หน้าแรกแกลเลอรี่

เรดบูลล์ป้องบัลลังก์ F1 "อัลบอน" ต้องดีกว่าเดิม

ไทยรัฐฉบับพิมพ์

25 ก.พ. 2567 05:18 น.

อีกแค่ไม่กี่อึดใจ การแข่งขันรถแข่งที่เรียกว่าเร็วที่สุดในโลกอย่างรถสูตรหนึ่งชิงแชมป์โลก ประจำปี 2024 “เอฟวัน 2024” ที่เตรียมเปิดฉากสนามแรก รายการ “บาห์เรน กรังด์ปรีซ์” ที่สนามบาห์เรน อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต ระหว่างวันที่ 29 ก.พ.–2 มี.ค.นี้

เรียกได้ว่าปีนี้เป็นอีกหนึ่งปีที่ศึก “ฟอร์มูล่าวัน” จะฟาดฟันกันอย่างเข้มข้นอีกครั้ง โดยเฉพาะบรรดาทีมยักษ์ใหญ่อย่างเมอร์เซเดส เอเอ็มจี, เฟอร์รารี่ รวมถึง แอสตัน มาร์ติน ที่ต่างจะรวมหัวเพื่อที่จะกระชาก เรดบูลล์ เรซซิ่ง ให้ลงจากบัลลังก์แชมป์โลกให้ได้

สำหรับในปีนี้ศึก “ฟอร์มูล่า วัน 2024” ได้จัดการแข่งขันทั้งหมด 24 สนามด้วยกัน ประกอบด้วย บาห์เรน, ซาอุดีอาระเบีย, ออสเตรเลีย, ญี่ปุ่น,จีน, สหรัฐอเมริกา 3 สนาม, อิตาลี 2 สนาม, โมนาโก, แคนาดา, สเปน, ออสเตรีย, สหราชอาณาจักร, ฮังการี, เบลเยียม, เนเธอร์แลนด์, อาเซอร์ไบจาน, สิงคโปร์, เม็กซิโก, บราซิล, กาตาร์ และปิดท้ายที่สหรัฐอาหรับ
เอมิเรตส์

หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมปี 2024 ถึงมีสนามแข่งมากกว่าปี 2023 ถึง 2 สนามด้วยกัน ซึ่งจริงๆแล้วไม่ได้มากกว่า แต่ในปีที่ผ่านมามี 2 สนามต้องยกเลิกไปนั้นก็คือที่เซี่ยงไฮ้ อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต ประเทศจีน ที่มีข้อจำกัดเรื่องโควิด ส่วนอีกสนามก็คือศึก “เอมิเลีย โรมันญา” ที่อิตาลี ซึ่งได้รับผลกระทบต่อน้ำท่วมใหญ่จนแข่งไม่ได้ ซึ่งในปีนี้ทั้ง 2 สนามก็กลับเข้ามาสู่ในโปรแกรมอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม ก่อนการแข่งขันฤดูกาล 2024 จะเปิดฉากขึ้นก็มีข่าวใหญ่ในวงการ “เอฟ วัน” เกิดขึ้นเมื่อลูอิส แฮมิลตัน นักขับอดีตแชมป์โลก 7 สมัยชาวผู้ดี ได้ตัดสินใจอำลาเมอร์เซเดส เอเอ็มจี หลังจบฤดูกาลนี้พร้อมย้ายไปขับให้กับ “ม้าลำพอง” เฟอร์รารี่ ในปี 2025

เรียกได้ว่าข่าวนี้เป็นข่าวสุดช็อกแห่งปีในวงการฟอร์มูล่า วัน ก็ว่าได้ เพราะก่อนหน้านี้ไม่มีใครคาดคิดว่านักขับวัย 39 ปี จะตัดสินใจย้ายออกจากอู่ข้าวอู่น้ำอย่างเมอร์เซเดสที่เขาเคยสร้างสถิติคว้าแชมป์โลกได้ถึง 7 ครั้งด้วยกัน

ซึ่งการประกาศก็ทำให้ตลาดซื้อขายนักแข่งในปี 2025 เดือดแน่นอนเพราะที่นั่งที่ว่างในทีมเมอร์เซเดสนั้นก็ยังไม่รู้ว่าจะหาใครมาแทนที่ ซึ่งหาก เมอร์เซเดส เลือกนักแข่งจากทีมคู่แข่งมาแทนแฮมิลตัน ก็จะทำให้อย่างน้อยจะมีที่ว่างในทีมเอฟวันอย่างน้อย 1 ที่ ไม่แน่ปีหน้าเราอาจจะได้เห็นนักแข่งหน้าใหม่ใน “เอฟวัน 2025” แน่นอน

เรื่องของปี 2025 นั้นก็ต้องวางไปก่อน มาดูในปีนี้แต่ละทีมก็ยังไม่มีการเปลี่ยนไลน์อัปนักแข่งแต่อย่างใด โดยเต็งหนึ่งเรดบูลล์ เรซซิ่ง เจ้าของแชมป์ทีมผู้ผลิต 3 สมัยติดที่ยังมีแม็กซ์ เวอร์สแตปเพน เจ้าของแชมป์โลก 3 สมัย จับคู่กับเซร์คิโอ เปเรซ นักขับจากเม็กซิกัน

ขณะที่เมอร์เซเดส เอเอ็มจี มีลูอิส แฮมิลตัน อดีตแชมป์โลก 7 สมัย ผนึกกำลังจอร์จ รัสเซลล์ นักขับหนุ่มดาวรุ่งพุ่งแรงชาติเดียวกัน ส่วนเฟอร์รารี่ ยังใช้ชาร์ล เลอแคลร์ กับคาร์ลอส ซายน์ เป็นคู่หูกันเหมือนเดิม ด้านแอสตัน มาร์ติน นำทัพโดยเฟร์นานโด อลอนโซ อดีตแชมป์โลก 2 สมัยชาวกระทิง จับคู่กับแลนซ์ สตอลล์ นักขับจากแคนาดา

สำหรับในปี 2024 ก็ยังมีนักขับไทยอย่าง อเล็กซานเดอร์ อัลบอน นักขับเลือดไทยลงทำการแข่งขันในนามทีมวิลเลียมส์ เรซซิ่ง เหมือนเดิม ซึ่งในปีที่ผ่านมา อัลบอนโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมเก็บได้ถึง 27 แต้มด้วยสภาพรถที่เป็นรองบรรดาทีมอื่นๆอยู่เยอะ ผงาดขึ้นมารั้งอันดับ 13 บนตารางรวมคะแนนโลก

เรียกได้ว่าเป็นงานท้าทายของอัลบอนมากๆ โดยในปีนี้เจ้าตัวได้ตั้งเป้าที่จะทำผลงานให้ดีมากขึ้นกว่าเดิม และแว่วๆว่าลงทำการฝึกซ้อมอย่างหนักมากกว่าเดิมไปอีกเพื่อจะท้าทายเป้าหมายที่ตัวเองตั้งเป้าเอาไว้ทำให้ดีกว่าเดิม

และในปีนี้อัลบอนก็ยังได้รับการสนับสนุนจากมอนซูน แวลลีย์ ไร่องุ่นชื่อดังของไทยเข้าไปเป็นผู้สนับสนุนหลักของนักขับวัย 27 ปีอีกครั้ง

สำหรับสถานการณ์ในการไล่ล่าแชมป์ในปีนี้ ทั้ง 3 ทีมผู้ท้าชิงไม่ว่าจะเป็นเมอร์เซเดส เอเอ็มจี, เฟอร์รารี่ และแอสตัน มาร์ติน ต่างก็พร้อมใจที่จะสอย “เรดบูลล์ เรซซิ่ง” ลงจากบัลลังก์ให้ได้

แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะจากฟอร์มของเวอร์สแตปเพน ยังไม่มีทีท่าว่าฟอร์มจะดร็อปลงเลย โดยในปี 2023 หนุ่มนักขับเลือดดัตช์โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมทำลายสถิติซิวแชมป์มากที่สุดในปีเดียว สามารถกวาดแชมป์ไปได้ถึง 19 สนามจาก 22 สนามที่ลงทำการแข่งขัน พลาดไปเพียงแค่ 3 สนามเท่านั้นที่ไม่ได้แชมป์

จากฟอร์มที่ยอดเยี่ยมของแม็กซ์ในปีที่แล้วทำให้ในปีนี้ก็ต้องมาลุ้นกันว่าเจ้าตัวจะสามารถรักษาฟอร์มของตัวเองเพื่อเดินหน้าคว้าแชมป์โลกเป็นสมัยที่ 4 ได้หรือไม่

หรือจะเป็นแฮมิลตันที่จะคืนฟอร์มส่งท้ายให้กับเมอร์เซเดส หรือจะเป็นเลอแคลร์ ที่จะเค้นฟอร์มพาเฟอร์รารี่ กลับมาคว้าแชมป์ครั้งแรกในรอบ16ปี

เรียกได้ว่า “เอฟวัน ปี 2024” เป็นอีกปีที่น่าจับตามองว่าจะมีใครโค่นบัลลังก์ของ “เวอร์สแตปเพน” ได้หรือไม่?? หรือจะเป็น “แม็กซ์” ที่จะสานต่อความสำเร็จของตัวเองต่อไปอีกปี!!

ชานนท์ กล่ำดิษฐ์...เรื่อง

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่