หน้าแรกแกลเลอรี่

"พาณิภัค" Vaccine

บี บางปะกง

26 ก.ค. 2564 09:20 น.

สุขสมอารมณ์หมายกันทั่วทั้งประเทศอย่างแท้จริงครับ

กับการคว้าเหรียญทองของ “น้องเทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ สาวน้อยจากแดนใต้ สุราษฎร์ธานี

ที่ประกาศศักดา ซิวแชมป์เทควันโด รุ่น 49 กก. หญิง ในมหกรรมกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติ “โอลิมปิก โตเกียวเกมส์ 2020” มาคล้องคอได้สำเร็จอย่างยิ่งใหญ่

นับเป็นการประเดิมเหรียญแรก ของทัพนักกีฬาไทยในโอลิมปิกครั้งนี้ อย่างชนิดดังกระหึ่มโลก

เพราะเป็นการเปิดหัวด้วย “Gold Medal” อย่างชุ่มชื่นหัวใจเป็นที่สุด

เข้าทำนอง ‘เมื่อเริ่มต้นดี (เลิศ) ก็มีชัยไปกว่าครึ่ง’ ยังไง ยังงั้น.. เลยล่ะ !!

การซิวเหรียญทองโอลิมปิกในคราวนี้ ทำให้ "น้องเทนนิส" สร้างประวัติศาสตร์หลายอย่างเชียวครับ

ไม่ว่าจะเป็นทองแรก ของกีฬาเทควันโดไทยที่ทำได้สำเร็จ หลังจากที่เพียรพยายามกันมานานร่วมสองทศวรรษ

เป็นเบอร์ 1 โลกในวงการเทควันโดรุ่นพิกัดนี้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยที่ผ่านมาเธอกวาดแชมป์เมเจอร์มาแล้วเรียบวุธ ทั้งศึกชิงแชมป์โลก, เวิลด์ แกรนด์สแลม, เวิลด์ กรังด์ปรีซ์, เอเชียนเกมส์, ชิงแชมป์เอเชีย, กีฬามหาวิทยาลัยโลก, ยูธโอลิมปิก และ ซีเกมส์

จะขาดก็แต่เพียง "เหรียญทองโอลิมปิก" ซึ่งในที่สุดหญิงแกร่งวัย 23 ปี อย่าง “น้องเทนนิส” ก็ทำมันได้สำเร็จแล้วจริงๆ หลังจากที่ตัวเธอเคยอกหัก ได้แค่เหรียญทองแดงในริโอ เกมส์เมื่อ 5 ปีที่แล้ว อย่างเจ็บปวด

จารึกชื่อในทำเนียบฮีโร่ นักกีฬาผู้คว้าทองโอลิมปิกเกมส์เป็น “คนที่ 10” ให้กับประเทศไทยต่อจาก สมรักษ์ คำสิงห์ (มวยสากล ปี 1996), วิจารณ์ พลฤทธิ์ (มวยสากล ปี 2000), มนัส บุญจำนงค์ (มวยสากล ปี 2004), อุดมพร พลศักดิ์ (ยกน้ำหนัก ปี 2004), ปวีณา ทองสุก (ยกน้ำหนัก ปี 2004)

สมจิตร จงจอหอ (มวยสากล ปี 2008), ประภาวดี เจริญรัตนธารากูล (ยกน้ำหนัก ปี 2008), โสภิตา ธนสาร (ยกน้ำหนัก ปี 2016) และสุกัญญา ศรีสุราช (ยกน้ำหนัก ปี 2016)

เท่านั้นยังไม่พอ “น้องเทนนิส” หรือชื่อเต็มยศ เรืออากาศตรีหญิง พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ ยังสร้างสถิติเป็นนักกีฬาไทยคนที่ 4 ต่อจาก มนัส บุญจำนงค์, วันดี คำเอี่ยม และพิมศิริ ศิริแก้ว ที่ได้เหรียญรางวัลโอลิมปิก 2 สมัยซ้อนอีกต่างหาก

ซึ่งด้วยอายุอานามเพียงแค่ยี่สิบต้นๆ แบบนี้ เชื่อว่าเธอน่าจะได้ลุ้นล่าเหรียญต่อไปอีกสมัย ในโอลิมปิกครั้งหน้า 2024 ที่ปารีสค่อนข้างแน่!!

และจากความสำเร็จของน้องเทนนิสที่เกิดขึ้น มันทำให้ผมนึกย้อนอดีตถึงการบริหารงานของสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย ที่ทำงานหนักสืบต่อกันมา

ตั้งแต่ยุคของ ดร.ณัฐ อินทรปาณ ไอโอซีเมเบอร์ผู้ล่วงลับ, “บิ๊กหอย” ธวัชชัย สัจจกุล รวมทั้ง ปรีชา ต่อตระกูล ผู้บริหารคนเก่ง

จนกระทั่งมาถึง “บิ๊กเอ” ผศ.พิมล ศรีวิกรณ์ ประมุขเทควันโดคนปัจจุบัน ที่มาพร้อมยุคเรืองรองของเทควันโดบ้านเรา อย่างไม่เคยปรากฎมาก่อน

ไล่ตั้งแต่การลงทุนจ้างโค้ช ‘เช ยอง ซอก’ เข้ามาปฏิวัติวงการจอมเตะไทย ให้แข็งแกร่งขึ้นเมื่อ 19 ปีที่แล้ว

จนกลายเป็นกีฬาความหวังในโอลิมปิกทุกสมัยที่ผ่านมาตั้งแต่ เอเธนส์เกมส์ 2004 ที่ไทยเราได้เหรียญทองแดงแรกจาก “วิว” เยาวภา บูรพลชัย และไม่เคยพลาดเหรียญรางวัลอีกเลย ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

เหลือแค่ “เหรียญทอง” อันเป็นสุดยอดปรารถนา เพียงเหรียญเดียว ซึ่ง “น้องเทนนิส” ก็มาทำฝันของนายกพิมล ให้เป็นความจริงจนได้ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

เรียกว่าผลงาน (ยิ่งกว่า) ชิ้นโบแดงในครั้งนี้ นับเป็นความสำเร็จร่วมกันของบุคลากรทุกคนตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันของวงการเทควันโดไทยโดยแท้

ที่สำคัญมันยังเป็น “วัคซีน” (Vaccine) ขนานเอก ที่ช่วยเยียวยาความทุกข์อันแสนสาหัส ของผู้คนทั้งประเทศได้เป็นอย่างดี

จดลิขสิทธิ์ไว้ได้เลย.. ‘พาณิภัค’ Vaccine

วัคซีนชนิดเดียวที่ใช้บรรเทาวิกฤติ โควิด-19 ในบ้านเรา

ให้เบาบางลงได้...อย่างชะงัดดีนักแล !!!


- บี บางปะกง -

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง