หน้าแรกแกลเลอรี่

แดเนียล เคร็ก : สายลับ 007 ผู้คลั่งไคล้ใน ลิเวอร์พูล และ แอสตัน มาร์ติน

ไทยรัฐออนไลน์

13 ต.ค. 2564 15:49 น.

ทำความรู้จักกับ แดเนียล เคร็ก ผู้รับบท เจมส์ บอนด์ สายลับรหัส 007 โดยมีไลฟ์สไตล์ด้านกีฬา เป็นแฟนบอลทีม ลิเวอร์พูล และ หลงรักในรถ แอสตัน มาร์ติน

หากพูดถึงภาพยนตร์สายลับที่ดังอันดับต้นๆ ของโลก ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าจะต้องนึกถึงชายสายลับเลือดอังกฤษที่ใส่สูทพร้อมกับใบอนุญาตฆ่าที่วิ่งไปทั่วโลกและหายตัวได้เนียนที่สุด ซึ่งชายคนนี้เป็นที่รู้จักกันชื่อ เจมส์ บอนด์ รหัส 007 ของหน่วย MI6 

แน่นอนว่า หนังเรื่องนี้ไม่ใช่หนังใหม่ เพราะมีมาตั้งแต่ปี 1962 และมีมาแล้วมาถึง 27 ภาค นอกจากนี้ นักแสดงที่มาสวมบทบาท "เจมส์ บอนด์" ก็ไม่ได้มีแค่คนเดียวแต่มีมากถึง 6 คนด้วยกัน ซึ่งความพิเศษของนักแสดงคนล่าสุดอย่าง "แดเนียล เคร็ก" เป็นชายผู้รับบท 007 ตั้งแต่ปี 2006 ซึ่งได้ปิดฉากภาคสุดท้ายไปแล้วในเวลานี้จาก ภาคล่าสุดที่มีชื่อว่า "พยัคฆ์ร้ายฝ่าเวลามรณะ" หรือ No Time To Die ซึ่งสรุปได้ว่าเขารับบทนี้อยู่นานถึง 15 ปี ซึ่งถือเป็นคนที่รับบทนี้ได้นานที่สุดในประวัติศาสตร์ 

ใครจะไปรู้ว่า แดเนียล เคร็ก ปัจจุบันในวัย 53 ปี เป็นแฟนบอลตัวยงที่คลั่งไคล้ในทีม "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เป็นอย่างมากและมีบ่อยครั้งมากที่เขาจะเข้ามานั่งชมเกมในถิ่น แอนฟิลด์

มิหน่ำซ้ำยังถ่ายรูปคู่กับนักเตะและทีมงานของ "หงส์แดง" มาแล้วมากมายไม่ว่าจะเป็น สตีเวน เจอร์ราร์ด, แบรนดอน ร็อดเจอร์ส (สมัยเป็นกุนซือให้ ลิเวอร์พูล) และยังรวมถึง จอห์น เฮนรี ผู้บริหารของลิเวอร์พูล อีกด้วย และ แน่นอนว่า นักเตะชุดปัจจุบัน เจ้าตัวก็ไม่พลาดที่จะไปร่วมชักภาพและผู้คุยกับทีมชุดปัจจุบันมาหมดแล้วทั้งสิ้น 

นอกจากเป็นแฟนบอลของ ลิเวอร์พูล แล้วนั้น หลายคนมองว่าเขาคือเจ้าของยี่ห้อรถยนต์ชื่อดังอย่าง แอสตัน มาร์ติน (Aston Martin) โดยตัวอย่างที่เห็นได้ชัดๆ ในภาพยนตร์ เจมส์ บอนด์ 5 ภาค ที่เขาเป็นนักแสดงนำรถเกือบทุกคันที่ตัวเอกขับเป็นยี่ห้อนี้ทั้งสิ้น 

ซึ่ง เจมส์ บอนด์ ทั้ง 5 ภาค มีรถที่มียี่ห้อ Aston Martin โผล่เข้ามาเป็นพระเอกหลักถึง 3 คัน ซึ่งไม่น่าเชื่อเลยว่ารถทั้ง 3 คันที่เข้ามาร่วมในฉากล้วนแล้วแต่เป็นของ MR. เคร็ก ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น รุ่น DBS (จากภาค Casino Royale และ No Time To Die), รุ่น DB5 ที่ปรากฏตัวในภาค Skyfall เป็นครั้งแรก และโผล่ออกมาอีก 2 ภาคที่เหลือ (Spectre และ No Time To Die) และ รุ่น DB10 ที่โผล่มาในภาค Spectre เพียงภาคเดียวแต่ได้รับโอกาสโชว์มากไม่ต่างจากรุ่น DB10 

นอกจากนี้ รถอีกหลายคันที่เข้ามาร่วมในฉากที่ไม่ใช่ยี่ห้อ Aston Martin ก็มี MR. เคร็ก เป็นเจ้าตัว อาทิเช่น Range Rover Sport ที่โผล่มาในภาคสุดท้าย, Jaguar XJ และ Ford Mondeo อีกด้วย 

ความที่เขาเป็นคนชอบสะสมรถยนต์มากมายโดยเฉพาะกับยี่ห้อ Aston Martin ทางเจ้าของแบรนด์จึงสนับสนุนให้นำเข้าฉากและทุกๆ การโปรโมต 007 ทุกภาค แอสตัน มาร์ติน จะทำแคมเปญกับวงการ F1 ไม่น้อยโดยการเปลี่ยนลายรถใหม่เพื่อเป็นการโปรโมตหนังสายลับ อีกทั้งยังเชิญให้ เคร็ก ไปที่สนามแข่ง F1 และ ร่วมโปรโหมดอยู่เป็นประจำ 

ซึ่งภาคล่าสุดอย่าง No Time To Die ทาง Aston Martin ก็ได้โปรโมตหนังเรื่องนี้ด้วยการติดสติกเกอร์ เป็นรหัส 007 ไว้ที่ข้างรถอีกด้วย และยังมีการทำคลิปออกมาเป็นการนำรถทุกรุ่นที่ใช้ในการถ่ายทำ 007 ให้นักขับ F1 อย่าง เซบาสเตียน เวทเทล แชมป์โลก 4 สมัย ได้ลองขับอีกด้วย 

การจากลาบท "เจมส์ บอนด์" ของ แดเนียล เคร็ก คงเป็นที่แปลกใจไม่น้อยว่าเพราะเหตุใดถึงได้ทิ้งบท โดยเจ้าตัวได้เปิดเผยว่า เขาเป็นคนไม่ใช้สตันมากเท่าไรนัก และจะแสดงคิวบู๊ด้วยตัวเองและเมื่ออายุที่มากถึง และ สภาพร่างกายที่ไม่เหมือนเดิม (เช่น สมัยหนุ่มๆ) จึงเป็นเหตุผลหลักให้ต้องลาจากบทนี้ และนี่ถือเป็นการจากลาบท 007 แบบงดงามของ "แดเนียล เคร็ก"