ไทยรัฐออนไลน์
"เดชาพล พัววรานุเคราะห์" และ "ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย" หยิบแชมป์ประเภทคู่ผสม "มาเก๊า โอเพ่น" ประเภทคู่ ขณะที่ “สิทธิคมน์ ธรรมศิลป์” คว้าแชมป์ชายเดี่ยว ด้าน "คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล" นายกสมาคมกีฬาแบดมินตันฯ ปลื้มฟอร์ม เชื่อถึงสิ้นปีนี้นักกีฬาไทยน่าจะมีโอกาสหยิบแชมป์อีก
วันที่ 3 พ.ย. 62 การแข่งขันแบดมินตันสะสมคะแนนโลก "มาเก๊า โอเพ่น 2019" ระดับซูเปอร์ 300 ชิงเงินรางวัลรวม 150,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 4,500,000 บาท ที่มาเก๊า เมื่อวันที่ 3 พ.ย.ที่ผ่านมา รอบชิงชนะเลิศ มีนักตบลูกขนไก่ไทยลงแข่งขัน 3 ประเภท ผลปรากฏว่า คู่ผสม "บาส" เดชาพล พัววรานุเคราะห์-"ปอป้อ" ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย คู่มือ 4 ของโลก เล่นได้สมราคาคู่มือ 1 ของรายการ เอาชนะ หวัง ชิ หลิน-เจิ้ง จี้ ยา คู่มือ 25 ของโลก และคู่มือ 6 ของรายการ จากไต้หวัน 2 เกมรวด 21-11, 21-8 คว้าแชมป์ ไปได้ตามความคาดหมาย และเป็นรายการที่ 3 ในปีนี้ หลังจากเข้าชิงฯ เป็นรายการที่ 6
ส่วน หญิงคู่ "กิ๊ฟ" จงกลพรรณ กิติธรากุล-"วิว" รวินดา ประจงใจ คู่มือ 9 ของโลก คู่มือ 2 ของรายการ พ่าย หลี่ หยิน ฮุย-ตู้ เยี่ย คู่มือ 7 ของโลก และคู่มือ 1 ของรายการ จากจีน 1-2 เกม 16-21, 21-10, 12-21 ได้เพียงรองแชมป์ และยังพลาดโอกาสคว้าแชมป์รายการที่ 2 ในปีนี้หลังจากคว้าแชมป์ "ไชนีส ไทเป โอเพ่น" เมื่อเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา
ขณะที่ ชายเดี่ยว "โอ๊ต" สิทธิคมน์ ธรรมศิลป์ มือ 22 ของโลก และมือ 5 ของรายการ พลิกสถานการณ์กลับมาชนะ ฉี อู้ ฉี มือ 6 ของโลก และมือ 1 ของรายการ จากจีน 2-1 เกม 12-21, 21-14, 21-7 คว้าแชมป์ระดับซูเปอร์ 300 ได้เป็นครั้งแรกของตัวเอง และเป็นแชมป์ชายเดี่ยว ระดับ 300 ขึ้นไป คนแรก ในรอบ 3 ปี
หลังการแข่งขัน คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล นายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ กล่าวว่า “บาส-ปอป้อ” ยังคงโชว์ฟอร์มได้อย่างคงเส้นคงวาตั้งแต่ต้นปีจนถึงตอนนี้ ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมมาก และต้องชื่นชมทั้งคู่ที่มุ่งมั่นทุ่มเทฝึกซ้อมอย่างต่อเนื่อง และมั่นใจว่ารายการที่เหลือจากนี้ ”บาส-ปอป้อ” จะยังเข้ารอบลึกๆ ได้อีกแน่อน ส่วนคู่ “กิ๊ฟ-วิว” แม้จะเสียดายที่พลาดคว้าแชมป์ แต่สิ่งที่เห็นคือ การเร่งฟอร์มที่ทำได้ดีขึ้น แต่ยังต้องทำงานหนักต่อไป แม้เวลานี้จะมีโอกาสสูงที่จะคว้าโควตาไปแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2020 ก็ตาม อย่างไรก็ดี “กิ๊ฟ-วิว“ มีพัฒนาการทางการเล่นที่ดีขึ้นมาก เช่นเดียวกับการฝึกจิตใจ แต่อาจมีรายละเอียดเล็กน้อยที่ต้องปรับปรุงและพัฒนากันต่อไป
สำหรับ ”โอ๊ต” ถือเป็นฟอร์มการเล่นที่สุดยอด และน่าจะบอกได้ว่าเป็นช่วงที่ดีที่สุดในรอบหลายปี หลังจากประสบปัญหาอาการบาดเจ็บ และต้องใช้ระยะเวลานานมากกว่าจะกลับมาในจุดนี้ จึงต้องชื่นชมความตั้งใจมุ่งมั่นที่จะเรียกฟอร์มเก่งเช่นนี้กลับมา และขอให้รักษาฟอร์มนี้ต่อไป เพราะ “โอ๊ต” เองยังต้องขับเคี่ยวเพื่อลุ้นหยิบโควตาไปโอลิมปิกเกมส์ และต้องรักษาเนื้อรักษาตัวไม่ให้มีอาการบาดเจ็บ และร่างกายฟิตที่สุดแบบนี้ต่อไป ท้ายที่สุด ขอให้แฟนกีฬาชาวไทยร่วมส่งแรงใจเชียร์นักกีฬาแบดมินตันไทยต่อไปในศึกใหญ่อย่าง "ฟูโจว ไชน่า โอเพ่น" ซูเปอร์ 750 ชิงเงินรางวัลรวม 700,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 21,000,000 บาท วันที่ 5-10 พ.ย. ที่เมืองฟูโจว ประเทศจีน.