ไทยรัฐออนไลน์
ศึกสายเลือดไทยคู่ที่สองในประวัติศาสตร์วัน แชมเปียนชิพ กำลังจะเริ่มขึ้น ระหว่าง “เพชรมรกต เพชรยินดีอะคาเดมี” กับ “เดชฤทธิ์ เสถียรมวยไทย” ทั้งคู่ต่างมาจากค่ายมวยคุณภาพที่คนในวงการรู้กันดี
วันที่ 4 ก.พ.63 เพชรมรกต รู้ตัวว่าจะถูกเปลี่ยนคู่ชกไม่ถึง 10 วัน แต่มารู้ตัวจริงๆ ว่าคู่ชกใหม่คือ เดชฤทธิ์ ก็ราวหนึ่งอาทิตย์ก่อนการแข่งขัน เช่นเดียวกับ เดชฤทธิ์ ที่กระโดดเข้ามาเป็นมวยแทน “จามาล ยูซูพอฟ” คู่ชกเก่าของ เพชรมรกต ที่ป่วยกะทันหัน โดยรู้ตัวล่วงหน้าและมีเวลาซ้อมจริงๆ จังๆ เพียงสัปดาห์เดียว
นอกจากทั้งคู่จะงัดอาวุธออกมาสู้กันบนเวที สิ่งสำคัญอีกอย่างคือการศึกษาคู่ชกเพื่อหาวิธีแก้เกม ซึ่งเชื่อว่าในระยะเวลาที่เหลืออยู่ทีมงานสองค่ายทั้ง “เพชรยินดีฯ” และ “เสถียรมวยไทย” ต่างเป็นมืออาชีพ คงเดินหน้าวางแผนหมากเกมนี้กันไว้แล้ว
เมื่อถามถึงเรื่องความพร้อมและความมั่นใจโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เดชฤทธิ์ ที่มีเวลาซ้อมเพียงหนึ่งสัปดาห์ ทาง “เสถียร สมขาว” หัวหน้าค่ายควบเทรนเนอร์ รวมถึงเจ้าตัวเองก็ยืนยันมั่นเหมาะว่า ถึงซ้อมน้อยแต่หัวใจเต็มร้อย ไฟต์นี้ชกเต็มที่ กองเชียร์เตรียมตัวรับความมันได้เลย
“ผมมีโอกาสขึ้นชิงแชมป์โลก ONE มันเป็นความใฝ่ฝันของนักมวยทุกคนอยู่แล้ว เชื่อได้เลยว่าผมชกเต็มที่ เราทำในสิ่งที่เราถนัดที่สุด ถึงมีเวลาซ้อมน้อย แต่หัวใจผมเต็มร้อย พูดง่ายๆ ว่ายอมตายบนเวทีเลยว่างั้น” เดชฤทธิ์ เริ่ม
“ผมเพิ่งขึ้นชกมาเมื่อวันที่ 17 ม.ค. ไม่ได้ทิ้งร้างเป็นเดือน ร่างกายจึงคงสภาพอยู่ น้ำหนักปล่อยๆ ก็ 74-75 กก. กว่าจะถึงวันชกซึ่งต้องทำน้ำหนักให้ได้ 70.3 กก. ผมว่าไม่มีปัญหา”
“เพชรมรกต มีจุดได้เปรียบตรงที่เขาเคยชกใน ONE มาก่อน ส่วนผมเพิ่งไปชกครั้งแรก แต่มันเป็นความได้เปรียบในเชิงจิตวิทยามากกว่า ที่ผ่านมาผมเคยผ่านเวทีต่างประเทศมาหลายครั้งทั้งจีนและฮ่องกง เคยชกด้วยนวมเล็กแบบที่ใช้ใน วัน แชมเปียนชิพ มาด้วย จึงไม่ใช่เรื่องใหม่ ไม่จำเป็นต้องปรับตัวอะไรมาก”
“ส่วนเรื่องสไตล์การชก เขาเป็นมวยเข่า ผมเป็นมวยหมัด มันไม่ถูกกันอยู่แล้ว บนเวทีมันอยู่ที่จังหวะและโอกาส ไอคิวการชกก็สำคัญ ผมเชื่อว่าผมมีตรงนั้น”
“ชกในวัน แชมเปียนชิพ ผมไม่ต้องกดดัน ไม่มีการพนัน ไม่มีหน้าเสื่อ กรรมการตัดสินเป็นกลาง ผลงานของเราจะเป็นเครื่องการันตีว่าคนไหนควรได้รับการชูมือ ถ้าผมแพ้ก็จะแพ้อย่างสมศักดิ์ศรี ไม่ใช่หมดแรงหรือหมดสภาพ แต่ผมเชื่อว่าไฟต์นี้คงไม่ไปไกลถึงตรงนั้น มันน่าจะจบแบบไม่ครบ 5 ยกครับ”
ศึกสายเลือดไทยคู่แรกอย่าง “น้องโอ๋ vs เสมาเพชร” ก็สร้างผลงานเด็ดจนได้รับการจัดอันดับให้เป็น “น็อกเอาต์แห่งปี 2562” ของ วัน แชมเปียนชิพ มาแล้ว หากศึกสายเลือดไทยคู่สองจะจบแบบน็อกเอาต์อีกก็ถือว่าเป็นกำไรของคนดู
ติดตามดูผลให้เห็นกับตาในวันศุกร์ที่ 7 กุมภาพันธ์นี้ ในศึก ONE: WARRIOR’S CODE ถ่ายทอดสดจากกรุงจาการ์ตา อินโดนีเซีย ทาง ONE Super App เริ่มคู่แรกเวลา 17.30 น. และไทยรัฐทีวี ช่อง 32 เวลา 22.40 น.