หน้าแรกแกลเลอรี่

เปิดไทม์ไลน์ชีวิต 3 ปีของ "นนท์ ม่วงงาม" กับการตะลุยลูกหนังเมืองไทย

ไทยรัฐออนไลน์

20 มี.ค. 2562 15:00 น.

เป็นเวลากว่า 3 ปีแล้วที่ นนท์ ม่วงงาม ตัดสินใจออกจาก Comfort Zone ของตัวเอง เพื่อเลือกมาเผชิญหน้ากับความท้าทายครั้งใหม่ ในชีวิตที่ประเทศไทย...

จากผู้รักษาประตูดาวรุ่งของ "น็องซี" ในฝรั่งเศส สู่การเป็นนายด่านของทีมชาติไทยรุ่นเล็ก ที่เจ้าตัวยึดมือหนึ่งได้อย่างต่อเนื่อง แต่ก็ต้องเผชิญกับหลายสิ่งมากมาย ทั้งช่วงเวลาที่ดีและแย่ปะปนกันไป

"มันก็เป็นประสบการณ์มากมาย ผมเจอกับหลายอย่าง โดยเฉพาะเรื่องของการใช้ชีวิตที่แตกต่างจากเดิมมาก จากจุดเริ่มต้นที่ผมเริ่มกับเชียงราย ก็ต้องเปลี่ยนมาอยู่กรุงเทพฯ และปีนี้ก็ต้องย้ายไปอยู่เชียงใหม่ มันก็ดีนะ เพราะผมต้องอยู่คนเดียว ต้องดูแลตัวเอง และต้องโตขึ้น"

"มันแตกต่างกันเยอะ ที่ฝรั่งเศสผมมีแม่คอยช่วยเหลือทุกอย่างที่ผมต้องการ แต่ตอนนี้ผมต้องช่วยเหลือตัวเองทั้งหมด แต่ทุกปีผมก็ต้องกลับไปหาแม่ที่ฝรั่งเศส"

"ผมยังจำวันแรกที่ลงสนามบินสุวรรณภูมิได้เลย ผมคิดเลยว่ามาทำอะไรที่นี่ ตัดสินใจถูกแล้วใช่ไหม มันตัดสินใจยากมากจริงๆ ส่วนเรื่องอื่นๆ ตอนนี้ ผมก็เริ่มปรับตัวได้หมดแล้ว ภาษาไทยผมก็ฟัง พูดเข้าใจทั้งหมด ตอนนี้ก็กำลังวางแผนที่จะเรียนเรื่องการเขียน การอ่าน"

อย่างไรก็ตาม ตลอดสามปีที่ผ่านมาก็มีน้ำทิพย์ชโลมใจที่คอยช่วยให้ตัวของผู้รักษาประตูวัย 22 ปีรายนี้สู้ต่อไป รวมถึงช่วงเวลาที่ยากลำบากที่ต้องฟันฝ่า

"ช่วงเวลาที่ดีก็มีหลายอย่าง ถ้าเลือกที่ดีที่สุด ก็คงเป็นการได้เหรียญทองซีเกมส์ เพราะมันคือความภูมิใจที่สูงที่สุด ว่าอย่างน้อยครั้งหนึ่งผมสามารถช่วยให้ทีมชาติประสบความสำเร็จได้ และยังคงจำมาถึงทุกวันนี้"

"ส่วนช่วงที่แย่ที่สุด ก็คงเป็นช่วงเวลาที่เหงา คิดถึงแม่ อยากจะกลับบ้าน แต่ก็ยังโชคดีผมต้องขอบคุณเพื่อนๆทุกคน รวมถึงผู้ใหญ่ที่คอยให้ความช่วยเหลืออยู่ตลอดเวลา"

กับการแข่งขันในรอบปีนี้ หลายคนต่างคาดหวังว่าผู้รักษาประตูจากเชียงใหม่ เอฟซี จะถูกวางเป็นมือหนึ่ง หลังจากที่ได้รับโอกาสอย่างต่อเนื่องในทีมชุดนี้ ตลอดสองปีที่ผ่านมา

"ผมไม่ได้กดดันแค่ต้องการทำให้ดีที่สุด และต้องการเป็นส่วนเล็กๆ ส่วนหนึ่งที่ช่วยให้ทีมคว้าชัยชนะ และประสบความสำเร็จให้ได้ เท่านั้นมันก็น่าพอใจ ผมก็พยายามซ้อมและทำผลงานให้ดีที่สุด มันมีหลายช่วงที่ยอมรับเลยว่าทำได้ไม่ดี แต่ก็พยายามพัฒนาตัวเอง มองข้อผิดพลาดของตัวเอง ซ้อมให้หนักกว่าเดิม"

"การแข่งขันรายการนี้ (ยู-23 ชิงแชมป์เอเชีย) ก็เป็นรายการใหญ่ ก็ต้องพยายามทำผลงานที่ดีออกมา เพื่อสร้างความมั่นใจในทีม ทีมชุดนี้มีนักเตะที่ดีหลายคน บางคนอาจจะบอกว่าการไปครั้งนี้ก็แค่การลองทีม แต่ผมไม่คิดอย่างนั้น ผมอยากไปเพื่อชนะเพื่อต่อยอดไปรอบสุดท้ายให้ได้"

"ผมเคยมีประสบการณ์ที่ไม่ดีกับรอบสุดท้ายชิงแชมป์เอเชียมาแล้วที่จีน แต่ผมไม่กลัวเพราะมันผ่านไปแล้ว และผมก็จำเพื่อนำมันมาเป็นบทเรียนเพื่อพัฒนาตัวเอง".