ไทยรัฐออนไลน์
เจาะมุมมองของ "บิ๊กปลาย" จิติณัฐ อัษฎามงคล กับบทบาทประธาน "วัน แชมเปียนชิพ" ประจำประเทศไทย และนี่คือคำถามเด็ดที่เรายิงตรงถึงเขากับคำตอบที่คุณต้องรู้
หากใครติดตามหรืออยู่ในแวดวง MMA ไม่น่าจะมีใครไม่รู้จักชื่อของ "คุณปลาย" จิติณัฐ อัษฎามงคล ที่นั่งแท่นนายกสมาพันธ์ศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสานประเทศไทย (TMMAF) ควบคู่กับตำแหน่งผู้บริหาร บริษัท เจ เอส แอล โกลบอล มีเดีย จำกัด ซึ่งเมื่อเดือนที่แล้วเขาได้รับบทบาทหน้าที่อันสำคัญ นั่นคือการก้าวขึ้นมารับตำแหน่ง ประธาน วัน แชมเปียนชิพ ประจำประเทศไทย และนี่คือคำถามที่เรายิงตรงถึงเขาเพื่อให้สะท้อนถึงมุมมองและวิสัยทัศน์ในการกำหนดทิศทางและวางกลยุทธ์ให้ วัน แชมเปียนชิพ เติบโตและแข็งแกร่งต่อไป
1.จากบทบาทที่ผ่านมาจนมาสู่ประธาน วัน แชมเปียนชิพ ประจำประเทศไทย ความแตกต่างคืออะไร และท้าทายมากแค่ไหน
> หลายคนอาจจะรับรู้ถึงบทบาทของผมที่เคยนั่งในตำแหน่งนายกสมาพันธ์ MMA ประเทศไทย และอยู่ในองค์กรธุรกิจครอบครัวอย่าง บริษัท เจ เอส แอล โกลบอล มีเดีย ซึ่งการมาสู่ตำแหน่ง ประธาน วัน แชมเปียนชิพ ประจำประเทศไทย จะสังเกตได้ว่าสิ่งที่ผมทำมามักจะมีความเกี่ยวเนื่องกันอยู่ในระดับหนึ่ง มันทำให้ผมสามารถต่อยอดออกไปอย่างไม่ยากนัก ผมเข้าใจหลายๆ อย่างได้เป็นอย่างดี ว่าแต่ละอย่างมันควรจะต้องทำยังไงเพื่อให้ตรงนี้มันเกิดผลประโยชน์สูงสุด
มันเป็นความน่าตื่นเต้นและความท้าทายสำหรับผมนะ จากที่เราทำอยู่ในภายในประเทศไทย และตอนนี้กำลังไปสู่องค์กรในระดับโลก ผมได้มีโอกาสไปเจอทั้งผู้บริหารจาก อีเอสพีเอ็น, เรดบลูส์, เอ็นบีเอ ฯลฯ เหมือนเป็นการทำออลสตาร์ทีมเหมือนที่คุณ ชาตรี ศิษย์ยอดธง ผู้ก่อตั้ง วัน แชมเปียนชิพ เคยกล่าวไว้ว่า ซุปเปอร์สตาร์ หรือ ร็อกสตาร์ทีม ซึ่งแต่ละคนมีความเก่งโดดเด่น
การที่ผมจะเข้าไปทำตรงนั้นผมเห็นความสนุกและสิ่งที่จะได้เรียนรู้อีกเยอะ ระบบหรือการจัดการจะไม่เหมือนกับในประเทศไทยเลย แต่ในขณะเดียวกันหน้าที่ของผมคือการเซ็ตอัพ วัน แชมเปียนชิพ ประจำประเทศไทย ซึ่งผมต้องเอาทั้งสิ่งที่เป็นเหมือนกัน ดีเอ็นเอ ของ วันแชมเปียนชิพ ที่ผมได้ไปสัมผัสที่ประเทศสิงคโปร์ เอามาทำให้เป็นองค์กรของคนไทยด้วยในเวลาเดียวกัน
2.เป้าหมายที่ตั้งไว้ในการยกระดับ วัน แชมเปียนชิพ คืออะไร
แน่นอนว่าผมมองถึงชาเลนจ์ตอนนี้ วัน แชมเปียนชิพ และกีฬาศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน (MMA) เรื่องของอีโคซิสเต็มระดับล่างที่ที่มันอาจจะยังไม่แข็งแรงเท่าระดับบนที่ วัน แชมเปียนชิพ มีอยู่แล้ว ภูมิฐานของนักกีฬาของเราที่ต้องยอมรับว่ายังไม่ได้เยอะขนาดนั้น ถ้าไม่นับนักสู้ของเราใน วัน ซุปเปอร์ซีรีส์ อย่างนักมวยไทยหรือนักมวยไทยที่ไปสู่ คิก บ็อกซิ่ง ซึ่งในส่วนนี้เรายังมีอยู่น้อย เรายังไม่มีในแบบนักสู้ที่เป็นแชมเปียน
แน่นอนว่าถ้าเรามีแชมเปียนขึ้นมาผมเชื่อว่าความสนใจจะมีมากขึ้นไปด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ซึ่งตรงนี้ผมต้องการพัฒนาศักยภาพของนักกีฬาของเราในปัจจุบันไปสู่ความเป็นแชมเปียนมากขึ้น ให้เขาสามารถมีความโดดเด่นและเป็นที่รู้จักในด้านอื่นนอกจากการแข่งขันเพียงอย่างเดียว ไปอยู่ในสื่ออื่นหรือโปรเจกต์อื่นที่ไม่จำเป็นต้องอยู่ในการต่อสู้ก็ได้ และให้มันเกิดความต่อเนื่อง
ตรงนี้ถ้ามันมีอีโคซิสเต็มกับความต่อเนื่องของกิจกรรมที่เกิดขึ้นแล้วก็ระบบการสร้างรากหญ้าให้พัฒนาไปสู่ระดับมืออาชีพได้ ผมว่าตรงนี้มันจะเป็นจิ๊กซอว์ที่ทำให้ประเทศประสบความสำเร็จมากขึ้น ซึ่งตรงนี้ผมจะใช้บทบาทของผมที่ดูแลทั้งอีโคซิสเต็มสมัครเล่นมาเชื่อมต่อกับอีโคซิสเต็มระดับโลกอย่าง วัน แชมเปียนชิพ
3.จะมีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างการแข่งขัน วัน แชมเปียนชิพ อย่างไร
ผมมองว่าในประเทศไทยอีเวนต์ วัน แชมเปียนชิพ แบบสเกลใหญ่ทุกไตรมาส ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี 3 เดือนมีครั้ง ช่วยกระตุ้นให้มันเกิดอิมแพ็กกระแส ในขณะเดียวกันมันจะเป็นโอกาสให้ประเทศไทยได้โชว์ศักยภาพจนเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ขณะเดียวกันผมคิดว่าควรมีอีเวนต์ระดับรากหญ้าท้องถิ่นเกิดขึ้นเหมือนกันเพื่อให้แบรนด์ของ วัน แชมเปียนชิพ นักกีฬาของวัน แชมเปียนชิพ ระดับท้องถิ่นมากขึ้น นี่จะเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ที่อยากจะทำให้มันเกิดขึ้น
ไม่ใช่แค่จะให้เกิดขึ้นกับประเทศไทยเพียงประเทศไทย แต่ผมอยากให้มีแบบนี้ในประเทศอื่นๆ ซึ่งบทบาทของผมต้องลิงค์กับประธาน วัน แชมเปียนชิพ จากประเทศอื่นๆ เรามองถึงเชื่อมอีโคซิสเต็มกัน เพื่อให้มันเกิดกระตุ้นการแข่งขันและการกระชับมิตรต่างๆ ในระดับรากหญ้า เพื่อให้มันเกิดอีโคซิสเต็มที่แข็งแรงขึ้น มีเครือข่ายที่ใหญ่ขึ้นและความต่อเนื่องบ่อยขึ้นในเวลาเดียวกัน ซึ่งถ้าทำตรงนี้ได้ก็จะทำให้เราสามารถสร้างนักกีฬาใหม่ ต่อยอดนักกีฬาใหม่ไปสู่ วัน แชมเปียนชิพ
4.สิ่งที่อยากจะบอกถึงผู้อ่าน
สเน่ห์ของ วัน แชมเปียนชิพ มันไม่ได้เป็นแค่การจัดมวยที่เราอาจจะชอบติดปากว่ามันคือมวยกรงที่ต่อยกันเลือดสาด แต่ วัน แชมเปียนชิพ นี่มันเป็นองค์กรกีฬาศิลปะการต่อสู้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่เรามีคุณค่ามากกว่าการจัดมวยและให้คนต่อสู้เพื่อความสนุกตื่นเต้นเพียงอย่างเดียว จริงๆ บางคนอาจจะเข้าใจการต่อสู้เป็นการเอาความรุนแรงมาเอนเตอร์เทนคน แต่มันไม่ใช่ มันคือสตอรี่กว่านั้นอีกมาก วัน แชมเปียนชิพ คือสังเวียนที่จะทำให้นักกีฬาที่เป็นแชมเปียนต่อยอดไปสู่ความเป็นซุปเปอร์สตาร์ได้
เรามีนักกีฬาที่น่าสนใจที่มีประวัติที่น่าสนใจ มีความเป็นฮีโร่ท้องถิ่น ซึ่งคนในท้องถิ่นจะได้เห็นฮีโร่ของเราไปต่อสู้ในระดับโลกเจอกับฮีโร่กับประเทศอื่น ผมว่าตรงนั้นมันมีสิ่งที่น่าลุ่มหลงมากกว่าแค่ว่า เฮ้ย! มันจะซัดกันเลือดสาดมั้ย (หัวเราะ) ผมอยากให้คนไทยให้โอกาสกับกีฬาศิลปะการต่อสู้ ไม่จำเป็นต้องการต่อสู้ระดับสูงสุดเพียงอย่างเดียวก็ได้ อย่าง วัน ซุปเปอร์ซีรีส์ เราก็มี มวยไทย, คิก บ็อกซิ่ง
วันซุปเปอร์ซีรีส์คือลีกมวยไทยระดับโลกที่ใหญ่ที่สุดเพียงหนึ่งเดียว เราควรจะสนับสนุนมวยไทยในระดับโลก ผมว่าโอกาสที่จะได้เห็นนักกีฬาไทยไปสู่ระดับโลกไม่ว่าจะเป็นในสายของมวยไทย อยากให้เห็นว่าศิลปะการต่อสู้มันเป็นมากกว่าการต่อสู้ แต่มันสามารถทำให้เกิดฮีโร่และสร้างความเปลี่ยนแปลงบางอย่างในประเทศไทยได้ ฮีโร่ในวันนี้ที่ขึ้นอยู่บนสังเวียนอาจจะสร้างแรงบันดาลใจให้กับเด็กเป็นล้านคนที่เติบโตขึ้นมาและได้สัมผัสกับฮีโร่ วันแชมเปียนชิพ บนสังเวียน เขาอาจจะรู้ว่าอยากที่จะเป็นแบบนั้นบ้าง และสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้ด้วย มาร์เชียล อาร์ต หรือศิลปะการต่อสู้ครับ.