หน้าแรกแกลเลอรี่

อนาคตกีฬาไทย

ไทยรัฐฉบับพิมพ์

30 ม.ค. 2566 05:13 น.

ในปี 2566 ถือได้ว่าเป็นอีกปีที่วงการกีฬาไทยโดยเฉพาะนักกีฬาทีมชาติจะต้องพิสูจน์ศักดากับการเข้า ร่วมการแข่งขันมหกรรมกีฬาในหลาก หลายรายการ

เริ่มต้นที่ซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ระหว่าง 5-17 พ.ค.2566 ที่กัมพูชา โดยมี 37 ชนิดกีฬาให้มวลหมู่นักกีฬาในอาเซียนได้ชิงชัยกันถึง 608 เหรียญทอง

“กัมพูชาเกมส์” เป็นอีกครั้งที่เจ้าภาพยังไม่สามารถก้าวข้ามกับดักหรือวังวนเดิมๆที่มุ่งหวังเพื่อคว้าเหรียญทองให้ชาติตนเองมากที่สุดดังที่ผ่านๆมา

เพราะล่าสุดชนิดกีฬาหรืออีเวนต์ต่างๆก็ยังไม่ลงตัวทำให้ชาติสมาชิกต่างวิตกกังวลกันไม่น้อยพอเสร็จภารกิจซีเกมส์ไม่กี่เดือนทัพนักกีฬาไทยต้องไล่ล่าทองเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่จีนต่อ ระหว่างวันที่ 13 ก.ย.ถึง 8 ต.ค. หลังจากต้องเลื่อน มาจากปีที่แล้วด้วยเหตุการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

จากนั้นกลับมาที่สยามเมืองยิ้มกับเอเชียน อินดอร์เกมส์ ครั้งที่ 6 วันที่ 6-17 พ.ย.2566 ที่ไทยรับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพโดยใช้สังเวียนของสองเมืองหลักคือกรุงเทพฯและชลบุรี

ความท้าทายของทัพไทยในปี 2566 นอกจากมหกรรมดังกล่าวแล้ว อีกหนึ่งบทพิสูจน์ศักยภาพนัก กีฬาไทยคือการเก็บแต้มไล่ล่าโควตาปารีสเกมส์ 2024

เมื่อกล่าวถึงการเข้าร่วมการแข่งขันรายการต่างๆของนักกีฬาไทยแล้วแน่นอนเป้าหมายคือการบรรลุความสำเร็จตามความคาดหวัง

เมื่อกล่าวถึงความหวังและโอกาสของวงการกีฬาไทยในปี 66 คงจะสอดคล้องกับความคิดเห็นของประชาชนที่ผ่านการสำรวจของ “KBU SPORT POLL” โดยศูนย์นวัตกรรมการพัฒนาทุนมนุษย์ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิตเมื่อเร็วๆนี้ที่เจาะประเด็นเรื่อง “ความหวังและโอกาสกีฬาไทยในปี 66”

ซึ่งผลการสำรวจเมื่อเจาะไปที่ความหวังและโอกาสของความสำเร็จทัพนักกีฬาไทยกับการเข้าร่วมมหกรรมกีฬาระดับนานาชาติกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่คาดหวังนักกีฬาไทยครองเจ้าเหรียญทองในกัมพูชาเกมส์

ถึงวันนี้ถ้าถามว่าทัพนักกีฬาไทยจะก้าวไปไกลและสร้างผลงานจากการเข้าร่วมมหกรรมต่างๆได้มากน้อยแค่ไหน งบประมาณหรือเม็ดเงินที่จะเข้ามาสนับสนุนคงเป็นหนึ่งในตัวแปรสำคัญสำหรับสมาคมกีฬาต่างๆ

ปัญหาเรื่องเม็ดเงินหรืองบสนับสนุนทัพนักกีฬาภายใต้การบริหารจัดการของกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาตินั้นหากมีการติดตามข่าวจะเห็นว่าเป็นเงาคอยตามมาหลอกหลอนจนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในสภากาแฟอีกจนได้

การขับเคลื่อนการพัฒนากีฬาชาติให้ประสบความสำเร็จบรรลุเป้าหมายตามแผนยุทธศาสตร์ดังที่กำหนดจะเป็นไปได้หรือไม่หลักๆอยู่ที่งบประมาณในการจัดสรรให้กับสมาคมกีฬา

คิดง่ายๆถ้าสมาคมกีฬาพร้อมมีงบประมาณอย่างเพียงพอก็จะส่งผลให้นักกีฬากินอิ่มนอนหลับจากนั้นความสำเร็จก็ไม่ไกลเกินเอื้อม

แต่เมื่อใดที่งบขาดมือนักกีฬาต้องอดๆอยากๆ ขวัญกำลังใจก็หดหายด้วยเช่นกัน ถึงตอนนั้นคงไม่ต้องคิดถึงความสำเร็จ

บอกเลยถึงตอนนี้นอกจากลุ้นเรื่องความสำเร็จของนักกีฬาเพื่อเป้าหมายเหรียญทองแล้ว สิ่งสำคัญคือลุ้นให้สมาคมกีฬาได้รับงบประมาณที่เต็มเม็ดเต็มหน่วยและทันเวลา

ตอนนี้อยู่ที่พี่ใหญ่ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานโอลิมปิกไทย ว่าจะเป็นที่พึ่งยามยากให้กับนักกีฬาและสมาคมได้มากน้อยแค่ไหน

อยู่ที่ท่านว่าต้องการให้นักกีฬาและสมาคมหลุดจากหลุมดำเพื่อก้าวไปสู่ความสำเร็จหรือเปล่า

ถ้าขจัดไปได้ไม่ใช่แค่ “ฮีโร่” ของนักกีฬาและสมาคมแต่ยังเป็นสุดยอดของวงการกีฬาอีกด้วย.

โจโจ้ซัง