ไทยรัฐฉบับพิมพ์
ผังถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2018 ยังไม่ลงตัว พีรธน เกษมศรี ณ อยุธยาหัวหน้าคณะผู้บริหารด้านคอนเทนต์และมีเดีย บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น ยืนยันภายในวันที่ 8 มิ.ย.นี้ เสร็จ เรียบร้อยแน่นอนหายห่วง คู่เปิดสนามและคู่ชิงชนะเลิศ ยิงสดพร้อมกัน 3 ช่องฟรีทีวี ทรูโฟร์ยู, อมรินทร์ ทีวี และช่อง 5 พร้อมทำความเข้าใจ ทรูวิชั่นส์เป็นผู้ได้รับ ลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด ขณะที่ผู้สนับสนุน 9 รายในครั้งนี้ เป็นผู้สนับสนุนการถ่ายทอดสด การเลือกคู่ถ่ายทอดจึงเป็นสิทธิ์ของทรูวิชั่นส์ อย่างไรก็ตาม แม้จะมีสิทธิ์ แต่อัตราส่วนการถ่ายทอด ช่องทรูโฟร์ยูได้มากกว่าเพื่อน เพียงแค่ 60-40 เท่านั้น
นายพีรธน เกษมศรี ณ อยุธยา หัวหน้าคณะผู้บริหาร ด้านคอนเทนต์และมีเดีย บมจ.ทรูคอร์ปอเรชั่น เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการดำเนินการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2018 ระหว่างวันที่ 14 มิ.ย.-15 ก.ค.นี้ จากประเทศรัสเซียว่า ในส่วนของผังการถ่ายทอดสดศึกเวิลด์ คัพ 2018 ซึ่งในครั้งนี้มีช่องดิจิทัลฟรีทีวี ได้แก่ ทรูโฟร์ยู (ช่องหมายเลข 24), อมรินทร์ ทีวี (ช่องหมายเลข 34) และสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 (ช่องหมายเลข 1) ร่วมกันการถ่ายทอดนั้น ใกล้เสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยคาดว่าภายในสัปดาห์นี้ หรือไม่เกินวันที่ 8 มิ.ย. ทุกอย่างจะเรียบร้อย แฟนกีฬาจะได้ทราบว่าช่องไหน ถ่ายทอดสดคู่ใดบ้าง แต่แน่นอนว่า คู่เปิดสนามวันที่ 14 มิ.ย. รัสเซียพบซาอุดีอาระเบีย เวลา 22.00 น. และคู่ชิงชนะเลิศ วันที่ 15 ก.ค. เวลา 22.00 น. จะมีการถ่ายทอดสดทั้ง 3 ช่องพร้อมกัน
ต่อข้อถามที่ว่า สัดส่วนของช่องทรูโฟร์ยู ที่ได้ถ่ายทอดสดมากกว่าอีก 2 ช่อง และยังได้ถ่ายทอดสดแต่คู่ใหญ่ มีส่วนทำให้ผังการถ่ายทอดสดเกิดความล่าช้า จริงหรือไม่ อย่างไร นายพีรธนกล่าวว่า เป็นเรื่องจริงที่ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าช่องใดจะถ่ายทอดสดคู่ใดบ้าง
“แต่ทว่ามีส่วนที่ต้องทำความเข้าใจด้วยเหมือนกันคือ ทรูวิชั่นส์ กรุ๊ป ในฐานะที่ได้รับมอบหมายให้เป็นตัวแทนประเทศไทยในการเจรจาและลงนามในสัญญากับสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ผ่านบริษัท อินฟรอนท์สปอร์ต แอนด์ มีเดีย ผู้ถือลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกในภูมิภาคเอเชีย เป็นผู้ที่ได้รับลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2018 มา และได้ออกเงินค่าลิขสิทธิ์ จำนวนรวม 1,141 ล้านบาทไปก่อนล่วงหน้า รวมไปถึงทรูวิชั่นส์ ยังมีค่าดำเนินการในส่วนต่างๆ เช่น การสร้างสตูดิโอ ผลิตรายการ ซึ่งต้องทำให้ได้มาตรฐานระดับโลก เป็นต้น อีกด้วย ขณะที่ผู้สนับสนุน 9 รายในครั้งนี้ เป็นผู้สนับสนุนการถ่ายทอดสด ดังนั้นการเลือกคู่ถ่ายทอดสด จึงเป็นสิทธิ์ของทรูวิชั่นส์ อย่างไรก็ตาม แม้เราจะมีสิทธิ์ แต่อัตราส่วนการถ่ายทอดช่องทรูโฟร์ยู ได้มากกว่าอีก 2 ช่อง เพียงแค่ 60-40 เท่านั้น” นายพีรธนกล่าว
หัวหน้าคณะผู้บริหาร ด้านคอนเทนต์และมีเดีย บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวต่อว่า สำหรับรูปแบบการถ่ายทอดสดในแต่ละคู่นั้น จะมีการเข้ารายการก่อนเวลาแข่งขัน 30 นาที และมีรายการหลังหมดเวลาอีก 30 นาที ส่วนทีมผู้บรรยาย ทางทรูวิชั่นส์ จะใช้ผู้บรรยายกลางซึ่งเป็นของทรูวิชั่นส์ บรรยายเพื่อออกอากาศส่งไปยัง 3 ช่องฟรีทีวีโดยตรง ขณะที่ในส่วนของช่องทางออนไลน์ โมบายแอปพลิเคชัน แฟนกีฬาสามารถรับชมได้ทางแอปพลิเคชันทรูไอดี (TrueID) ซึ่งจะถ่ายทอดสดทุกนัดเช่นเดียวกัน
อนึ่ง การถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2018 ระหว่างวันที่ 14 มิ.ย.-15 ก.ค.นี้ ที่ประเทศรัสเซีย เป็นความร่วมมือกันระหว่างภาครัฐบาล นำโดย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และ กกท. ร่วมกับภาคเอกชน 9 องค์กร ได้แก่ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน), บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน), บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด, บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน), ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน), บริษัท คิง เพาเวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด, บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน), บริษัท บางจากคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด