ไทยรัฐฉบับพิมพ์
แถลงข่าวเปิดตัวอย่างคึกคักสำหรับขุนพลนักเจ็ตสกีทีมชาติไทย ที่จะบินข้ามน้ำข้ามทะเล ไปล่าแชมป์ในศึกเจ็ตสกีชิงแชมป์โลก รายการ “เวิลด์ ไฟนอล 2019”
ที่จะระเบิดการชิงชัยที่เมืองเลค ฮาวาซู รัฐอริโซนา สหรัฐอเมริกา ในเดือนหน้า ระหว่างวันที่ 4-13 ต.ค.62
ต่อเนื่องเป็นปีที่ 24 เข้าให้แล้ว ที่ธงชาติไทยจะได้ไปโบกสะบัดบนเวทีเจ็ตสกีโลกอย่างเป็นทางการ
จากที่เคยเป็นเพียง “ไม้ประดับ” เหลือเชื่อนะครับว่าเดี๋ยวนี้วงการเจ็ตสกีไทยกลายเป็น “มหาอำนาจ” เต็มตัวแล้ว
ไม่เพียงแต่ผลงานของนักกีฬาที่สร้างความสำเร็จกวาดแชมป์โลกเป็นว่าเล่น
แต่ ไทยแลนด์ของเรายังสร้างความภาคภูมิใจ ด้วยการเป็นเจ้าของสิทธิทัวร์นาเมนต์โลก ทั้ง “เจ็ตสกี เวิลด์ซีรีส์” และ “เจ็ตสกีเวิลด์คัพ” แบบเบ็ดเสร็จ
สมาคมเจ็ตสกีโลก IJSBA และ สมาคมเจ็ตสกีแห่งทวีปยุโรป EJSBA ให้การยอมรับเข้ามาอยู่ภายใต้ลิขสิทธิ์กีฬาไทยเป็นปีแรก
โดยรวมเอา 3 ทัวร์นาเมนต์สำคัญของโลกมารวมเป็น “เวิลด์ซีรีส์”
ซึ่งผ่านสนามแรกไปแล้วในรายการชิงแชมป์ยุโรปที่ประเทศเบลเยียมเมื่อเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา
สำหรับการแข่งขัน “เวิลด์ ไฟนอล” ที่อริโซนา ถือเป็นสนามที่ 2 ของปี
สมาคมเจ็ตสกีแห่งประเทศไทยฯ ได้คัดเลือกนักกีฬาจากการแข่งขันเจ็ตสกี โปรทัวร์ เก็บคะแนน 4 สนาม จำนวนทั้งสิ้น 16 คน ไปร่วมชิงชัยในศึกนี้
นำโดย “มนุษย์เหล็ก” เชาวลิต เกื้อจรูญ แชมป์โลกหลายสมัย ที่ล่าสุดเพิ่งไปคว้าอันดับ 3 รุ่นโปรที่เบลเยียม
รวมไปถึงอีก 2 ตัวเต็งแชมป์โลก ทั้ง สุภัค เสร็จธุระ และ เพิ่มพล ธีรพัฒน์พานิชย์
ส่วนรายชื่อนักกีฬาเจ็ตสกีทีมชาติไทยที่เหลือ ประกอบด้วย นนทวัชร์ พิมพ์เจริญ, บุ๊ค เสริมสุวรรณ, ทัศพงศ์ แสงอุทัย, พลกฤต ศรีวนค้ำ, ธนวิชญ์ โมลี, ธนวินญ์ โมลี
สหรัฐ งามสมมิตร, ภานุพันธ์ ดิษฐี, ธีรพงศ์ พิมพาวัตร, ทวีผล สุขเกษม, ภูริภัทร ทองก้อน, อรพรรณ ธีรพัฒน์พาณิชย์ และ อรรถพล คุณสา
ปีที่แล้วในเวิลด์ ไฟนอล ทีมชาติไทยคว้ามาได้ 9 แชมป์โลก ได้คะแนนรวมเป็นอันดับ 2
ดังนั้น ในปีนี้สมาคมฯจึงตั้งเป้าที่จะสร้างผลงานให้ดีขึ้น
โดยการคว้าแชมป์โลกให้ได้อย่างน้อย 10 รุ่น แล้วไปลุ้นกับเจ้าภาพสหรัฐอเมริกาว่าใครจะคว้าแชมป์ถ้วยคะแนนรวมไปครอง
ช่วยกันส่งแรงใจเชียร์นักเจ็ตสกีไทยที่เลคฮาวาซูกันเยอะๆครับ
เพื่อศักดิ์ศรีความเป็น “เบอร์ 1” โลกในสนามสุดท้ายของเวิลด์ซีรีส์
ที่จะมาปิดฉากที่บ้านเรา ด้วยศึก “เจ็ตสกีเวิลด์คัพ” ที่พัทยา 5–8 ธ.ค.
อย่างเต็มภาคภูมิ!!!
“ว.ภาวดี”