ไม่แพ้ก็ชนะ “กุหลาบดำ” ต้องน็อกเท่านั้น ถึงจะผ่าน “แสงมณี” ไปได้

"ซ้ายอุกกาบาต" กุหลาบดำ ส.จ.เปี๊ยกอุทัย เจ้าของรางวัลนักมวยไทยยอดเยี่ยม ประจำปี 2560 ของสมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาแห่งประเทศไทย หรือที่คนไทยเรียกกันสั้นๆ ว่า "ยอดมวย" กำลังจะได้พบบททดสอบที่แกร่งที่สุดในชีวิต กับการขึ้นสังเวียนเทียบชั้นกับ “แสงมณี คลองสวนพลูรีสอร์ต” ซึ่งถือเป็นคู่มวยในฝันที่แฟนๆ รอคอยมานานนับปี แต่ก็ไม่เคยมีทีท่าว่าจะได้ประกบคู่มาเจอกัน

จนกระทั่ง วัน แชมเปียนชิพ สานฝันให้เป็นจริงและยิ่งใหญ่ เพราะผู้ชนะจะผ่านด่านเข้าไปสู่โอกาสการชิงแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นแบนตัมเวต กับ "น้องโอ๋ ไก่ย่างห้าดาว" ในท้ายที่สุดอีกด้วย

สำหรับ "กุหลาบดำ ส.จ.เปี๊ยกอุทัย" นักมวยผู้โด่งดังจากการน็อกเอาต์คู่ต่อสู้ถึง 8 ใน 10 คนบนสนามมวยเวทีช่อง 7 สี และนักมวยผู้ได้รับเสื้อสามารถ ซึ่งมอบให้กับนักมวยที่ชนะ 7 ไฟต์ต่อเนื่องกัน ทำให้เขาโด่งดังถึงขีดสุด จนสร้างชื่อเป็นที่รู้จักไปทั่วปฐพี

ยอดมวยหมัดหนักจากสุรินทร์ วัย 21 ปี มีสถิติทั้งสิ้น ชนะ 61 แพ้ 10 เสมอ 5 ซึ่งถ้าเทียบกับ แสงมณี วัย 23 ปี ที่มีเที่ยวบินสูงกว่าถึงราว 3 เท่าตัว ที่สำคัญ แสงมณี ผ่านมวยเกรดเอ แถวหน้าของวงการมานับไม่ถ้วน จึงทำให้บรรดากูรูมวยมองว่าทั้งชื่อชั้นและประสบการณ์ของ กุหลาบดำ นั้นยังห่างกับ แสงมณี เห็นๆ

บนสังเวียน วัน แชมเปียนชิพ กุหลาบดำ ผ่านการชกมาเพียงไฟต์เดียว เมื่อ 6 กันยายน 2562 กับนักมวยผิวหมึกจากฝรั่งเศส "โบโบ แซกโก" หลังจากนั้นอีกหนึ่งเดือนถัดมา กุหลาบดำ ก็ไปชกในเวทีมวยสัญจรที่บุรีรัมย์ และพ่ายทีโอเค.ให้กับคู่ปรับเก่าอย่าง "หนึ่งล้านเล็ก จิตรเมืองนนท์" ก่อนที่จะเจอวิกฤติโควิด-19 เข้าถาโถม ทำให้กลายเป็น 10 เดือนที่ร้างสังเวียน

จนเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคมที่ผ่านมา กุหลาบดำ ได้ขึ้นชิงแชมป์มวยสากล WBA รุ่น 140 ปอนด์ที่ว่าง กับ "แสงอาทิตย์ ลูกทรายกองดิน" แม้จะชวดเข็มขัดเส้นนี้ แต่ก็ถือว่าได้วอร์มอัปร่างกาย ก่อนจะมาเจอศึกใหญ่กับ แสงมณี

อย่าลืมว่า กุหลาบดำ เป็นมวยหมัด การชกมวยสากล ยิ่งช่วยทำให้เขาได้ลับคมหมัดขึ้นไปอีก ประกอบกับศึกนี้ใน วัน แชมเปียนชิพ ชกด้วยนวมเปิดนิ้ว 4 ออนซ์ ซึ่งมันทั้งบาง ป้องกันตัวยาก แถมแรงปะทะเยอะ จึงช่วยเสริมหมัดซ้ายอันตรายซึ่งเป็นอาวุธเด็ดเพชฌฆาตของเขาให้เกิดพลานุภาพขั้นสูงสุด และอาจเป็นตัวตัดสินเกมได้

"ความได้เปรียบเดียวที่ผมมี ก็คือหมัดซึ่งเป็นอาวุธหลักของผมนี่แหละครับ ยิ่งได้ซ้อมมวยสากลมาก่อนหน้านี้หนึ่งไฟต์ มันยิ่งทำให้หมัดของผมรุนแรง รวดเร็ว และออกหมัดเป็นชุดได้อีกด้วย"

"ชื่อชั้นของ แสงมณี ไม่มีใครไม่รู้จักเขา ผมมองว่าเขาไม่มีจุดด้อยเลย กลับกันเขาเป็นมวยซ้ายที่ดีมาก เตะเร็ว ศอกเยอะ บอกตามตรงโอกาสที่ผมชนะคะแนนเขาแทบจะน้อยมาก ทางเดียวที่ผมจะชนะเขาได้ คือต้องน็อกเท่านั้นครับ"

สำหรับศึก ONE: NO SURRENDER III นอกจากจะมีคู่เอกระหว่าง "แสงมณี vs กุหลาบดำ" แล้ว ยังมีคู่อื่นๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย อาทิ มงคลเพชร vs ซกที, ชนนภัทร vs ฟาบิโอ ปินกา และการเปิดตัวของนักมวยสาว วันเดอร์เกิร์ล แฟร์เท็กซ์

โดยแฟนๆ สามารถรับชมได้หลากหลายช่องทาง ได้แก่ ONE Super App, YouTube ของ ONE Championship และ AIS Play เวลา 19.30 น. ส่วนไทยรัฐทีวี ช่อง 32 รับชมได้เวลา 22.40 น.