“เพชรดำ” ฟื้นรากเหง้า เผยยึดวิถีเกษตรก็จับเงินแสนได้

หลังเจอวิกฤติโควิด-19 เจ้าของฉายา "เบบี้ชาร์ค" เพชรดำ เพชรยินดีอะคาเดมี ก็กลับไปใช้ชีวิตแบบวิถีเกษตรกรที่บ้านเกิด
ในอำเภอพิมูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี รื้อฟื้นรากเหง้าเข้านาเก็บเกี่ยวข้าวเอาไปขาย เห็นตัวเลขแล้วหายเหนื่อย

วันที่ 15 เม.ย.63 เพชรดำ อดีตแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นฟลายเวต ช่วงว่างจากงานชกเพราะผลกระทบโควิด-19 เขากลับบ้านไปอยู่กับครอบครัว และอาสาช่วยทำนาในฐานะลูกชายคนโต รื้อฟื้นวิชาเก็บเกี่ยวข้าวหลังไปเอาดีในวงการมวยเสียนาน

ช่วงเดือนมกราคมถึงเมษายนแบบนี้ ชาวนาจะทำนาปรังซึ่งเป็นนาข้าวนอกฤดูกาล โดยอาศัยน้ำที่มาจากคลองชลประทานในการปลูกข้าว ครอบครัวของ เพชรดำ ซึ่งมีที่นาร่วม 10 ไร่ ส่วนที่อยู่ใกล้คลองชลประทานโดมน้อยราว 6-7 ไร่ ได้อาศัยน้ำจากเขื่อนสิรินธรมาใช้ทำนานอกฤดูกาล โดยปลูกทั้งข้าวสารและข้าวเหนียว เกี่ยวกับเอาไปขาย ส่วนที่เหลือเก็บไว้กินและเก็บเป็นพันธุ์ข้าวไว้ปลูกครั้งต่อไป

“การทำนาปัจจุบันจะแตกต่างจากเมื่อก่อนมาก ซึ่งสมัยก่อนจะมีประเพณีลงแขกเกี่ยวข้าว เป็นการขอแรงเพื่อนบ้านหรือญาติๆ มาช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ถ้าเป็นที่นา 10 ไร่ อาจใช้เวลานานเป็นสัปดาห์ แต่ปัจจุบันเปลี่ยนมาใช้รถเกี่ยวข้าวทำงานแทน ช่วยประหยัดต้นทุนและประหยัดเวลา ใช้เวลาเพียงครึ่งวันก็เสร็จทุกอย่าง แถมขั้นตอนก็สะดวกขึ้นกว่าเดิม เพราะได้เป็นเมล็ดข้าวเปลือกเลย แค่นำไปกองตากแดดให้แห้งก็ขายได้แล้ว”

หลังเก็บเกี่ยว เพชรดำ รวมถึงลุงและลูกชายของลุงจะขับรถกระบะนำข้าวเปลือกไปขายบริเวณจุดรับซื้อในหมู่บ้าน ซึ่งตลอดทั้งฤดูกาลสามารถทำเงินได้ร่วมหลักแสนบาททีเดียว

“ที่อุบลราชธานีจะปลูกข้าวได้พันธุ์ดี เพราะที่ดินเหมาะสมกับการเพาะปลูก ราคาขายอยู่ในเกณฑ์สูงกว่าหลายจังหวัด โดยข้าวเหนียวกับข้าวเจ้าจะราคาต่างกัน ซึ่งตอนนี้ราคาข้าวเหนียวอยู่ที่ 12,800 บาทต่อตัน ส่วนข้าวเจ้า 14,500 บาทต่อตันครับ”

สำหรับ เพชรดำ เคยได้รับเกียรติประวัติสูงสุดบนเวที วัน แชมเปียนชิพ จากการคว้าแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นฟลายเวต เมื่อเดือนพฤษภาคม 2562 ก่อนที่จะเสียแชมป์ในการป้องกันตำแหน่งครั้งแรกในเดือนสิงหาคมปีเดียวกัน

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน เพชรดำ เพิ่งจะอายุ 21 ปี เส้นทางบนเวทีผืนผ้าใบยังอีกยาวไกล ไว้หมดวิกฤติไวรัสร้ายนี้เมื่อไหร่ เราคงจะได้เห็นเขากลับมาเฉิดฉายบนเวที และสร้างความเอนเตอร์เทนให้กับผู้ชมอีกเช่นเคย.