ไทยรัฐฉบับพิมพ์
กกท.จัดกิจกรรมให้แฟน บอลชาวไทย ได้ร่วมสนุกไปกับฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย เตรียมตั้งจอแอลอีดีขนาดใหญ่ บริเวณลานพลาซา สนามกีฬาหัวหมาก ถ่ายทอดสดศึกเวิลด์คัพตลอดงาน เพื่อให้พี่น้องชาวไทยได้รวมตัวกันเชียร์ทีมโปรด
วันที่ 3 มิ.ย. “บิ๊กเสือ” นายสกล วรรณพงษ์ ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เปิดเผยว่า ในระหว่างการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 วันที่ 14 มิ.ย.-15 ก.ค.นี้ ที่ประเทศรัสเซีย ทาง กกท.จะจัดให้มีกิจกรรมตั้งจอแอลอีดีขนาดใหญ่เพื่อถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2018 ที่บริเวณลานพลาซ่า ภายใน กกท. หัวหมาก โดยได้มีการปรึกษากับทาง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลงานด้านการกีฬา เพื่อขอเกี่ยวสัญญาณถ่ายทอดสดมาลงยังจอแอลอีดีขนาดใหญ่บริเวณลานพลาซ่าดังกล่าว ที่จะเป็นโดมขนาดใหญ่สามารถรองรับแฟนบอลชาวไทยได้จำนวนมากหลายพันคน เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ได้สั่งการให้มีการประสานงานไปยังบริษัท ทรูวิชั่นส์ จำกัด (มหาชน) เพื่อนำสัญญาณถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกครั้งนี้มาเปิดผ่านจอแอลอีดีขนาดใหญ่ ซึ่งการประสานงานดังกล่าวไม่มีปัญหาแต่อย่างใด สามารถดำเนินการได้ โดย กกท. ตั้งใจที่จะเปิดโอกาสให้ประชาชนชาวไทยได้มารวมกลุ่มเชียร์ฟุตบอลโลกครั้งนี้กันอย่างสนุกสนาน ปลูกฝังให้รักกีฬาและเล่นกีฬาไปในเวลาเดียวกัน
“กกท.จะเกี่ยวสัญญาณถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2018 มาให้ประชาชนชาวไทยได้รับชมที่จอแอลอีดีขนาดใหญ่ของเราบริเวณลานพลาซ่าที่ได้ทำเป็นโดมขนาดใหญ่ไว้รองรับคนได้หลายพันคน โดยไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องธุรกิจ จะไม่มีสปอนเซอร์ใดๆมาเกี่ยวข้อง เพราะจะไปขัดกับผู้ประกอบการภาคเอกชนที่ร่วมสนับสนุนซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลในครั้งนี้” นายสกลกล่าว
ผู้ว่าการ กกท. กล่าวอีกว่า นอกจากจะมีการจัดกิจกรรมให้แฟนบอลได้ชมฟุตบอลโลก 2018 กันแล้ว ทาง กกท.ยังจะจัดให้มีการแข่งขัน “แซท ฟุตซอล 2018” ในช่วงวันเวลาเดียวกันกับการแข่งขันฟุตบอลโลกอีกด้วย โดยใช้รูปแบบเดียวกันกับฟุตบอลโลก เพื่อให้ประชาชนชาวไทยได้ทั้งชม ทั้งเชียร์ และทั้งแข่งขัน ซึ่งจะเป็นการช่วยสร้างกระแสให้มหกรรมลูกหนังระดับโลกครั้งนี้เกิดความคึกคักในเมืองไทยมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
อนึ่ง สำหรับการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2018 ระหว่างวันที่ 14 มิ.ย.-15 ก.ค.นี้ ที่ประเทศรัสเซีย ภาครัฐบาล นำโดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และ กกท. ร่วมกับภาคเอกชน 9 องค์กร ได้แก่ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน), บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน), บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด, บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน), ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน), บริษัท คิง เพาเวอร์ อินเตอร์-เนชั่นแนล จำกัด, บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน), บริษัท บางจากคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท คาราบาวตะวันแดง จำกัด ร่วมกันซื้อลิขสิทธิ์เพื่อให้ประชาชนชาวไทยได้ชมการแข่งขันครบ 64 แมตช์ ผ่านทาง 3 ช่อง ประกอบด้วยทรูโฟร์ยู (ช่อง 24), อมรินทร์ทีวี (ช่อง 34) และสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 (ช่อง 1)