"นพพล" ไม่เคยท้อ ลั่นพร้อมนำทุกคอมเมนต์มาพัฒนาตัวเอง

"โจนัส" นพพล ละครพล เตรียมลบฝันร้ายจากศึกยู-19 ชิงแชมป์เอเชีย และพร้อมนำทุกคอมเมนต์ที่ดูถูก มาเปลี่ยนเป็นแรงบันดาลใจในการพัฒนาตัวเองให้แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม...

วันที่ 13 มี.ค.62 เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ถือเป็นช่วงเวลาที่น่าเสียดายสำหรับทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี ที่พลาดโอกาสไปฟุตบอลเยาวชนโลกแบบหวุดหวิด ด้วยการแพ้ต่อกาตาร์ในช่วงต่อเวลาพิเศษ ทำให้หยุดเส้นทางในศึกชิงแชมป์เอเชีย ไว้ที่รอบ 8 ทีมสุดท้ายไปด้วยความเจ็บปวด พร้อมกับ นพพล ละครพล ผู้รักษาประตูในเกมนั้น ที่ต้องถูกยกให้เป็น "แพะรับบาป" หลังรับลูกฟรีคิกพลาดจนทีมโดนตีเสมอ ก่อนจะมาเสียประตูอีกสี่ลูกในช่วงต่อเวลาพิเศษ

ซึ่ง "โจนัส" นพพล เปิดใจหลังผ่านช่วงเวลาดังกล่าวว่า "ปีที่ผ่านมาผมเฟลมาก โดยเฉพาะพ่อแม่ไปอ่านคอมเมนต์ จิตมันก็ยิ่งตก ตอนนั้นผมโดนด่าเยอะมากจริงๆ ผมเองก็พยายามที่จะผ่านช่วงเวลาเหล่านั้นไปให้ได้" 

"ตอนช่วงหลังจบเกมกับกาตาร์ มันเป็นเหตุการณ์ที่สุดในชีวิตของผมเลยก็ว่าได้ ทั้งเสียใจ เจ็บใจ ผมรู้สึกผิดหวังจริงๆ ที่ช่วยทีมให้ไปบอลโลกไม่ได้ แค่จังหวะนั้นจังหวะเดียวจริงๆ และมันเป็นภาพติดตาผมมาจนถึงทุกวันนี้"

เวลาหมุนเปลี่ยนไป "โจนัส" กลายเป็นสมาชิกใหม่ของ "รถม้ามรกต" ลำปาง เอฟซี ซึ่งเจ้าตัวระเบิดฟอร์มซูเปอร์เซฟทุกนัด จนช่วยให้ทีมเกาะกลุ่มหัวตาราง และสร้างสถิติไม่เสียประตูแม้แต่ลูกเดียว หลังการแข่งขันฟุตบอลไทยลีก 2 ฤดูกาล 2019 ผ่านมา 5 นัด และถือเป็นนายด่านคนเดียวที่ยังไม่เสียประตูในฟุตบอลลีกอาชีพของไทยปีนี้ และมีสิทธิทำลายสถิติที่ อัมรินทร์ เยาว์ดำ เคยทำไว้กับบุรีรัมย์ เอฟซี เมื่อปี 2011

"ตลอดช่วงที่ผ่านมาผมพยายามซ้อมให้หนักขึ้น ผมได้บทเรียนชิ้นโตสิ่งสำคัญคือเราห้ามหยุด เราต้องพัฒนาตัวเองต่อไป คอมเมนต์ต่างๆ ที่เข้ามาโจมตีผมอ่านทั้งหมด แต่ไม่เอามาคิดมาก พร้อมเอามันมาเป็นแรงผลักดัน ทุกคำดูถูกมันเป็นแรงผลักดันสำหรับผมจริงๆ ผมแค่อยากลบทุกคำดูถูก ลบทุกคำสบประมาทและพิสูจน์ตัวเองให้ได้"

"นอกจากนี้สถิติที่ยังไม่เสียประตู ก็ต้องยกเครดิตให้กับพี่ๆ ในทีมทุกคน ที่ช่วยกัน และทำให้ผมมั่นใจด้วย นอกจากนี้ก็ยังเรื่องของดวง เพราะหลายนัดก็มีเสากับคานมาช่วย ส่วนนัดล่าสุดที่เซฟจุดโทษได้ ผมก็คิดว่าตัวผมโชคดีและใจตอนนั้นกำลังมา"

ซึ่งจากผลงานอันยอดเยี่ยมดังกล่าว ทำให้ อเล็กซานเดร กามา ตัดสินใจใส่ชื่อ นพพล ละครพล ในการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก ที่เวียดนาม อีกครั้ง

"ผมดีใจและก็เหมือนเป็นความสำเร็จอีกขั้นหนึ่งของอาชีพนักฟุตบอล และรู้สึกภูมิใจกับตัวเอง ผมไม่เกลียดนะกับการถูกหาว่าเป็นเด็กเส้น เพราะคำตรงนี้แหละที่จะทำให้สู้และต้องทำให้ดีกว่าเดิม ผมต้องการทำให้ดีที่สุดในทุกวินาที กับทุกโอกาสที่เราได้รับ ถ้าวันหนึ่งโดนดูถูกอีกผมก็ต้องปล่อยไป เพราะสุดท้ายผลงานในสนามมันน่าจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุด"