เบี้ยหงาย
แม้ว่าจะยังไม่มีการเซ็นสัญญาหรือ ราคาค่างวดของลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก กาตาร์ 2022 สำหรับประเทศ ไทย ราคาสุดท้ายจะเป็นอย่างไร และแม้ว่าในอาเซียน ตามข่าวที่ออกมาทุกชาติยกเว้นไทย เค้าเซ็นสัญญา มีผู้ซื้อสิทธิ์ไปดำเนินการถ่ายทอดสดกันหมดแล้ว
โดยเหลือ “ไทยแลนด์” โดดๆ เป็นประเทศสุดท้ายในอาเซียนที่ยังเว้นว่างอยู่
แต่ถึงตรงนี้ ทุกอย่างจบ คงไม่มีอะไรอีกแล้วที่จะหยุดยั้งไม่ให้ประชาชนคนไทยได้ดูการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกครั้งนี้แบบฟรีๆและครบทุกนัด
เมื่อเรามีแหล่งเงิน แถมมีกรอบวงเงินที่เพียงพออย่างสบายๆและมีมากถึง 1,600 ล้านบาท
ด้วยฟุตบอลโลกนั้น มีแค่เรื่องเดียวคือ “เงิน” จ่ายได้ก็ได้ดู มีเท่านั้น ไม่ได้เกี่ยวกับกำไร ขาดทุน ความคุ้มทุน หรืออะไรทั้งสิ้น เพราะผลที่ตามมาเป็นเรื่องของคนซื้อ
เมื่อคนซื้อไม่ต้องคำนึงถึงส่วนนี้ ก็ไม่มีเรื่องต้องคิดคำนวณอะไร
นั่นทำให้คนไทย ไม่ว่าอยู่ในสถานใด คลั่งไคล้ฟุตบอลโลกหรือไม่ อยากดูไม่อยากดู มีความสุขหรือ ทุกข์ยากมีปัญหาอะไรอยู่ และยังรวมถึงผู้คนทุกสัญชาติ ขอเพียงอยู่ในขอบเขตแดนไทย ในช่วงเวลาของการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 ซึ่งลิขสิทธิ์นี้ครอบคลุม ก็สามารถดูการถ่ายทอดสดได้อย่างเท่าเทียม
20 พ.ย.ถึง 18 ธ.ค.นี้ รอเชียร์ฟุตบอลโลกกันได้เลย!
ส่วนใครที่จะได้เครดิตจากการจะได้ชมและเชียร์ฟุตบอลโลกแบบสดๆร่วมกับชาวโลก แน่นอน มีการดำริพูดขึ้นมาจากทั้งสองลุงผู้ยิ่งใหญ่ในยุคนี้ ไม่ว่าจะเป็น “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พี่ใหญ่วงการกีฬาไทย ณ ปัจจุบัน ซึ่งก็ทราบกันดี แฟนคลับฟันธงกันเอาเอง
แอ็กชันหลังสุดเมื่อวันก่อน ที่นำมาซึ่งความชัดเจน พล.อ.ประวิตรพูดชัดเจน ตอบคำถามของผู้สื่อข่าวที่รัฐบาลจะให้ กสทช. เป็นผู้ซื้อลิขสิทธิ์ โดยท่านระบุว่า “เป็นหน้าที่ของตนที่จะต้องทำให้ได้ ซึ่งก็อยากให้ดูกัน” ทั้งบอกชัดๆว่า งบประมาณในการซื้อเป็นของ กสทช. หน่วยงานเดียว เป็นงบที่ทำเพื่อประชาชน
ในวันเดียวกัน ฝั่งของ กสทช.ก็ได้ออกมาระบุถึงกรอบวงเงิน 1,600 ล้านบาท ที่มีการร้องขอและตั้งไว้จาก กกท. โดยไม่ได้ปฏิเสธถึงจำนวน เพียงแต่ขอรอรายละเอียดว่าจะใช้ส่วนใดบ้าง สะท้อนได้ชัดเจนว่าเงินมี แม้ว่าท้ายที่สุดคงจะใช้ไม่ถึงแน่นอน
ซึ่งก็สมควรที่เจ้าภาพจะเป็น กสทช. ด้วยปมเหตุสำคัญที่ก่อให้เกิดความปั่นป่วนกับธรรมชาติในธุรกิจของลิขสิทธิ์และการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก มีประเด็นสำคัญจากกฎ “มัสต์แฮฟ” ที่ กสทช. เป็นผู้กำหนดขึ้นมา
ย้อนไปถึงคำพูดของ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่บอกว่า “เป็นหน้าที่” ที่ต้องทำให้คนไทยได้ดูฟุตบอลโลก เป็นประเด็นที่น่าสนใจ “หน้าที่” นี้ต้องเกิดขึ้นในทุกวงรอบ 4 ปี และเป็นหน้าที่เฉพาะของบุคคล หรือโดยตำแหน่ง เป็นหน้าที่ที่ต้อง “สั่งการ” ให้หน่วยงานอย่าง กสทช. ดำเนินการเป็นครั้งคราว หรือถาวร
ว่าไปแล้วหากจะทำหน้าที่ให้สมบูรณ์แบบ และเป็นที่บันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ จะเป็นลุงตู่, ลุงป้อม หรือรัฐบาลโดยรวม ก็ต้องทำให้คนไทยได้ดูฟุตบอลโลกอย่างถาวร อย่างชอบด้วยเหตุผล ไม่ต้องลุ้นเป็นครั้งคราว
ลองพิจารณาสั่งการกันนิด ถ้าไม่แก้กฎ “มัสต์แฮฟ” ก็ต้องเพิ่มพันธกิจให้ กสทช. มีหน้าที่รับผิดชอบตรงๆกันไปเลย...
“เบี้ยหงาย”