ไทยรัฐฉบับพิมพ์
“บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ แบเบอร์นั่งประธานโอลิมปิกไทย คนใหม่ ในการประชุมสมัชชาใหญ่ วันที่ 31 มี.ค.นี้ หลังมีการพูดคุยกันเป็นที่เรียบร้อย ส่วนทีมบริหาร คาดว่าใน 2 ปีแรกน่าจะยังเป็นชุดเดิม เพื่อประคองแม่ทัพไปพลางๆ ก่อน ทั้ง “บิ๊กจา” พล.ต.จารึก อารีราชการัณย์ ที่จะทำหน้าที่เลขาธิการ และ “บิ๊กต้อม” ธนา ไชยประสิทธิ์ เหรัญญิก ส่วน “บิ๊กอ๊อด” พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ประธานคนเดิม จะโยกไปเป็นประธานโอลิมปิกกิตติมศักดิ์ ด้านกระแสที่ พล.อ.ประวิตรมาจากรัฐบาลที่ไม่เป็นประชาธิปไตย จะมีปฏิกิริยาจากองค์กรระหว่างประเทศมากน้อยแค่ไหน เป็นเรื่องในอนาคต...
วันที่ 30 มี.ค. 60 ตามที่คณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยฯ กำหนดจัดการประชุมสมัชชาใหญ่ ประจำปี 2559 เพื่อเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ หลัง “บิ๊กอ๊อด” พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ประธาน และคณะกรรมการบริหาร ทำหน้าที่มาครบวาระ ในวันที่ 31 มี.ค.นี้ ที่โรงแรมโกลเดน ทิวลิป ซอฟเฟอริน เวลา 10.00 น. โดยการเลือกตั้งครั้งนี้มีสโมสรสมาชิกที่มีสิทธิ์เสนอชื่อผู้เข้ารับการเลือกตั้งและลงคะแนนเลือกตั้งรวมทั้งสิ้น 46 คน (จากทั้งหมด 47 คน) ประกอบด้วย นายกสมาคมกีฬาฯ ที่เป็นสมาชิกสามัญ 34 คน, ผู้ทรงคุณวุฒิ 9 คน (จาก 10 คน), ผู้แทนคณะกรรมการโอลิมปิกสากล 1 คน และผู้แทนนักกีฬาโอลิมปิก 2 คน
“บิ๊กอ๊อด” พล.อ.ยุทธศักดิ์ ยืนยันมาก่อนหน้านี้แล้วว่า ตนเข้ามาดำรงตำแหน่งประธานโอลิมปิกสมัยแรกตั้งแต่ปี 2544 รวมแล้ว 16 ปี 4 สมัย ซึ่งถึงเวลาแล้วที่จะก้าวลงจากตำแหน่ง เพื่อให้คนอื่นที่มีความรู้ความสามารถเข้ามาสานงานต่อ แต่หากตนได้รับเลือกตั้งเป็นกรรมการบริหารชุดใหม่ ก็พร้อมจะช่วยงานโอลิมปิก ในตำแหน่งประธานกิตติมศักดิ์ตลอดชีพ ซึ่งเป็นไปตามข้อบังคับของคณะกรรมการโอลิมปิกฯ ซึ่งมีรายงานด้วยว่า พล.อ.ยุทธศักดิ์จะนั่งทำงานในห้องทำงานเดิมต่อไปเหมือนเดิมด้วย
ทั้งนี้ มีรายงานเพิ่มเติมว่า บรรดาคีย์แมนในบ้านอัมพวัน คณะกรรมการโอลิมปิกได้มีการพูดคุยกันตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งค่อนข้างจะแน่นอนแล้วว่า “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะนายกสมาคมกีฬาว่ายน้ำแห่งประเทศไทยฯ น่าจะได้รับการเสนอชื่อให้นั่งเป็นประธานโอลิมปิกไทยคนใหม่ ส่วนทีมบริหารงาน คาดว่าภายใน 2 ปีแรกน่าจะยังคงเป็นชุดเดิม เพื่อประคอง พล.อ.ประวิตรไปพลางๆก่อน ไม่ว่าจะเป็น “บิ๊กจา” พล.ต.จารึก อารีราชการัณย์ ที่จะทำหน้าที่เลขาธิการ และ “บิ๊กต้อม” ธนา ไชยประสิทธิ์ เหรัญญิก
อย่างไรก็ตาม ยังมีกระแสข่าวอีกด้านหนึ่งระบุด้วยว่า ในการประชุมสมัชชาใหญ่ วันที่ 31 มี.ค.นี้ อาจจะมีเพียงการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารเท่านั้น ก่อนจะไปเลือกประธานโอลิมปิกคนใหม่อีกครั้งในวันที่ 4 เม.ย. รวมทั้งยังมีการพูดถึงคุณสมบัติของประธานโอลิมปิกไทยคนใหม่ ควบคู่กันไปอีกว่าในปัจจุบันดำรงตำแหน่งทางการเมืองอยู่ด้วย จะมีข้อติดขัดอะไรหรือไม่ ซึ่งข้อนี้ตามระเบียบไม่ได้มีข้อห้ามแต่อย่างใด เช่นเดียวกับการที่มาจากรัฐบาลที่ไม่เป็นประชาธิปไตย จะมีปฏิกิริยาจากองค์กรระหว่างประเทศมากน้อยแค่ไหน ซึ่งในแวดวงกีฬาระบุในข้อหลังว่า เป็นเรื่องของอนาคต ที่จะต้องดูกันต่อไปว่าทั่วโลกจะมีเสียงคัดค้านหรือไม่