“นาบรี” ความหวังใหม่ทัพอินทรี

นับตั้งแต่คว้าแชมป์โลกปี 2014 มาครองได้สำเร็จ ทีมชาติเยอรมนี ก็มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องฟอร์มการเล่นมาตลอด มันเห็นได้ชัดหลังจบศึกยูโร 2016 ที่ฝรั่งเศส ซึ่ง “อินทรีเหล็ก” ไปไกลถึงรอบรองชนะเลิศ

จากนั้นฟอร์มเริ่มดิ่งลงเรื่อยๆ แต่ก็มาเห็นชัดเจนที่สุดในศึกฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย แม้พกดีกรีแชมป์เก่าแต่ก็ร่วงเพียงแค่รอบแรกไปอย่างช็อกทุกคน จากนั้นสถานการณ์ของ “อินทรีเหล็ก” ก็ยังไม่สู้ดีนัก ตกรอบในศึกยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก ลีกเอ อยู่ในกลุ่ม 1 แบบไม่ชนะใครเลย เสมอ 2 นัด แพ้ 2 นัด ทำให้ร่วงไปเล่นในลีกบี ในปี 2020-2021

ซึ่งหนึ่งสิ่งที่ทำให้ “อินทรีเหล็ก” ไม่แข็งแกร่งเหมือนเก่าเนื่องจากบรรดานักเตะตัวดังๆ ได้ผ่านยุครุ่งเรืองมาเกือบหมดแล้ว ยังไม่สามารถหาตัวตายตัวแทนที่จะก้าวมาเป็นสตาร์ หรือคนแบกทีมคนต่อไปได้

ทำให้โยอาคิม เลิฟต้องเร่งเสาะแสวงหานักเตะฝีเท้าดีเพื่อที่ก้าวขึ้นมาเป็นสตาร์และนำพา “อินทรีเหล็ก” กลับมาสู่ความรุ่งเรืองอีกครั้ง โดยเป้าหมายอยู่ที่ศึกฟุตบอลยูโร 2020 รอบสุดท้ายในกลางปีหน้า

และในตอนนี้ท้องฟ้าที่หม่นหมองของ “อินทรีเหล็ก” ก็มีแสงสว่างจากดาวดวงใหม่ที่พุ่งขึ้นมาพร้อมจะก้าวมาเป็นสตาร์นั่นก็คือ “แซร์จ นาบรี” มิดฟิลด์จอมยิงประตูจากค่าย “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิก ยักษ์ใหญ่จากลีกเมืองเบียร์

แข้งวัย 24 ปี เพิ่งจะระเบิดฟอร์มยิงคนเดียว 4 เม็ดพา “เสือใต้” บุกไปขย้ำคอ “ไก่เดือยทอง” ทอตแนม ฮอตสเปอร์ มาหมาดๆ ในศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก นัดล่าสุด จนทำให้คนหันมาสนใจชายที่ชื่อ “แซร์จ นาบรี” กันบ้างแล้ว

นาบรีเริ่มต้นฝึกบอลกับไวส์ชัค ในปี 1999 ก่อนจะย้ายมาเล่นทีมต่างๆ ก่อนจะโดน “ม้าขาว” สตุตการ์ต เซ็นสัญญาเข้ามาปั้นในปี 2006 ก่อนจะย้ายไปอยู่กับ “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล ในปี 2011 ซึ่งตอนนี้ นาบรีได้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งดาวรุ่งของเมืองเบียร์ที่ได้รับการจับตามอง

สถานการณ์ของนาบรี กับปืนใหญ่ ทำท่าว่าจะดี เข้าทีมมาได้ปีเดียวนาบรีก็ก้าวขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ของ “เดอะ กันเนอร์ส” ทันที แต่ก็ไม่ได้ลงเล่นมากนัก 3 ฤดูกาลลงเล่นในนาม “ปืนใหญ่” ไปเพียงแค่ 18 นัด ยิงไป 1 ประตู
ก่อนจะถูกส่งไปให้เวสต์บรอมวิช ยืมใช้งานแต่ก็เล่นไปเพียงแค่ 3 นัดเท่านั้น

เรียกได้ว่า นาบรีล้มเหลวกับการย้ายมาเล่นในอังกฤษโดยสิ้นเชิง จนทำให้เจ้าตัวต้องพาร่างอันบอบช้ำกลับมาเล่นให้กับ “นกนางนวล” แวร์เดอร์ เบรเมน ก่อนจะกลับมาระเบิดฟอร์มเก่งอีกครั้ง ลงเล่นไป 27 นัด ยิงไป 11 ประตู

จนทำให้ “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิก ต้องดึงตัวมาร่วมทีมทันที แม้ว่าในปีแรก นาบรีจะถูกส่งไปให้ฮอฟเฟนไฮม์ ใช้งาน แต่มิดฟิลด์วัย 24 ปีก็ยังทำผลงานได้ดีต่อเนื่อง ลงเล่นไป 22 นัด ยิงไป 10 ประตูด้วยกัน

หลังปล่อยไปขัดเกลาฝีมือจนได้ที่ “เสือใต้” ก็เรียกนาบรีกลับมาใช้อีกครั้งเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ซึ่งเจ้าตัวก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ลงเล่นไป 42 นัด ยิงไป 13 ประตูด้วยกัน ขณะที่ในฤดูกาลนี้ก็ลงเล่นไปแล้ว 8 นัด ยิงไป 5 ประตู

เท่านั้นยังไม่พอด้วยฟอร์มที่ร้อนแรง นาบรี ก็ลงเล่นให้กับทีมชาติเยอรมนีไปแล้ว 10 นัด ยิงไปทั้งหมด 9 ประตูด้วยกัน

ถือว่าเป็นอีกหนึ่งนักเตะที่ชั่วโมงนี้ เลิฟ ต้องฝากความหวังเอาไว้

แต่อย่างไรก็ตาม เชื่อว่านาบรียังต้องพิสูจน์ตัวเองให้เห็นอีกพอสมควร

ว่าเหมาะสมจะเป็นผู้พา “อินทรีเหล็ก” กลับมายิ่งใหญ่ได้หรือไม่!!

มะระหวาน