ไทยรัฐฉบับพิมพ์
สังหรณ์ใจอยู่แล้วเชียวนาว่าอาจจะต้องผิดหวังกับทีมสิงโตคำราม ทีมที่ “จ่าแฉ่ง” เอาใจช่วยมากกว่าทีมไหนๆทั้งหมดในฟุตบอลโลกคราวนี้
ในที่สุดก็ต้องผิดหวังจนได้ เมื่อทีม อังกฤษ เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ โครเอเชีย ไป 1-2 ประตู ในช่วงต่อเวลา
“จ่าแฉ่ง” เข้านอนตั้งแต่หัวค่ำเพื่อตุนเอาไว้ สำหรับตื่นขึ้นดูตอนตี 1 ปรากฏว่านาฬิกาปลุกไม่ทำงานและตัวเองก็เพลียมาจากคืนก่อน เลยตื่นมาตี1กับ 20 นาที
ไม่ได้เห็นการยิงประตูลูกแรกขึ้นนำ 1-0ของอังกฤษที่ คีแรน ทริปเปียร์ ปั่นลูกโทษ 25 หลา นอกเขตแบ็กข้ามกำแพงเสียบใต้คาน เพราะเขายิงไว้ตั้งแต่นาทีที่ 5
แต่ก็ชื่นใจเมื่อมองเห็นสกอร์บอร์ด ณ นาทีที่ตื่นนอนนั้นระบุไว้ว่า โครเอเชีย 0-อังกฤษ 1
พร้อมกับจินตนาการต่อไปว่าได้ประตูเร็วเช่นนี้ แปลว่าเข้าทางอังกฤษแล้วละ โครเอเชียคงจะเปลี้ยจริง เพราะเล่น 120 นาที มา 2 นัดแล้ว ประเดี๋ยวคงจะโดนถล่มต่อ ตามมาด้วยลูก 2 ลูก 3 เป็นระยะ
ที่ไหนได้อีกเพียง 5 นาที หลังจากที่ “จ่าแฉ่ง” ตื่นเต็มตาลุกขึ้นนั่งดูอย่างจริงจัง...ก็ประมาณนาที25 เป็นต้นมานั่นแหละ
ทีมตาหมากรุกกลับเป็นฝ่ายจู่โจมบุกเข้าทำประตู ชนิดอังกฤษตั้งตัวไม่ค่อยติดจวนเจียนจะถูกตีเสมอได้หลายครั้ง
ดูรูปเกมแล้วกลายเป็นตาหมากรุกเหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด และทุกครั้งที่เป็นฝ่ายบุก อังกฤษจะรวนกันไปหมด
เริ่มครึ่งหลังสถานการณ์ดูดีขึ้นมาหน่อยช่วงแรก เพราะสิงโตคำรามเริ่มเข้าทำบ้าง มีลูกหวาดเสียวบ้างอย่างน้อยก็ 1 ลูกในช่วงต้นๆของครึ่งหลัง
แต่แล้วในนาทีที่ 68 นั้นเอง ตาหมากรุกก็ตีเสมอได้สำเร็จ จากการโยนลูกจากฝั่งขวาลอยผ่านไปหน้าประตู จังหวะเดียวกับที่ อิวาน เปริซิช เกี่ยวเท้าตวัดยิงก่อนที่ ไคล์ วอล์กเกอร์ จะเข้าโหม่งสกัดเพียงเสี้ยววินาที
บอลตุงตาข่ายโครเอเชีย 1 และอังกฤษ 1
เป็นเหตุให้ต้องมาต่อเวลาและอังกฤษเป็นฝ่ายเสียประตูที่ 2 ในนาทีที่ 109 จากการซัดของมาริโอ มานด์ซูคิช ในระยะเผาขน
หลังจากนั้นแม้จะพยายามอย่างหนักที่จะเอาคืน แต่อังกฤษก็ไม่คมพอที่จะทำประตูได้...เกมจึงจบลงด้วยชัยชนะของนักเตะตาหมากรุกด้วยสกอร์ 2-1
ท่ามกลางความช็อก ความตกตะลึง และแน่นอนหลายๆคนถึงกับหลั่งน้ำตาอย่างกลั้นไม่อยู่ของแฟนๆสิงโต
รวมทั้งกองเชียร์อย่าง “จ่าแฉ่ง” ที่แม้จะไม่ถึงกับช็อกหรือตะลึงอะไรมากนัก แต่ก็อดที่จะอุทานด้วยความเสียดายมิได้ว่า “ตูว่าแล้ว”
สำนักข่าว ESPN รายงานว่า “อังกฤษพลาดโอกาสทองอย่างน่าเสียดายยิ่ง อีกเพียง 22 นาทีเท่านั้นก็จะได้เข้าชิงแชมป์โลก หลังรอคอยมา 52 ปี...แต่กลับต้องเสียประตูให้โครเอเชีย และนำไปสู่ความพ่ายแพ้ในช่วงต่อเวลา”
ในขณะที่ BBC แม้จะรายงานอย่างปลอบใจ และนำถ้อยคำปลอบใจจาก ทวิตเตอร์ ของนักฟุตบอลเก่าๆอังกฤษมาลงเต็มไปหมด
แต่ก็ยอมรับว่าทีมเด็กใหม่ของเขายังขาดประสบการณ์ จึงไม่สามารถประคองประตูนำ 1-0 เอาไว้ได้
สำหรับกุนซือ กาเร็ธ เซาธ์เกต กล่าวกับผู้สื่อข่าวประโยคหนึ่งว่า “ไม่ว่าใครก็จะต้องเจ็บปวด เมื่อผลออกมาอย่างนี้ แต่สำหรับผมยังภูมิใจกับการที่เราผ่านมาถึงจุดนี้ และพอใจกับผลงานของนักเตะของผมในคืนนี้ ผมคงไม่สามารถจะเรียกร้องอะไรจากพวกเขาได้มากไปกว่านี้อีก เพราะเขาทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างกันแล้วอย่างสุดตัว”
ในขณะที่องค์ประธานสมาคมฟุตบอลอังกฤษ เจ้าชายวิลเลียม หรือ “ดยุก ออฟ เคมบริดจ์”ทรงโพสต์ให้กำลังใจแก่นักเตะสิงโตคำรามว่า
“ข้าพเจ้าตระหนักดีถึงความผิดหวังของชาวอังกฤษในนาทีนี้ แต่ข้าพเจ้าก็รู้สึกภูมิใจในทีมฟุตบอลของเรา ขอให้พวกคุณเงยศีรษะขึ้นสูงไว้ เพราะสิ่งที่คุณทำได้ขณะนี้เป็นสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน”
พวกคุณสร้างประวัติศาสตร์รวมทั้งสร้างความเชื่อมั่นให้แก่แฟนบอลชาวอังกฤษ...พวกเรารู้ดีว่ายังมีอะไรดีๆอีกมากที่อยู่ในทีมฟุตบอลทีมนี้ของเรา”
ครับ! ก็คงต้องบรรยายถึงความเศร้าความเสียดายของกองเชียร์อังกฤษมากหน่อย และเมื่อบรรยายเสร็จสรรพ ก็คงได้เวลาที่จะกล่าวแสดงความยินดีกับทีมตาหมากรุก “โครเอเชีย” ตามธรรมเนียม
นี่คือการเข้าชิงฟุตบอลโลกครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของชนชาตินี้
“โครเอเชีย” “ฝรั่งเศส” ไม่ใช่คู่ที่ใครๆคาดคิดมาก่อนเลย แต่นี่คือวิถีของฟุตบอล เมื่อ 2 ทีมนี้เก่งที่สุด สามารถแหวกด่านมาได้จนถึงจุดนี้ ก็คงต้องยกนิ้วและปรบมือให้แก่ทั้งคู่
แล้วก็รอค่ำคืนวันอาทิตย์ที่ 15 กรกฎาคมละครับว่าเทพเจ้าแห่งฟุตบอลจะประทานชัยชนะให้แก่ทีมใด?
สำหรับท่านผู้อ่านไทยรัฐก็ได้เวลาแล้วนะครับที่จะรีบส่งไปรษณียบัตรมาทายผลว่าผู้ชนะคือทีมไหน?
รักใครมากกว่าก็ส่งสัก 60 เปอร์เซ็นต์ ส่วนทีมที่รักน้อยกว่า เก๊าะส่ง 40 เปอร์เซ็นต์เผื่อเหนียวไว้
แล้วมารอกันว่าเทพเจ้าแห่งโชคชะตาจะประทานรางวัล 10 ล้านบาทของไทยรัฐให้แก่ใครในฟุตบอลโลกครั้งนี้?
“จ่าแฉ่ง”