หน้าแรกแกลเลอรี่

‘บิ๊กอ๊อด’ บุกแคมป์ให้กำลังใจช้างศึกยู-15 ก่อนล่าแชมป์อาเซียน

ไทยรัฐออนไลน์

2 ก.ค. 2560 18:40 น.

"บิ๊กอ๊อด" บุกแคมป์บางบ่อ สมุทรปราการ เพื่อมอบโอวาทและให้กำลังใจขุนพลช้างศึกยู-15 ก่อนลงทำศึกชิงแชมป์อาเซียน 2017 ที่ชลบุรี ย้ำนักกีฬาทุกคนต้องมีวินัยและเรียนรู้ตลอดเวลา เพื่อพัฒนาตัวเองไปสู่อนาคตที่สดใส...

วันที่ 2 ก.ค.60 พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้เดินทางไปยังแคมป์เก็บตัวบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อมอบโอวาทและให้กำลังใจแก่นักฟุตบอลทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี ซึ่งมีคิวลงทำศึกชิงแชมป์อาเซียน 2017 ในระหว่างวันที่ 9-22 กรกฎาคมนี้

โดย "บิ๊กอ๊อด" กล่าวว่า "ดีใจกับทุกคนและพ่อแม่ผู้ปกครอง ที่พวกเราได้ติดทีมของรุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี พวกเราคือแนวหน้าของประเทศไทยในรุ่นนี้ ที่จะก้าวไปสู่อนาคตการเป็นนักฟุตบอลอาชีพและทีมชาติ ทุกคนต้องมีเป้าหมายชีวิตมันคือความฝัน ถ้าทุกคนไม่มีความฝัน มันก็ไม่มีเป้าหมายของชีวิต เพราะฉะนั้นการทำให้ความฝันของเราสำเร็จ ของพ่อแม่ที่เสียสละดูแลเรามา สนับสนุนเรา ทุกอย่างอยู่ที่ตัวเรา พ่อแม่ โค้ชและทีมงานคือองค์ประกอบ ตัวเราคือสิ่งสำคัญที่สุด ถ้าเรามีฝัน มีเป้าหมายชีวิต ทำให้เราไปถึงตรงนั้น การไปถึงตรงนั้น นั้นเหมือนกับรถ ถ้ารถผุๆ พังๆ พอไปลุยป่าลุยเขาก็ไปถึงปลายทางไม่ได้ เช่นเดียวกับนักกีฬา การจะไปถึงจุดหมายก็ต้องดูแลร่างกาย มีระเบียบวินัย และปรับตัวอยู่ร่วมกับเพื่อนร่วมทีม, โค้ช, สตาฟฟ์ เพราะวินัยจะทำให้เราดูแลร่างกาย ฝึกซ้อมฝึกฝน พัฒนาตัวเองไม่หยุด และต้องเรียนรู้จากโค้ชให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้"

"คนที่จะพัฒนาได้ อย่าคิดว่าตัวเก่ง ต้องทำตัวเหมือนน้ำไม่ล้นแก้ว เรียนรู้ตลอดเวลา ไม่มีใครประสบความสำเร็จได้ด้วยความสบาย ทุกคนต้องมีความยากลำบาก เมื่อผ่านจุดหนึ่ง เราจะกลายเป็นนักกีฬาอาชีพ ทีมชาติ นำมาซึ่งชื่อเสียง ความภูมิใจ เกียรติยศ ของตัวเอง ครอบครัว รวมถึงรายได้"

"แต่ก่อนเล่นบอลเพื่อทีมชาติ แต่นี้ประเทศไทยมีฟุตบอลลีกอาชีพ ที่สามารถทำรายได้ ได้ ถ้าเราไม่รักษาสุขภาพ ไม่รักษามาตรฐาน เราก็ไปถึงจุดนั้นไม่ได้ ทุกวันนี้แข่งขันสูงในวงการฟุตบอล คนที่ดีกว่าและพร้อมกว่า จะยืนอยู่บนเวทีให้ได้ เราต้องยืนให้ได้ ตอนนี้ทุกคนได้โอกาส ได้เรียนรู้จากโค้ชระดับโลกจากสเปน เราต้องใช้เวลาตรงนี้เอากลับไปพัฒนาเมื่อจบทัวร์นาเมนต์"

"ขอให้พวกเราทำหน้าที่ ไม่ต้องทำเพื่อสมาคมฯ หรือนายกสมาคมฯ แต่ทำเพื่อตัวเอง วงศ์ตระกูล พ่อแม่ และสุดท้ายก็คือคนไทยทั้งชาติ วันนี้คือเราทำหน้าที่ในนามประเทศไทย ไม่ใช่แค่สมาคมฯ พวกเรามีหน้าที่ผลักดันทุกคน ส่วนในสนามคือหน้าที่ของนักกีฬา ดีไม่ดีอยู่ที่การฝึกฝน ฝึกซ้อม และทำตามสิ่งที่โค้ชสอน"

"สุดท้ายถ้าเรามาถึงจุดนี้ นี่คือจุดเริ่มต้น ผมอาจจะเคยพูดแล้วว่า ตรงนี้ติดทีมชาติแล้ว แต่ความจริงยังอีกไกล เพราะเราเพิ่งอายุ 15 ปีเท่านั้น อย่าเพิ่งติดกับความสำเร็จ คือ กับดักความสำเร็จที่ทำให้นักกีฬาล้มเหลว คือคิดว่าตัวเอง เก่ง ดัง และไม่มีวินัย ไม่ดูแลสุขภาพ และไม่คิดจะร่วมกับคนอื่น ฟุตบอลเล่นเป็นทีม มีตัวจริงตัวสำรอง พอเล่นเป็นทีมเราก็ต้องเล่นกับโค้ช ทีมงานผู้ฝึกสอน อย่าให้กับดักความสำเร็จมาทำร้ายเรา เรายังอยู่อีกไกล เรายังเล่นฟุตบอลได้อย่างน้อยอีก 15 ปี เราต้องพัฒนา และดูแลร่างกาย เพื่อให้เล่นฟุตบอลให้ได้นานๆ ขอให้ทุกคนโชคดี การแข่งครั้งนี้ก็ไม่ต้องกลัว ทำให้ดีที่สุด และผมจะเดินทางไปชมพวกคุณเล่น ขอบคุณมาก".