หน้าแรกแกลเลอรี่

"ชุติกาญจน์" พร้อมดวลนักปั่นแชมป์โลกในโอลิมปิก 2020 เผยผลตรวจโควิด "จุฑาธิป"

ไทยรัฐออนไลน์

20 ก.ค. 2564 15:23 น.

ชุติกาญจน์ กิจวานิชเสถียร เผยความพร้อมก่อนดวลแชมป์โลก-แชมป์จักรยานรายการใหญ่ในโอลิมปิก 2020 พร้อมเผยผลตรวจโควิด-19 ของ จุฑาธิป มณีพันธุ์

วันที่ 20 ก.ค. 64 “เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า คณะนักกีฬาจักรยานทีมชาติไทยที่จะเดินทางไปแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ “โตเกียว 2020” ที่ประเทศญี่ปุ่น ชุดที่ 2 ต่อจาก “บีซ” ร้อยโทหญิง จุฑาธิป มณีพันธุ์ นักปั่นประเภทถนนหญิง คือทีมจักรยานบีเอ็มเอ็กซ์เรซซิง ประกอบด้วย “น้องฟ้า” น.ส.ชุติกาญจน์ กิจวานิชเสถียร และ “มิ้ง” น.ส.วรัญญา แซ่แต้ นักกีฬาตัวสำรอง พร้อมด้วย “โค้ชบอส” นายอัถร ไชยมาโย

สำหรับนักกีฬาทั้งสองคนปักหลักฝึกซ้อมอยู่ที่จังหวัดสุพรรณบุรี โดยมี มร.อดัม แครีย์ ผู้ฝึกสอนชาวออสเตรเลีย เป็นผู้กำหนดแผนการฝึกซ้อมของนักกีฬาผ่านระบบออนไลน์ เนื่องจาก มร.อดัม ยังไม่สามารถเดินทางกลับมายังประเทศไทยได้ เพราะรัฐบาลออสเตรเลียห้ามประชาชนของเขาเดินทางออกนอกประเทศ ส่วน โค้ชอัถร ไชยมาโย เป็นผู้ควบคุมดูแลการฝึกซ้อมอย่างใกล้ชิด และรายงานผลการฝึกซ้อมส่งกลับไปให้ มร.อดัม วิเคราะห์ทุกวัน

พลเอกเดชา กล่าวว่า การแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้ ชุติกาญจน์ จะต้องเจอเกมการแข่งขันที่หนักมาก เพราะคู่แข่งแต่ละชาติที่มาจากยุโรป, ออสเตรเลีย และอเมริกา ล้วนแต่เป็นนักปั่นดีกรีระดับแชมป์โลกและแชมป์รายการใหญ่ๆ ทั้งนั้น ขณะที่นักกีฬาจากทวีปเอเชียมีเพียงเจ้าภาพญี่ปุ่น กับ ชุติกาญจน์ จากประเทศไทย 2 ชาติเท่านั้น

อีกทั้งการเตรียมทีมฝึกซ้อมของ “น้องฟ้า” ก็มีเวลาค่อนข้างจำกัด เพราะหลังจากที่ ชุติกาญจน์ และ วรัญญา ไปแข่งขันรายการ “ยูซีไอ บีเอ็มเอ็กซ์ เวิลด์คัพ ซูเปอร์ครอส” ที่กรุงโบโกตา ประเทศโคลอมเบีย เมื่อวันที่ 29-30 พฤษภาคม ก็ต้องกลับมากักตัวเป็นเวลา 14 วัน จนถึงวันที่ 17 มิถุนายน จึงได้ออกจากโรงแรมซึ่งเป็นสถานที่กักตัว ทำให้มีเวลาฝึกซ้อมประมาณ 1 เดือนเท่านั้น

นายกสองล้อไทย กล่าวอีกว่า การแข่งขันบีเอ็มเอ็กซ์ในโอลิมปิกเกมส์ 2020 ประเภทเรซซิงหญิง มีนักกีฬาเข้าชิงชัยจำนวน 24 คน แข่งขันระหว่างวันที่ 29-30 กรกฎาคม ที่สนามบีเอ็มเอ็กซ์ภายในกรุงโตเกียว โดยวันที่ 29 กรกฎาคม เป็นการแข่งขันรอบคัดเลือก ส่วนวันที่ 30 กรกฎาคม เป็นการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ

ทั้งนี้ สมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้ตั้งเป้าหมายเอาไว้ว่าขอให้ ชุติกาญจน์ ผ่านเข้ารอบลึกที่สุด ขณะที่ “บีซ” ร.ท.หญิง จุฑาธิป มณีพันธุ์ จะลงแข่งขันประเภทถนนหญิง ในวันที่ 25 กรกฎาคม เป็นการแข่งแบบวันเดียวจบ ระยะทาง 137 กม. เป้าหมายก็คือแข่งขันจบแบบมีอันดับ แต่หากจะให้ติด 1 ใน 10 อันดับแรก คงค่อนข้างยาก อย่างไรก็ตาม นักกีฬาทั้ง 2 คน มีความมุ่งมั่นอย่างมากที่จะทำผลงานให้ดีที่สุด ขอให้พี่น้องชาวไทยช่วยส่งแรงใจเชียร์นักกีฬาจักรยานของไทยลงชิงชัยในโอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้ด้วย

ส่วน “โค้ชบอส” นายอัถร เปิดเผยว่า ตอนนี้สภาพร่างกายของ ชุติกาญจน์ และ วรัญญา มีความสมบูรณ์เต็มร้อยทั้งคู่ แม้ว่า ชุติกาญจน์ จะยังมีอาการบาดเจ็บที่บริเวณนิ้วก้อยมือซ้าย เพราะเกิดอุบัติเหตุตอนไปแข่งขันที่ประเทศโคลอมเบีย แต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหาหรืออุปสรรคแต่อย่างใด การซ้อมที่ผ่านๆ มา ตนเองได้ปรึกษาหารือกับ อดัม แครีย์ โค้ชชาวออสเตรเลียทุกวัน โดยเน้นการแก้ไขจุดที่ยังเป็นข้อบกพร่องของ ชุติกาญจน์ คือเทคนิคการกระโดด และการทำสมาธิในการออกตัว สลับกับการเล่นฟิตเนสในโรงยิม เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กล้ามเนื้อ

ส่วนสภาพสนามแข่งขันที่ประเทศญี่ปุ่น ก่อนหน้านี้นักกีฬาบีเอ็มเอ็กซ์ของไทยก็เคยไปแข่งขันปรีโอลิมปิกเกมส์ เมื่อปลายปี 2563 จัดว่าเป็นสนามที่ไม่ยากมากนัก เพราะนักกีฬาของไทยเคยไปเจอสนามที่ยากกว่านี้มาแล้ว ส่วนเป้าหมายที่วางไว้คือพยายามให้นักกีฬาผ่านเข้ารอบลึกๆ ให้ได้

สำหรับคณะนักกีฬาจักรยานบีเอ็มเอ็กซ์ทีมชาติไทย จะเดินทางไปยังกรุงโตเกียว ในช่วงค่ำของวันที่ 21 กรกฎาคม ด้วยสายการบินเจแปนแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ JL034 เครื่องขึ้นจากสนามบินสุวรรณภูมิ เวลา 21.55 น. ใช้เวลาเดินทาง 6 ชั่วโมง 15 นาที ถึงสนามบินฮาเนดะ กรุงโตเกียว เช้าวันที่ 22 กรกฎาคม เวลาประมาณ 06.10 น. ตามเวลาท้องถิ่น โดยนักกีฬาและผู้ฝึกสอนทั้ง 3 คน จะเข้าพักอยู่ภายในหมู่บ้านนักกีฬา

ด้านความเคลื่อนไหวของ “บีซ” ร.ท.หญิง จุฑาธิป มณีพันธุ์ นักปั่นประเภทถนนหญิง เมื่อวันจันทร์ที่ 19 กรกฎาคม ที่ผ่านมา “โค้ชตั้ม” พันจ่าอากาศเอก วิสุทธิ์ กสิยะพัท ผู้ฝึกสอนคู่ใจได้ให้ จุฑาธิป ซ้อมตามแผนของ โค้ชลี เสี่ยว เล่อ ผู้ฝึกสอนชาวจีน ด้วยการปั่นระยะทาง 60-70 กม. โดยไม่เร่งความเร็วมากนัก ให้รักษาระดับการเต้นของหัวใจอยู่ในโซน 2 ซึ่ง “โค้ชตั้ม” เลือกเส้นทางให้ จุฑาธิป ปั่นภายในสนามแข่งขันรถยนต์ฟูจิ สปีดเวย์ ที่เป็นเส้นชัยของการแข่งขัน โดยสภาพสนามมีเนินสูง-ต่ำสลับกันตลอดทาง

“โค้ชตั้ม” กล่าวว่า สำหรับการฝึกซ้อมในวันอังคารที่ 20 กรกฎาคม ตนเองได้ขับรถยนต์ประจำทีมพา จุฑาธิป ข้ามไปยังเมืองที่อยู่ใกล้ๆ กับกรุงโตเกียว เพื่อให้ จุฑาธิป ปั่นข้ามภูเขาลูกใหญ่ ระยะทางประมาณ 100 กม. ซึ่งเส้นทางแข่งขันทั้งหมดระยะ 137 กม. เราไม่สามารถซ้อมรวดเดียวทั้งหมดได้ จึงแบ่งซ้อมเป็นช่วงๆ

ทั้งนี้ในวันแรกที่มาถึงญี่ปุ่นคือวันที่ 17 กรกฎาคม ซ้อมเส้นทางระยะสั้นๆ 30 กม. จากนั้น วันที่ 18 กรกฎาคม ซ้อมปั่นขึ้นภูเขาที่เป็นเส้นทางช่วงสุดท้ายก่อนเข้าเส้นชัย วันที่ 19 กรกฎาคม ซ้อมภายในฟูจิ สปีดเวย์ และวันที่ 20 กรกฎาคม ซ้อมขึ้นภูเขาที่เป็นเส้นทางช่วงแรกของการแข่งขัน นอกจากนี้ตนได้ให้ จุฑาธิป ปรับเวลาการฝึกซ้อมเริ่มตั้งแต่ 11.00 น. ของทุกวัน เพื่อให้ปรับตัวเข้ากับสภาพอากาศ เนื่องจากวันแข่งขันจริง จะเริ่มสตาร์ตเวลา 13.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น

สำหรับ “บีซ” จุฑาธิป และ โค้ชวิสุทธิ์ ทางเจ้าภาพกำหนดให้เข้ารับการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นประจำทุกวัน เช่นเดียวกับนักกีฬาชาติอื่นๆ ผลการตรวจปรากฏว่าเป็น “ลบ” ทั้งสองคน.