“หมีขาว” เริงร่า

มหกรรมฟุตบอลโลก 2018 รอบ สุดท้ายที่ประเทศรัสเซีย ระเบิดศึกฟาดแข้ง อย่างเป็นทางการไปเรียบร้อยแล้ว ที่สนามลุซนิกี สเตเดียม เมื่อคืนที่ผ่านมา โดยเกมคู่เปิดสนามจบลงด้วยชัยชนะอย่างสวยหรูของเจ้าภาพ “หมีขาว” รัสเซีย ที่ลั่นฟอร์มโหด ไล่ถล่ม “เศรษฐีน้ำมัน” ซาอุดีอาระเบีย กระจุยยับ 5-0 ประเดิมคว้าสามคะแนนเต็มในเกมแรกของกลุ่มเอ

ชัยชนะ 5-0 ของรัสเซียนัดนี้ ถือเป็นชัยชนะที่ขาดลอยที่สุดของชาติเจ้าภาพในเกมเปิดสนามฟุตบอลโลกในรอบ 84 ปี นับตั้งแต่อิตาลีเคยถล่มสหรัฐอเมริกา 7-1 เมื่อปี 1934 เลยทีเดียว

แม้สกอร์ที่ออกมาจะขาดลอย แต่รูปเกมกลับสวนทางกับสกอร์อย่างสิ้นเชิง เนื่องจากจืดชืด ปราศจากความสนุก ขาดความตื่นเต้นเร้าใจ สร้างความผิดหวังอย่างแรงให้กับแฟนบอลหลายพันล้านคนทั่วโลกที่ตั้งตารอชม

ส่วนบรรยากาศรอบสนามลุซนิกีก่อนเริ่มเกมนั้น ต้องบอกว่าคึกคักสนุกสนานอย่างยิ่งและเต็มไปด้วยสีสัน คลาคล่ำไปด้วยแฟนบอลเหยียบแสนคน โดยเฉพาะแฟนบอลเจ้าภาพที่มาแบบจัดเต็ม ทั้งเพนต์หน้าสีธงชาติ เอาธงชาติมาคลุมตัว ตีกลองร้องเพลงเชียร์กันอย่างสนุกสนาน

ขณะที่กองเชียร์ “เหยี่ยวมรกต” ก็ไม่ยอมน้อยหน้า แม้จะมีจำนวนน้อยกว่า แต่ก็ส่งเสียงเชียร์ดังลั่นไม่แพ้กัน นอกจากนี้ ยังมีแฟนบอลอีกหลายชาติอย่างเม็กซิโก, บราซิล และเปรู มาช่วยสร้างสีสันอีกด้วย

ในส่วนของพิธีเปิดฟุตบอลโลก 2018 ซึ่งมี วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย เป็นประธานนั้น เป็นไปอย่างเรียบง่ายกระชับแต่สวยงาม โดยมี ร็อบบี้ วิลเลียมส์ นักร้องเพลงป๊อปชื่อดังชาวอังกฤษ มาร้องเพลงโชว์ร่วมกับ ไอดา การ์ริฟูลินา นักร้องสาวโซปราโนชาวรัสเซีย

แต่มีประเด็นดราม่าเกิดขึ้น เมื่อซุปเปอร์สตาร์หนุ่มวัย 44 ปี ชูนิ้วกลางใส่กล้องขณะเดินเข้าสู่ห้องพัก ซึ่งถือเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง

วกกลับมาที่เกมคู่เปิดสนามเวิลด์คัพ 2018 เจ้าภาพรัสเซีย ภายใต้การคุมทัพของกุนซือ สตานิสลาฟ เชอร์เชคอฟ ที่ก่อนหน้านี้สะกดคำว่าชนะไม่เป็น 7 นัดติดต่อกันในเกมอุ่นเครื่อง จัดผู้เล่นชุดดีที่สุดลงสนาม นำโดย อิกอร์ อคิน-เฟเยฟ นายด่านกัปตันทีม ร่วมด้วย อลัน ซาโกเยฟ, อเล็กซานเดอร์ โกโลวิน และเฟเดอร์ สโมรอฟ เป็นสามประสานแนวรุก

ฟาก “เศรษฐีน้ำมัน” ซาอุดีอาระเบีย จัดผู้เล่นชุดเก่งลงบู๊เช่นกัน โดยมี โมฮัมเหม็ด อัลซาห์ลาวี กองหน้าตัวเก๋า ที่ยิงไป 16 ประตูในรอบคัดเลือกโซนเอเชีย เป็นตัวชูโรงในแดนหน้า

ออกสตาร์ตครึ่งแรกมาได้แค่ 12 นาที ประตูแรกในทัวร์นาเมนต์นี้ก็เกิดขึ้น และเป็นกองเชียร์เจ้าภาพที่ได้เฮสนั่น เมื่อ “หมีขาว” รัสเซีย พังประตูออกนำ 1-0 จากจังหวะที่อเล็กซานเดอร์ โกโลวิน เปิดบอลโค้งจากฝั่งซ้ายไปที่เสาไกลให้ ยูริ กาซินสกี้ โหม่งระยะเผาขนตุงตาข่าย

มาถึงนาทีที่ 24 อลัน ซาโกเยฟ เกิดเจ็บเองขณะวิ่ง จนเล่นต่อไม่ไหว ทำให้รัสเซียต้องส่ง เดนิส เชอรีเชฟ ลงมาเล่นแทน และแล้วก่อนจบครึ่งแรก 2 นาที เชอรีเชฟก็แผลงฤทธิ์ ยิงประตูอย่างเหนือชั้นให้เจ้าภาพนำห่าง 2-0

ครึ่งหลัง รัสเซียยังทำได้ดีกว่า ก่อนขยับสกอร์หนีเป็น 3-0 จากการโหม่งของอาร์เต็ม ซยูบา นาที 71 จากนั้นช่วงทดเจ็บนาทีแรก เจ้าภาพทะยานนำขาด 4-0 จากการซัดของเชอรีเชฟ นับเป็นประตูที่ 2 ของเขาในเกมนี้ พร้อมขึ้นนำเป็นดาวซัลโวประจำทัวร์นาเมนต์ เท่านั้นไม่พอ ก่อนหมดเวลาไม่กี่อึดใจ รัสเซียยังมาได้ประตูปิดท้ายจากลูกยิงฟรีคิกสุดสวยของอเล็กซานเดอร์ โกโลวิน

จบเกมเจ้าภาพรัสเซีย สอนบอลถล่ม ซาอุดีอาระเบีย 5-0 ประเดิมเก็บสามแต้มแรก นำจ่าฝูงกลุ่มเอ และเพิ่มโอกาสในการเข้ารอบ 16 ทีมต่อไป โดยนัดหน้า รัสเซียจะมีคิวดวลกับ “มัมมี่” อียิปต์ วันอังคารที่ 19 มิ.ย.นี้ ส่วนซาอุฯจะลงสนามนัดที่ 2 เจอกับ อุรุกวัย วันพุธที่ 20 มิ.ย.

ส่วนแมนออฟเดอะแมตช์ในเกมนี้ คงเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก อเล็กซานเดอร์ โกโลวิน เพลย์เมกเกอร์ทีมชาติรัสเซียวัย 22 ปี ที่โชว์ฟอร์มการเล่นได้อย่างโดดเด่น ด้วยการทำ 2 แอสซิสต์ แถมยังยิงฟรีคิกสุดสวยอีก 1 ลูกด้วย

เห็นฟอร์มการเล่นของโกโลวินแล้ว ต้องบอกว่าดาวเตะซุปเปอร์สตาร์เลือดหมีขาวรายนี้คงอยู่ค้าแข้งในลีกบ้านเกิดได้อีกไม่นาน เพราะตอนนี้เขากลายเป็นแข้งเนื้อหอมไปแล้ว เชื่อว่ามีหลายทีมยักษ์ใหญ่ในยุโรปพร้อมจะล่าตัวเขาไปร่วมทีมในช่วงซัมเมอร์นี้อย่างแน่นอน

หลังจบเกม แฟนบอลชาวรัสเซียจำนวนมากได้ออกมาฉลองชัยกันอย่างเต็มที่ ทั้งขับรถบีบแตรเสียงดังสนั่นตามท้องถนนหลายสายในกรุงมอสโก และมีบางส่วนก็รวมตัวกันในสถานี รถไฟใต้ดิน จับกลุ่มร้องเพลงเชียร์กันอย่างสนุกสนาน

แค่ชนะนัดเดียว ฉลองกันสุดเหวี่ยงอย่างกับได้แชมป์โลก.

ติดตามความเคลื่อนไหวฟุตบอลโลก 2018 คลิกที่นี่

หมวดแซม