ไทยรัฐออนไลน์
ทำความรู้จักกับ Chug Cam กล้องจับที่ใคร คนนั้นหมดแก้ว วัฒนธรรม “ดูไป ดื่มไป” กับการแข่งขันกีฬา “อเมริกันเกมส์” ในประเทศสหรัฐอเมริกา
หนึ่งในสิ่งที่อยู่คู่กับวงการอเมริกันเกมส์ ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันบาสเกตบอล NBA, อเมริกันฟุตบอล NFL, เมเจอร์ลีก เบสบอล MLB หรือกีฬาอื่นๆ ทุกชนิดและทุกระดับมาอย่างยาวนานก็คือวัฒนธรรม “ดูไป ดื่มไป”
อ่านมาถึงตรงนี้ หลายท่านอาจจะเถียงว่า “เฮ้ย ในการแข่งขันฟุตบอล หรือกีฬาชนิดอื่นๆ ที่เป็นกีฬากระแสหลักของโลก ผู้ชมทั้งในและนอกสนามก็สามารถ ดูไป ดื่มไป ได้เหมือนกันนะ”
แต่สิ่งที่บทความนี้จะสื่อก็คือวงการอเมริกันเกมส์นั้นได้ก่อร่างสร้างบริบทดังกล่าวขึ้นมา ด้วยการออกแบบและปรับเปลี่ยนรูปแบบการแข่งขันให้เหมาะสมกับวัฒนธรรมการดื่ม มากกว่าวงการกีฬาอื่นๆ
ถ้าจะเปรียบเทียบให้เห็นภาพได้ง่ายมากที่สุด ก็คงจะต้องยกตัวอย่างโดยใช้กีฬาฟุตบอล หนึ่งในชนิดกีฬาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในหมู่ผู้ชมชาวไทย รวมถึงแฟนกีฬาจากทั่วโลก
อย่างที่ทราบกันดี ฟุตบอล นั้นแข่งขันกันทั้งหมด 90 นาที และตลอดทั้ง 90 นาทีนั้น เวลาจะหยุดเดินแค่เพียงครั้งเดียวก็คือช่วงพักครึ่ง นอกเหนือจากนั้นไม่ว่าลูกบอลจะออกข้าง ออกหลัง หรือมีการทำประตูเกิดขึ้น เวลาก็จะไม่หยุดเดิน
ข้อดีของระบบการจับเวลาประเภทนี้ก็คือ เกมการแข่งขันจะต่อเนื่อง และไม่ค่อยหยุดชะงัก ไม่ต้องมาพะว้าพะวงว่าเวลาจะต้องหยุดในจังหวะไหนบ้าง ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนี้จะทำให้ผู้ชมเข้าใจกฎได้ง่าย
มากไปกว่านั้นบรรดาช่องโทรทัศน์ผู้ถือลิขสิทธิ์ในการถ่ายทอดสดก็จะสามารถควบคุมเวลาและสามารถคำนวณจังหวะตัดเข้าโฆษณาได้ง่าย โดยไม่ให้ไปรบกวนรายการอื่นๆ
กลับกันระบบการแข่งขันของอเมริกันเกมส์นั้นแตกต่างออกไปโดยสิ้นเชิง ในกีฬาบาสเกตบอลและอเมริกันฟุตบอลมีการหยุดเวลาได้หลากหลายรูปแบบมาก ไม่ว่าจะเป็นจังหวะที่มีการทำสกอร์ จังหวะฟาวล์ หรือลูกบอลออกจากสนาม
ในขณะเดียวกับกีฬาเบสบอลนั้นไม่มีระบบจับเวลาการแข่งขันแบบตายตัว การแข่งขันจะดำเนินไปเรื่อยๆ จนไปจบในอินนิงที่ 9 และแน่นอนว่าระหว่างนั้นเวลาที่เกมหยุดแข่งขันอาจจะมากพอๆ กับเวลาที่มีการขว้างหรือตีลูกด้วยซ้ำ
การที่อเมริกันเกมส์มีรูปแบบการแข่งขัน “แข่งๆ หยุดๆ” แบบนี้ทำให้ผู้ชมทั้งในและนอกสนามไม่จำเป็นต้องโฟกัสการแข่งขันมากเกินไป เพราะทุกคนสามารถอุ่นใจได้ว่าพวกเขาอาจจะหันเหความสนใจไปให้กับสิ่งอื่น โดยที่ไม่พลาดจังหวะสำคัญไป
อย่างไรก็ตามระบบการแข่งขันแบบนี้ก็ถือเป็นดาบสองคม เพราะในระหว่างที่ผู้ชมใช้สมาธิไปกับกิจกรรมอื่นๆ มันก็มีโอกาสที่พวกเขาจะลืมหรือเพิกเฉยการแข่งขันที่อยู่ตรงหน้าไปในเวลาอันรวดเร็ว
เพราะฉะนั้นบรรดาผู้จัดการแข่งขันจึงต้องคิดค้นวิธีให้ผู้ชมรู้สึกมีสมาธิกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการแสดงอื่นๆ เพื่อดึงดูดความสนใจ หรือที่ได้ผลมากที่สุดก็คือการให้ผู้คนเหล่านั้นมีส่วนร่วมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
หนึ่งในวิธีการที่พวกเขาใช้ก็คือการจับกล้องไปที่ผู้ชมในสนาม พร้อมกับเชิญชวน แกมบังคับ ให้ผู้คนเหล่านั้นทำตามที่พวกเขาสั่ง ที่เห็นกันบ่อยๆ ก็คงจะเป็น Kiss Cam (จับคู่ไหน คู่นั้นต้องจูบกัน) และ Dance Cam (จับใคร คนนั้นเต้น)
อย่างไรก็ตามอีกหนึ่งกิจกรรมการจับกล้องที่ได้ผลไม่น้อยก็คือ Chug Cam (กล้องจับไปที่ใคร คนนั้นหมดแก้ว) เพราะกิจกรรมชนิดนี้สามารถเรียกเสียงลุ้น เสียงเชียร์จากผู้ชมได้ทั้งสนาม
มิหนำซ้ำถ้ามองในแง่ของธุรกิจ คนที่กระดกหมดแก้วก็มีสิทธิ์ที่จะเดินไปซื้อเครื่องดื่ม (ที่ส่วนใหญ่มักจะเบียร์) มาเพิ่ม ส่วนคนที่อยากให้กล้องมาจับ ก็ต้องซื้อเครื่องดื่มเตรียมเอาไว้
สำหรับแฟนกีฬาท่านไหนอยากหากิจกรรมที่จะทำให้ท่านกระดกเครื่องดื่มหมดแก้ว ไปพร้อมกับเพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆ ก็มาเจอกันได้ที่งาน "เมรัยไทยแลนด์"
“มาเม้าเหล้า เม้าเบียร์ เม้ามันส์” ไปด้วยกัน กับงานที่ให้เราสังสรรค์อย่างสร้างสรรค์ งานที่จะขับเคลื่อน เฉลิมฉลอง และเชิดชูวัฒนธรรม กับสุรา ท้องถิ่นและคราฟต์เบียร์จากทั่วประเทศไทย ที่งาน "เมรัยไทยแลนด์"
27 NOV - 3 DEC 2024 at Em Glass, Em Yard, G fl. Emsphere