หน้าแรกแกลเลอรี่

เจ็บนิ้วมือแตก "สมเกียรติ" เผยเบื้องหลังสู้สุดใจก่อนคว้าชัยระดับโลก "โมโตทู"

ไทยรัฐออนไลน์

22 มี.ค. 2565 13:10 น.

เผยเส้นทางสู่แชมป์ของคนไทยคนแรกที่คว้าชัยในเวิลด์จีพี "เจ้าก้อง" ต้องสู้ทั้งคู่แข่งและอาการบาดเจ็บ ก่อนขึ้นไปยืนจุดสูงสุดในเวทีโลก

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 20 มีนาคมที่ผ่านมา ประวัติศาสตร์หน้าใหม่ได้จารึกชื่อคนไทยคนแรกในประวัติศาสตร์ที่คว้าชัยชนะในการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก จากผลงานของ "ก้อง" สมเกียรติ จันทรา นักบิดวัย 23 ปี จากโครงการ "ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม" ที่ควบรถแข่งคู่ใจหมายเลข 35 เข้าป้ายเป็นคันแรก และทำเวลาต่อรอบได้เร็วที่สุด ในการแข่งขันรุ่นโมโตทู ที่ประเทศอินโดนีเซีย รายการ อินโดนีเซียน กรังด์ปรีซ์ ที่สนาม เปอร์ตามินา มันดาลิกา เซอร์กิต

อย่างไรก็ตาม ในขณะลงแข่งขันนั้น นักบิดชาวไทยยังมีอาการบาดเจ็บที่นิ้วก้อยมือขวาแตก จนต้องดามเหล็ก และต้องใช้ถุงมือที่ปรับแต่งพิเศษแบบเฉพาะกิจ หลังได้รับการผ่าตัดด่วนที่ประเทศสเปน โดยเจ้าตัวทำเวลาเร็วสุดผ่านจากรอบควอลิฟาย 1 เป็นคันแรก ก่อนจะคว้ากริดสตาร์ตอันดับที่ 4 ในรอบควอลิฟาย 2 มาครอง

จากนั้น สมเกียรติ ใช้ทักษะที่ยอดเยี่ยมควบคุมรถแข่งได้ดีตั้งแต่ออกตัว ขึ้นนำได้ตั้งแต่โค้งแรก และรักษามาตรฐานการขี่ของตัวเองได้ดีอย่างต่อเนื่อง แม้บรรดาคู่แข่งระดับพระกาฬที่ถูกยกเป็นเต็งแชมป์อย่าง แซม โลว์ส อดีตแชมป์โลกชาวอังกฤษ, เจค ดิ๊กสัน มือบิดไวลด์การ์ดโมโตจีพีจากสหราชอาณาจักร รวมถึงดาวรุ่งฝีมือดี เชเลสติโน วิเอ็ตติ ชาวอิตาเลียน แชมป์สนามแรก และ ออกุสโต เฟร์นันเดซ นักบิดจากทีมแชมป์โลกปีที่ผ่านมา ไล่กดดันอย่างหนักก็ตาม

สมเกียรติ มีความเร็วที่ดีเหนือใคร ด้วยการกดเวลาต่อรอบเร็วที่สุดได้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ค่อยๆ ทิ้งห่างคู่แข่งออกไป ขณะที่แฟนชาวไทยลุ้นอย่างหนัก เจ้าของฉายา "คิงคองก้อง" ก็บิดคันเร่งพารถแข่งคู่ใจเข้าป้ายเป็นคันแรกได้แบบม้วนเดียวจบ ทิ้งห่างอันดับ 2 อย่าง วิเอ็ตติ ถึง 3.230 วินาที คว้าชัยชนะครั้งประวัติศาสตร์มาครองได้อย่างยิ่งใหญ่ นำธงชาติไทยไปโบกสะบัดอวดสายตาชาวโลกอย่างภาคภูมิใจ

สมเกียรติ กลายเป็น "นักกีฬาชาวไทย" คนแรกในประวัติศาสตร์ที่คว้าชัยชนะในการแข่งขันระดับ "เวิลด์ กรังด์ปรีซ์" รุ่นโมโตทู และจารึกว่าเขาเป็น "นักกีฬาจากเซาท์อีสต์เอเชีย" คนแรกที่ทำได้ด้วยเช่นกัน ชัยชนะครั้งนี้จึงมีความหมายอย่างยิ่งต่อวงการกีฬาของไทยและเอเชีย

เพลงชาติไทยที่ดังกระหึ่มสนาม เปอร์ตามินา มันดาลิกา เซอร์กิต บ่งบอกว่า "นักกีฬาชาวไทย" มีความสามารถไม่แพ้ชาติใดในโลก ภายใต้โครงการ "ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม" ที่มีเป้าหมายพาเด็กไทยไปสู่การแข่งขันระดับสูงสุดของโลกอย่าง "โมโตจีพี" ภายในปี 2025 ก็เริ่มมีความชัดเจนขึ้นอย่างมาก 

เจ้าของชัยชนะในศึกเวิลด์ กรังด์ปรีซ์ คนแรกของไทย ซึ่งปัจจุบันอายุ 23 ปี เข้าสู่เส้นทางสายนักบิดตั้งแต่อายุ 9 ขวบ ในโครงการ ฮอนด้า เรซซิ่ง สคูล และที่นี่เขาถูกบ่มเพาะความสามารถจนได้รับคัดเลือกเข้าสู่โปรเจกต์ "โรด ทู โมโตจีพี" ในรายการ เอเชีย ทาเลนต์ คัพ ในปี 2013 ด้วยวัยเพียง 15 ปี จากนั้นเส้นทางสู่ "เวิลด์ กรังด์ปรีซ์" ของนักบิดจากชลบุรีเริ่มชัดเจนมากขึ้น หลังผงาดคว้าแชมป์ เอเชีย ทาเลนต์ คัพ ในปี 2016 และได้รับโอกาสก้าวสู่การแข่งขันในรายการ "เอฟไอเอ็ม ซีอีวี โมโตทรี จูเนียร์" ในปี 2017-2018 ขณะที่มีอายุ 18 ปี

เกมระดับ "เวิลด์ กรังด์ปรีซ์" ครั้งแรกของ สมเกียรติ คือการลงบิดด้วยสิทธิ์ไวลด์การ์ดในการแข่งขันรุ่น โมโตทรี เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ 2018 รายการ ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ ซึ่งนักบิดไทยก็ตอบแทนโอกาสทองนี้ ด้วยการคว้าอันดับ 9 ในโฮมเรซต่อหน้าแฟนความเร็วชาวไทย และนี่คือ "ตั๋วใบสำคัญ" ให้เขาได้รับการโปรโมตขึ้นสู่การแข่งขันชิงแชมป์โลกอย่างแท้จริงในรุ่นโมโตทู เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ ภายใต้สังกัด อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม เอเชีย ในปีถัดมา

สมเกียรติ ออกสตาร์ตการแข่งขัน โมโตทู ชิงแชมป์โลก ในปี 2019 และยกระดับความสามารถของตัวเองขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกฤดูกาล จนได้รับสัญญาต่อในปี 2020 และ 2021 ผลงานดีที่สุดคือการคว้าอันดับ 5 ที่สนาม เรดบูล ริง ประเทศออสเตรีย ในรายการ ออสเตรียน กรังด์ปรีซ์ จนกระทั่งสร้างผลงานระดับมาสเตอร์คว้าชัยชนะครั้งแรกในชีวิตของตนเองได้สำเร็จ ในรายการ อินโดนีเซียน กรังด์ปรีซ์ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

ด้วย "ความเป็นไทย" ในตัวเองที่เข้มข้น สมเกียรติ ให้สัมภาษณ์หลังจบเรซด้วยความภาคภูมิใจว่า "แทบไม่เชื่อสายตาตัวเองกับชัยชนะครั้งแรก และขอมอบความสำเร็จนี้ให้แฟนๆ ชาวไทยทุกคน" พร้อมยกเครดิตให้กับ บริษัท ไทยฮอนด้า แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด ที่ยังคงเชื่อมั่นใจตัวเขาจนพิสูจน์ตัวเองได้

จากความสำเร็จนี้ สะท้อนให้เห็นว่าโครงการ "ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม" มีโครงสร้างที่แข็งแกร่ง และช่วยยกระดับวงการมอเตอร์สปอร์ตไทยอย่างชัดเจน ส่งผลให้นักแข่งไทยเข้าใกล้เป้าหมายระดับโลกไปอีกขั้น

ความหวังของคนไทยที่จะได้เห็น "นักแข่งไทย" คว้าชัยชนะใน "เวิลด์ กรังด์ปรีซ์" เกิดขึ้นจริงแล้วจากผลงานของ "ก้อง" สมเกียรติ จันทรา ผลผลิตจากโครงการ "ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม" และเป้าหมายต่อไปของเขาคือรักษามาตรฐานที่แข็งแกร่งนี้ไว้ เพื่อเป้าหมายสูงสุดคือการแข่งขัน "โมโตจีพี" นั่นเอง