเยี่ยมสู้ไม่ถอยตลอดการแข่งขันครึ่งปีแรก
จนทำให้เรดบูล เรซซิ่ง ทีม ซึ่งศักดิ์ถือว่าเป็นทีมพี่ของโทโร รอสโซ มองเห็นแววและดึงตัวอัลบอน ไปขับให้กับทางเรดบูล ซึ่งเจ้าตัวก็ไม่ทำให้ผิดหวังสู้อย่างสุดใจ 9 สนามในครึ่งหลังปี 2019 จบไม่ต่ำกว่าอันดับ 6 ถึง 8 สนาม มีเพียงแค่สนามเดียวจบอันดับ 14
ซึ่งสนามที่จบอันดับ 14 นั้น เป็นศึก “บราซิเลียน กรังด์ปรีซ์” อัลบอนมีลุ้นถึงโพเดียมเลยทีเดียว ซึ่งหากใครยังจำได้เกมดำเนินมาถึงรอบรองสุดท้าย อัลบอน รั้งอันดับ 2 ต่อจากเพื่อนร่วมทีมอย่างแม็กซ์ เวอร์สแตพเพน ยอดนักซิ่งชาวฮอลแลนด์
แต่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันเมื่อจังหวะเข้าโค้ง ลูอิส แฮมิลตัน แชมป์โลก 6 สมัยของเมอร์เซเดส เอเอ็มจี พุ่งเข้าชนจนรถหมุน ทำให้สุดท้ายอัลบอน จบด้วยอันดับที่ 14 พลาดโพเดียมไปอย่างน่าเจ็บใจ
แต่จากการโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมตลอดปี 2019 จนทำให้อัลบอนผงาดคว้ารางวัลรุกกี้ ออฟ เดอะ เยียร์ หรือนักขับหน้าใหม่แห่งปีไปครอง
จากฟอร์มเมื่อปี 2019 ทำให้ในฤดูกาลใหม่ ปี 2020 อัลบอนได้รับการจับตามองว่าเป็นอีกหนึ่งนักขับที่จะพุ่งขึ้นมายึดโพเดียมได้สนามใดสนามหนึ่งใน 22 สนามของฤดูกาลนี้
อัลบอนเผยถึงความพร้อมในการสู้ศึกเอฟวัน 2020 ว่า “ปีที่แล้วเป็นปีที่ดีสำหรับผมมาก ผมพอใจในผลงานของตัวเอง แม้ว่าจะมีหลายอย่างที่ยุ่งเหยิงพอสมควรในการปรับเปลี่ยนทีม ครึ่งปีหลังเมื่อเรด บูล เรียกตัวผมให้มาร่วมทีม นั่นแหละคือความกดดันโถมเข้ามา แต่มันเป็นความท้าทายที่ได้เริ่มต้นขึ้น”
“สำหรับในปี 2020 นั้น ผมได้พยายามพัฒนาตัวเองขึ้นเรื่อยๆ และรู้สึกได้ว่าทุกอย่างมันดีขึ้นทุกครั้งที่ได้ขับรถแข่ง โดยในช่วงปิดฤดูกาล นอกจากการออกกำลังกายเพื่อให้ฟิตพร้อมแล้ว ผมยังได้ทดลองขับซิมูเลเตอร์สนามต่างๆ ที่จะลงแข่งขันอย่างหนัก เพื่อที่จะช่วยให้สามารถจดจำโค้งต่างๆในสนามที่จะลงแข่งขันได้”
นอกจากนั้นนักขับวัย 23 ปียังชี้ว่าในฤดูกาลใหม่นั้นทางเรดบูล เรซซิ่ง ได้มีการปรับเปลี่ยนรถโฉมใหม่ RB16 แม้ว่ารูปโฉมจะไม่เปลี่ยนจากฤดูกาลที่แล้วมากนักแต่ทีเด็ดอยู่ที่เครื่องยนต์ที่ปีนี้จะเป็นขุมกำลังที่จะพาเรดบูลทะยานสู่ตำแหน่งแชมป์โลกได้ “สำหรับรถแข่งใหม่ RB16 มันยอดเยี่ยมมากให้ความรู้สึกในการขับดีขึ้นมากและทุกอย่างมันเป็นไปในทางที่ดีเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว แต่ยังมีบางจุดที่เรายังต้องเร่งปรับปรุงอยู่ แต่โดยรวมรถปีนี้ผมรู้สึกได้ว่าเครื่องยนต์มันเร็วขึ้นกว่าเดิม”
จากการทดสอบรถ RB16 ไปครั้งล่าสุดที่บาร์เซโลนา ประเทศสเปน ทั้งอัลบอนและเวอร์สแตพเพน ก็ทำผลงานออกมาได้ค่อนข้างเป็นที่น่าพอใจ เลยทีเดียว ซึ่งทัพเรดบูล เรซซิ่ง พร้อมแล้วที่จะดวลกับเมอร์เซเดส เอเอ็มจี และเฟอร์รารี่ ในการแย่งแชมป์โลกในปี 2020
“เป้าหมายในซีซันนี้มันต้องดีกว่าปีที่ผ่านมา แน่นอนผมต้องการไปให้อยู่ในอันดับต้นๆ เพื่อขึ้นโพเดียมและแย่งแชมป์สนามต่างๆ แต่ผมรู้ดีว่า ณ จุดนี้ ผมอาจจะยังไปไม่ถึงจุดนั้น แต่ผมจะพยายามพัฒนาตัวเองขึ้นเรื่อยๆ เพื่อที่จะไปถึงเป้าหมายที่วางไว้ให้ได้ในปีนี้” อัลบอนกล่าวถึงเป้าหมายของตัวเองในปี 2020
ก่อนหน้านี้ใครๆจะมองว่าคนไทยจะขับเอฟวันเป็นเรื่องยาก ตอนนี้อัลบอนทำให้เห็นแล้วว่ามันเป็นจริงได้
ก่อนหน้านี้หลายคนบอกว่าถึงได้แข่งก็เป็นแค่ตัวประกอบไม่มีทางขึ้นไปยืนบนโพเดียมหรือคว้าแชมป์ได้ แต่ปีที่แล้วอัลบอนก็ทำให้เห็นแล้วว่า โพเดียม ก็ไม่ไกลเกินที่มือของเขาจะเอื้อมถึงเช่นกัน
ปีนี้เชื่อว่าอัลบอนน่าจะสร้างความสุขให้กับแฟนๆมอเตอร์สปอร์ตชาวไทยได้แน่
เราอาจจะได้เห็นอัลบอนขึ้นไปยืนบนโพเดียมศึกเอฟวันแน่ แต่จะสนามไหนนั้นต้องตามลุ้นกัน!!
ชานนท์ กล่ำดิษฐ์ เรื่อง...